หนี้บัตรเครดิต จ่ายขั้นต่ำ เสี่ยงเป็นหนี้ก้อนโต ควรแก้อย่างไร
หลายคนเลือกใช้งานบัตรเครดิต ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันออกไป หลัก ๆ ก็คงจะไม่พ้นความสะดวกสบาย หรืออาจช่วยเพิ่มสภาพคล่องชั่วคราว ซึ่งหากการใช้บัตรเครดิตหากมองเพียงแค่เรื่องสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่จะได้รับอย่างคุ้มค่ามากมายแล้ว เช่น โปรโมชั่นจากการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตด้วยการแบ่งจ่ายรับดอกเบี้ย 0% รับคะแนนสะสม รับส่วนลด รับเครดิเเงินคืน และประโยชน์ต่าง ๆ อีกมากมายที่มาพร้อมกับบัตรเครดิต โดยที่ยังสามารถชำระหนี้บัตรเครดิต ได้อย่างมีวินัยก็จะยังไม่ถูกคิดดอกเบี้ย เพราะมีระยะเวลาปลอดดอกเบี้ยบัตรเครดิตนั่นเอง แต่ก็ยังมีคนส่วนหนึ่งที่ยังเลือกวิธีที่จะชำระหนี้บัตรเครดิตขั้นต่ำอยู่ไม่น้อย ซึ่งนี่คือหนทางไปสู่การเป็นหนี้ก้อนใหญ่ขึ้น จากผลลัพธ์การจ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำหรือการชำระขั้นต่ำ สิ่งที่ตามมาแน่นอนคือ เรื่องต่อไปนี้ หนี้บัตรเครดิต จ่ายขั้นต่ำ เสี่ยงเป็นหนี้ก้อนโต ควรแก้อย่างไร หากพร้อมแล้วไปชมกันเลย
การชำระขั้นต่ำ หนี้บัตรเครดิต คืออะไร
ก่อนจะสมัครบัตรเครดิตต้องมาทำความเข้าใจก่อนว่า การชำระขั้นต่ำ เป็นการชำระหนี้บัตรเครดิตขั้นต่ำ เช่น 3%, 5%, หรือ 10% ของยอดค่าการใช้จ่ายในรอบบิลเดือนนั้น ๆ เพราะบางคนคิดว่าการแบ่งจ่ายไปก่อนดีกว่าจ่ายเป็นเงินก้อนใหญ่ หรือจ่ายเต็มจำนวน โดยการเลือกวิธีชำระเงินคืนธนาคารเมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตนั้น จะมีอยู่ 2 แบบให้เราเลือก ได้แก่ แบบชำระเต็มจำนวน และแบบชำระขั้นต่ำ
ระยะปลอดดอกเบี้ย หนี้บัตรเครดิต
อีกสิ่งที่ต้องทราบก็คือ บัตรเครดิตมีระยะเวลาปลอดดอกเบี้ยตั้งแต่วันแรกที่ใช้จ่ายจนถึงวันครบกำหนด การชำระบัตรเครดิต ถ้าหากเรามีวินัยในการใช้จ่ายตามกำหนดเวลา และชำระเต็มจำนวนในแต่ละรอบบิล ก็จะได้รับประโยชน์ต่าง ๆ นั้นอย่างเต็มที่ โดยยังไม่ต้องเสียดอกเบี้ยบัตรเครดิตอีกซึ่งเป็นการใช้บัตรเครดิตได้อย่างชาญฉลาดรับสิทธิประโยชน์อย่างคุ้มค่า ในทางกลับกัน หากครบกำหนดชำระบัตรเครดิต แต่เลือกชำระขั้นต่ำ สิทธิในการใช้ระยะเวลาปลอดดอกเบี้ยบัตรเครดิตย่อมหายไป นั่นหมายถึงเราต้องจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น เพราะจะถูกนับดอกเบี้ยตั้งแต่วันแรกที่ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต ดอกเบี้ยบัตรเครดิตจะเป็น 2 ยอด หรือที่เรียกว่า ดอกเบี้ยสองต่อ ได้แก่ ดอกเบี้ยจากยอดใช้จ่ายโดยจะถูกคำนวณตั้งแต่วันแรกจนถึงวันที่ ครบกำหนดชำระและดอกเบี้ยจากยอดค้างชำระหลังจากที่เราได้ทำ การจ่ายยอดขั้นต่ำไปแล้วซึ่งจะถูกนับไปจนถึงวันที่สรุปยอดบัญชีครั้งถัดไป
จะเห็นได้ว่า การชำระขั้นต่ำ ทั้งนี้ทั้งนั้นโดยทั่วไปดอกเบี้ยบัตรเครดิตมีอัตราที่ค่อนข้างสูงอยู่แล้ว ดังนั้น การคิดดอกเบี้ยบัตรเครดิตจะแตกต่างออกไปจากการชำระคืนแบบเต็มจำนวน และหากไม่ สามารถชำระหนี้ทั้งหมดได้ ดอกเบี้ยก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นแบบไม่มีที่สิ้นสุดจนกลายเป็นหนี้ก้อนใหญ่ขึ้น
หนทางเป็นหนี้หนี้ก้อนใหญ่ ผ่อนนานขึ้น และดอกเบี้ยสูง
บัตรเครดิตเป็นเครื่องมือช่วยทางการเงิน เป็นเหมือนดาบสองคมซึ่งมีประโยชน์มากมายแต่ก็ย่อมมีโทษด้วยเช่นกัน ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดในการวางแผนการเงิน มีวินัยในการใช้จ่าย เพราะการจ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำ เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดหนี้บานปลายได้แบบไม่มีวันสิ้นสุดได้ และหากไม่สามารถชำระหนี้บัตรเครดิตได้เต็มจำนวน การเลือกวิธีชำระหนี้บัตรเครดิตขั้นต่ำย่อมแสดงให้เห็นว่ารายได้ที่ไม่เพียงพอรายจ่ายในเวลานี้ หากยังใช้จ่ายบัตรเครดิตต่อไป ผลตามมาย่อมทำให้เป็นหนี้มากขึ้น ต้องผ่อนจ่ายนานขึ้นและดอกเบี้ยบัตรเครดิตก็สูงขึ้นตามมาเรื่อย ๆ
หากใครกำลังอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ วิธีแก้ไขที่สามารถทำได้ทันทีด้วยการปรับวินัยการใช้จ่าย หรือควรหยุดใช้บัตรเครดิตก่อน หากยังใช้จ่าย และชำระหนี้ขั้นต่ำต่อไป ดอกเบี้ยจะเพิ่มสูงมากขึ้น กลายเป็นหนี้เกินตัวจนเป็นหนี้สะสมที่ยาวนานขึ้น ทำให้โอกาสในการออกจากวงจรหนี้นั้นยิ่งเป็นเรื่องที่ยากขึ้นตามไปด้วย และยังส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน และเกิดความเครียดสะสมอีกด้วย
สุดท้ายแล้ว ขอแนะนำว่า ทางออกจากวงจรการเป็นหนี้บัตรเครดิตไม่สิ้นสุด คือการชำระหนี้เต็มจำนวน และตามกำหนดเวลาชำระหนี้บัตรเครดิต ด้วยวิธีการชำระหนี้แบบหักบัญชีอัตโนมัติจากบัญชีเงินฝาก จะเป็นทางออกที่ดีเพื่อช่วยลดการเป็นหนี้บัตรเครดิตได้ง่ายขึ้น และมากไปกว่านั้นยังไม่มีค่าติดตามทวงถามหนี้ตามมาได้อีกด้วย