ซื้อประกันรถ ชั้น 1 คุ้มมั้ย ไขข้อสงสัย คุ้มครองอะไรบ้าง คุ้มค่าเบี้ยหรือเปล่า
เมื่อไหร่ที่ประกันรถหมด แล้วเรายังไม่ได้ไปต่อ เมื่อนั้นเหตุการณ์ไม่คาดฝันมักเกิดขึ้นกับเราเสมอ เชื่อว่าเพื่อน ๆ หลายคนคงเคยเจ็บใจกันมาบ้างไม่มากก็น้อยสำหรับเหตุการณ์แบบนี้ รวมไปถึงคนซื้อรถยนต์คันแรก ก็ยังคงมีคำถามอยู่ดีว่าซื้อประกันรถ ชั้น 1 คุ้มมั้ย คุ้มครองอะไรบ้าง คุ้มค่าเบี้ยหรือเปล่า เพราะประกันรถยนต์ชั้น 1 เบี้ยประกันค่อนข้างสูง แต่ละปีต้องเสียเป็นหลักหมื่นเลย เราเลยจะพาทุกคนไปดูกันว่ามีบริษัทไหนบ้างที่น่าสนใจ และตอบคำถามว่ามันคุ้มแล้วหรือไม่สำหรับการเสียเงินหลายหมื่นในแต่ละปี
ซื้อประกันรถ ชั้น 1 คุ้มมั้ย
ซื้อประกันรถ ชั้น 1 คุ้มมั้ยเป็นคำถามที่ถ้าตอบอย่างตรงไปตรงมาคงต้องบอกว่าคุ้ม ถึงแม้ว่าบางปีเราอาจจะต้องเสียค่าเบี้ยประกันหลักหมื่นไปโดยที่ไม่ได้เคลมอะไรเลย แต่มันคงดีกว่าการประสบอุบัติเหตุ หรือเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นมา แล้วเราดันไม่มีประกันเสียอย่างนั้น เพราะค่าใช้จ่ายที่ตามมาจะเยอะกว่าค่าเบี้ยประกันที่เราเคยเสียไปในแต่ละปีแน่นอน เพื่อนๆ คนไหนที่สนใจอยากซื้อประกันรถยนต์ แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะซื้อกับบริษัทไหนดี เราได้รวบรวมข้อมูลของแต่ละเจ้าไว้ในที่เดียวเรียบร้อยแล้ว ไปดูกันเลย
Asia Direct Broker (ADB)
ประกันจากบริษัทที่หลายคนอาจไม่คุ้นหูสักเท่าไหร่สำหรับชื่อ Asia Direct Broker แต่หลายคนน่าจะคุ้นชื่อ Rabbit Care เป็นอย่างดี ให้ความคุ้มครองแบบครอบคลุมทุกกรณี ช่วยให้ประหยัดมากขึ้นกว่า 70% ด้วยราคาเริ่มต้นเพียงแค่ 7,100 บาทเท่านั้น จุดเด่นมีดังนี้
- ชำระค่าเบี้ยประกันได้ทั้งบัตรเครดิต และเงินสด สามารถผ่อนแบบดอกเบี้ย 0% ได้ยาวนานสูงสุด 10 เดือน ช่วยลดภาระค่าดอกเบี้ยได้เป็นอย่างดี
- การันตีความคุ้มค่า ถ้าเจอประกันราคาถูกกว่า บริษัทพร้อมจ่ายเงินส่วนต่างคืนให้ ภายใต้เงื่อนไขของบริษัท
- หากขับดีแบบไม่มีเคลม ปีต่อไปรับส่วนลดค่าเบี้ยประกันไปเลยถูกๆ 50% ถ้าระบุชื่อผู้ขับขี่ ลดเบี้ยประกันอีก 20%
- มีบริการให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง
- สามารถแจ้งเตือนการเคลมได้อย่างง่ายดาย มีเจ้าหน้าที่คอยประสานงานช่วยเหลือผ่านระบบ Line OA ตลอดเวลา
- มอบเงินชดเชย เมื่อต้องเดินทางกลับบ้านหลังจากรถเสีย
- มีศูนย์ซ่อมครอบคลุมอยู่ทั่วทั้งประเทศไทย เกิดเหตุที่ไหนก็ไม่หวั่น
- ไม่ต้องกังวล หากรถต้องซ่อมนาน มีบริการเช่ารถสำรอง 3 วันหลังจากเอารถเข้าศูนย์เพื่อซ่อมแซมจากอุบัติเหตุ
- ให้ความคุ้มครองทั้งรถยนต์ของผู้เอาประกัน ตัวผู้ทำประกัน ผู้โดยสารในรถ และบุคคลภายนอก
Sunday
ประกันรถยนต์จากบริษัทน้องใหม่ที่กำลังมาแรงสุดๆ หลายคนอาจยังไม่รู้จัก เพราะบริษัทนี้ค่อนข้างโดดเด่นเรื่องประกันกลุ่ม ดูแลลูกค้าเหมือนญาติมิตร ใส่ใจ และพร้อมตอบข้อสงสัยทุกอย่างแบบรวดเร็วทันใจสุดๆ ถึงเป็นน้องใหม่ แต่บอกเลยว่าสู้เจ้าเก่าได้แน่นอน จุดเด่นมีดังนี้
- คัดสรรอู่คุณภาพ เครื่องมือทันสมัย ได้มาตรฐาน ซ่อมโดยผู้ชำนาญที่พร้อมให้บริการทุกระดับประทับใจ
- แจ้งเหตุสะดวก สามารถเคลมได้อย่างง่ายดาย ไร้กังวลแม้เพิ่งประสบอุบัติเหตุ พร้อมรับสายตลอด 24 ชั่วโมง
- คุ้มครองความเสียหาย และค่ารักษาพยาบาล ทั้งแบบมีคู่กรณี และไม่มีคู่กรณี
- คุ้มครองทั้งทรัพย์สิน และค่ารักษาพยาบาลของคู่กรณี
รู้ใจ.com
ประกันจากบริษัทที่หลายคนอาจเข้าใจว่าพวกเขาเป็นผู้บริการติดต่อกับบริษัทประกันเจ้าอื่น แต่ความจริงแล้วพวกเขาก็มีผลิตภัณฑ์ประกันภัยของตัวเองเหมือนกัน ให้ความคุ้มครองแบบครอบคลุม ขับขี่ได้อย่างสบายใจ ไร้กังวล เหมือนมีเพื่อนรู้ใจคอยนั่งไปข้างๆ ทุกการเดินทาง จุดเด่นมีดังนี้
- ให้ความคุ้มครองรถยนต์ของเราเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ทั้งแบบมีคู่กรณี และไม่มีคู่กรณี
- ให้ความคุ้มครองบุคคลภายนอก ทั้งความเสียหาย บาดเจ็บ รวมถึงยานพาหนะ กรณีที่เจ้าของรถผู้เอาประกันเป็นฝ่ายผิด
- ให้คุ้มครองความเสียหายของกระจกรถ ไม่ว่าจะเป็นการซ่อมแซม หรือการเปลี่ยนใหม่
- ให้คุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากการถูกโจรกรรม รถหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม ถูกจับเรียกค่าไถ่ และความคุ้มครองอื่นๆ อีกมากมาย
- เบี้ยประกันเริ่มต้นเพียงหลักพันเท่านั้น สามารถตรวจสอบราคาผ่านช่องทางออนไลน์ได้ฟรี การันตีเบี้ยประกันราคาถูก
- ขับขี่ดี ประหยัดค่าเบี้ยประกันเพิ่มอีก 30%
- สามารถผ่อนชำระค่าเบี้ยประกันได้ยาวนานสูงสุด 10 เดือน
- สามารถเคลมได้ผ่าน Video Call บนแอปพลิเคชัน Roojai Mobile App
- สามารถสะสมแต้ม Roojai Rewards แลกรับของรางวัลได้มากมาย
- อู่ในเครือรู้ใจ รับประกันงานซ่อมยาวนาน 12 เดือน
MSIG
เป็นประกันภัยจากบริษัทประกันยอดนิยมอย่าง MSIG ภายใต้โครงการ Insurance Regulatory Sandbox มาพร้อมแนวคิดใหม่ด้วยการนำเอานวัตกรรมเทคโนโลยีของอุปกรณ์ มาประเมินการขับขี่รถยนต์ของผู้ทำประกันว่ามีพฤติกรรมยังไงบ้าง สามารถคำนวณเบี้ยประกันจากพฤติกรรมของเราได้เลย แถมยังตรวจสอบค่าเบี้ยประกันผ่านแอปพลิเคชันได้อีกต่างหาก ยิ่งขับดี ยิ่งประหยัดเบี้ยประกันมากขึ้นกว่าเดิม จุดเด่นมีดังนี้
- เบี้ยประกันรายเดือน คำนวณตามระยะทางขับขี่จริง ความเร็วเฉลี่ย ความเร็วสูงสุด ระยะเวลาในการขับขี่ ช่วงเวลา และพื้นที่ เพื่อประเมินความเสี่ยง และคำนวณเบี้ยประกันอย่างเหมาะสม
- คิดเบี้ยประกันแบบรายวัน แต่จ่ายเบี้ยประกันแบบรายเดือนได้เลย
- มีแอปพลิเคชันประกันขับดี สามารถตรวจสอบข้อมูลการใช้งานรถยนต์ของเรา และเบี้ยประกันได้อย่างสะดวกสบาย ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง
- ให้ความคุ้มครองตลอด 24 ชั่วโมง เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันตอนไหนก็ไม่หวั่น
- มีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินฟรีตลอด 24 ชั่วโมง ทั่วทั้งประเทศไทย
- ไม่หักค่าเสื่อม หากเกิดความเสียหายจากการชนกับยานพาหนะทางบก ทั้งสารหล่อลื่น น้ำมันเครื่อง สารหล่อเย็น ตามที่กำหนดไว้ในเงื่อนไข
- คุ้มครองความเสียหายต่อร่างกาย ชีวิต หรืออนามัยส่วนที่เกินจากวงเงินพ.ร.บ.
- คุ้มครองความเสียหายต่อทรัพย์สิน
- คุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์
- คุ้มครองความเสียหายส่วนแรก
- คุ้มครองกรณีรถยนต์สูญหาย ถูกไฟไหม้ น้ำท่วม
- คุ้มครองทั้งอุบัติเหตุส่วนบุคคล ประกันผู้ขับขี่ และค่ารักษาพยาบาล
ประกันรถชั้น 1 คุ้มครองอะไรบ้าง ซื้อแล้วคุ้มค่าหรือไม่
ประกันรถยนต์ชั้น 1 ไม่ได้มีเพียงแค่การป้องกันอุบัติเหตุเท่านั้น เพราะเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาจริงๆ ก็ให้ความคุ้มครองเราครอบคลุมทุกด้านเหมือนกัน ความคุ้มครองของประกันชั้น 1 โดยส่วนใหญ่ มีดังนี้
- ความเสียหายกับรถยนต์ของเรา
ประกันจะให้ความคุ้มครองกับรถที่มีการทำประกันเอาไว้ ไปถึงอุปกรณ์ที่ใช้ในการตกแต่งรถด้วย ไม่ว่าจะด้วยความสวยงาม หรือการใช้งานก็ตาม ที่สำคัญคือคู่ครองหมดทั้งรถของเรา และรถของคู่กรณี โดยไม่สนว่าเราเป็นคนที่ถูก หรือผิดกันแน่ แถมยังคุ้มครองกรณีเกิดอุบัติเหตุโดยที่ไม่มีคู่กรณีอีกต่างหาก คุ้มครองไปถึงเหตุการณ์น้ำท่วม ไฟไหม้ และสูญหายด้วย เรียกได้ว่าครอบคลุมทุกความเสียหายสุดๆ
- ความเสียหายต่อบุคคลภายนอก
ถ้าเกิดว่าบุคคลภายนอกได้รับความเสียหายต่อทรัพย์สิน ชีวิต หรือร่างกาย รวมถึงคู่กรณีของเราก็ได้รับความเสียหายแบบนั้นเหมือนกัน เหตุเกิดจากรถทำประกันชั้น 1 เอาไว้ ประกันสังคมรับผิดชอบจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้เราตามจริงไม่ ตามจำนวนเงินที่มีการระบุเอาไว้ในกรมธรรม์
- คุ้มครองผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร
เวลาเกิดอุบัติเหตุ คนที่ได้รับผลกระทบโดยตรงก็คือผู้ขับขี่ และผู้โดยสารที่อยู่ในรถทั้ง 2 คัน บางครั้งอาจเกิดผลกระทบกับบุคคลภายนอกจากอุบัติเหตุของเรา และคู่กรณีอีกต่างหาก ประกันชั้น 1 จะให้ความคุ้มครองหมด ไม่ว่าจะเป็นค่าเสียหายที่เกินจากความคุ้มครองตามพ.ร.บ. เป็นจำนวนขั้นต่ำตามที่บริษัทต้องรับผิดชอบ และยังรวมไปถึงเงินประกันตัวผู้ขับขี่กรณีโดนควบคุมตัวจากคดีอาญาอีกด้วย
คำถามที่ว่าประกันชั้น 1 มีค่าหรือเปล่า แน่นอนว่าคำตอบของมันคือคุ้ม เพราะประกันชั้น 1 จะให้ความคุ้มครองทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุ เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา เราแทบจะไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่ต้องชดใช้เลย และแน่นอนว่ามันจะเป็นเงินที่มากกว่าเบี้ยประกันที่เราเสียไป ใครที่กำลังลังเลว่าเพิ่มเงินซื้อเป็นประกันชั้น 1 ไปเลยดีไหม เราขอแนะนำว่าซื้อเลย รับรองอุ่นใจ ไม่ผิดหวัง
กรณีที่ประกันรถชั้น 1 จะไม่คุ้มครอง
ถึงแม้ว่าประกันชั้น 1 จะคุ้มครองครอบคลุมมากแค่ไหนก็ตาม แต่ถ้าคุ้มครองทุกกรณี บริษัทประกันคงเสียเปรียบแย่ เพราะหลายครั้งอุบัติเหตุเกิดจากตัวผู้ใช้งานเองที่ทำผิดกฎระเบียบ มันจึงมีหลายกรณีเหมือนกันที่ประกันชั้น 1 เองก็ไม่คุ้มครอง ดังนี้
- เมาแล้วขับ
ถ้าเราเกิดอุบัติเหตุแล้วตรวจปริมาณแอลกอฮอล์พบว่ามีเกินกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ในร่างกาย แล้วนับว่าเรามีอาการเมาทันที ดังนั้น ถ้าเกิดอุบัติเหตุแล้วเรามีอาการเมาตามกฎหมาย ประกันรถยนต์ไม่ว่าจะชั้นไหนก็ไม่ให้ความคุ้มครองทั้งนั้น
- ใช้รถผิดกฎหมาย
ถ้าเรานำเอารถไปใช้ผิดกฎหมาย อย่างเช่นการกระทำความผิด การทำร้ายร่างกายคนบนรถยนต์จนเกิดอุบัติเหตุ การขโมยของ การหลบหนีตำรวจ หรือแม้แต่พุ่งชนด่าน ประกันรถยนต์ทุกชั้นจะไม่ให้ความคุ้มครองในกรณีนี้
- การแข่งความเร็วบนทางสาธารณะ
ถ้าเรานำเอารถยนต์ไปแข่งขันความเร็วบนทางสาธารณะ หรือทางหลวง ประกันรถยนต์ทุกชั้นจะไม่ให้ความคุ้มครอง เพราะถือว่าเราตั้งใจขับรถยนต์ทั้งที่รู้ว่ามีโอกาสเกิดอุบัติเหตุมากเป็นพิเศษ หรือหวังผลว่าหากเกิดอุบัติเหตุแล้วสามารถขอเป็นประจำได้
- การใช้รถยนต์แบบผิดประเภท
รถยนต์ส่วนบุคคลที่ทำประกันชั้น 1 สามารถใช้ในการเดินทางโดยสารไปไหนมาไหนได้ ตามปกติ ถ้าเกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้นมาจากเดินทางวันเสาร์ไปไหนมาไหน ประกันก็ให้ความคุ้มครองตามนั้น แต่ถ้าเราใช้ผิดประเภท เอาไปใช้เชิงพาณิชย์ ต่อมาเกิดอุบัติเหตุจนรถยนต์ได้รับความเสียหาย ประกันจะไม่รับผิดชอบ หรือชดใช้ผู้เสียหายให้กับเรา เพราะเราไม่ทำตามเงื่อนไขตามในกรมธรรม์นั่นเอง
- การดัดแปลงรถยนต์โดยที่ไม่แจ้ง
ความจริงแล้วเราสามารถดัดแปลง แต่งเติม หรือตกแต่งรถยนต์ได้ตามความชื่นชอบ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มความสวยงาม การเร่งความเร็ว เพิ่มสมรรถภาพของรถยนต์ แต่ทุกครั้งที่มีการดัดแปลง ตกแต่ง หรือแต่งเติม เราจำเป็นจะต้องแจ้งบริษัทผู้ให้บริการเราทุกครั้ง รวมไปถึงการติดแก๊สด้วย เพราะการดัดแปลงสภาพรถทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามข้อกฎหมาย ถ้าเราดัดแปลงโดยที่ไม่แจ้งบริษัทประกัน แล้วเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา บริษัทก็มีสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบเหมือนกัน
สรุปแล้วซื้อประกันรถ ชั้น 1 คุ้มมั้ย แน่นอนว่ามันต้องคุ้มค่ามากกว่าประกันชั้น 2 หรือชั้น 3 อยู่แล้ว เพราะให้ความคุ้มครองครอบคลุมผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคนในอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น แต่ละเจ้าก็มีความคุ้มครอง และวงเงินคุ้มครองที่แตกต่างกันออกไป เพิ่งจะส่งผลต่อเบี้ยประกันด้วย เราต้องพิจารณาให้ดีว่าเรามีงบประมาณซื้อประกันมากน้อยแค่ไหน อยากได้ความคุ้มครองอะไรบ้าง เป็นวงเงินเท่าไหร่ ก็จะช่วยให้เราสามารถเลือกซื้อได้ตรงตามความต้องการมากขึ้นกว่าเดิม