อดีต ผู้คนส่วนมากนิยมนำเงินไปฝาก หรือซื้อประกันแบบสะสมทรัพย์ ส่วนคนกลุ่มฐานะการเงินที่ดี หรือคนที่มีความรู้ก็จะเริ่มสนใจการลงทุน ในหุ้น ตราสารหนี้ อสังหาฯ ทองคำ น้ำมัน และอื่นๆ ที่สร้างผลกำไรให้มากขึ้น ซึ่งต้องใช้เวลาในการศึกษาเพื่อลงทุน ก่อนจะเริ่มลงมือลงทุนอะไรสักอย่าง ต้องค่อยเป็นค่อยไป สะสมประสบการณ์ให้มาก เพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุน โดยส่วนมากนักลงทุนมือใหม่มักจะพบปัญหาเหล่านี้
สำหรับการลงในปัจจุบัน เป็นการลงทุนที่เปิดกว้างมากขึ้น ไม่ได้จำกัดให้การลงทุนในสินทรัพย์แบบเดิม ๆ อีกแล้ว และไม่จำกัดด้วยว่าต้องใช้เงินทุนเท่าไหร่ จึงจะสามารถลงทุนได้ ทุกคนมีโอกาสรวมลงทุน โดยเริ่มจากการลงทุนในกองทุนรวม ซึ่งก็มีทั้งข้อได้เปรียบในเรื่องของโอกาสจะได้ผลตอบแทนที่ดีกว่าสินทรัยพ์ทั่วไป ด้วยการกระจายความเสี่ยง โดยมีมืออาชีพเป็นผู้บริหารจัดการทุนให้กับเรา อย่างไรก็ตาม ก้าวแรกของการลงทุนนั้น คุณจำเป็นต้องรู้หลักการดังนี้ค่ะ
หลักการลงทุนที่คุณจำเป็นต้องรู้
-
การเลือกกองทุนให้เหมาะสมกับตัวคุณ
ก่อนที่คุณจะตัดสินใจในการลงทุนไปกันอะไรก็ตาม คุณต้องสำรวจความพร้อมของตัวคุณเองก่อนว่า สามารถรับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นได้มากน้อยอย่างไร และมีความพร้อมเกี่ยวกับเงินทุนหรือไม่
หากคุณเป็นผู้ที่ชอบความท้าทาย กล้าได้กล้าเสีย มองเห็นโอกาสที่ได้รับผลตอบแทนสูง เราแนะนำให้เลือกลงทุนในกองทุนรวมตราสารทุน, กองทุนรวมหมวดอุตสาหกรรม และกองทุนที่มีการลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก ก็น่าจะเหมาะสมและตอบสนองความต้องการของคุณมากที่สุด
แต่ถ้าคุณสามารถยอมรับการเปลี่ยนแปลงได้ระดับหนึ่ง ชอบเห็นผลตอบแทนแบบพอดี แนะนำให้ลองลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้ และกองทุนรวมผสม น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
และหากคุณเป็นผู้ที่มีความอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลง การลงทุนมุ่งเน้นไปที่ช้าแต่ชัวร์ ไม่มีผิดหวัง แนะนำให้คุณลองพิจารณาการลงทุนในกองทุนรวมตลาดเงินที่ลงทุนเฉพาะในประเทศไทย, กองทุนรวมตลาดเงิน และกองทุนรวมพันธบัตรรัฐบาลดู ก็น่าจะเหมาะกับความต้องการของคุณมากกว่าการลงทุนแบบอื่น ๆ
-
ศึกษาทำความรู้จักกับกองทุนรวม
กองทุนรวม เป็นการนำเงินหรือทรัพย์สินที่เอามารวมเป็นก้อนเดียวกัน เพื่อไปลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ เมื่อสร้างผลกำไรได้ ก็จะนำมาแบ่งตามสัดส่วนให้กับผู้ลงทุนต่อไป กองทุนรวมมีอยู่ด้วยกัน 8 ประเภท ได้แก่
- กองทุนรวมตลาดเงินที่ลงทุนเฉพาะในประเทศไทย
กองทุนรวมตลาดเงินที่ลงทุนเฉพาะในประเทศ หากคุณเป็นนักลงทุนมือใหม่ หรือยังไม่กล้ารับความเสี่ยงสูง ๆ กองทุนรวนนี้ น่าจะเหมาะสมกับคุณมากที่สุด เนื่องจากกองทุนรวมนี้มีความเสี่ยงต่ำที่สุด มีโอกาสผิดนัดชำระหนี้น้อยมาก โดยกองทุนรวมนี้จะมีนโยบายลงทุนเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น โดยลงทุนในเงินฝากและตราสารหนี้ ซึ่งมีกำหนดชำระคืนเมื่อทวงถามหรือครบกำหนดชำระคืน หรือหมดอายุสัญญาไม่เกิน 1 ปีนับแต่วันที่ลงทุนในทรัพย์สินหรือเข้าทำสัญญานั้น ๆ หากคุณคิดว่ากองทุนรวมที่คุณลงทุนไปมีความเสี่ยง หรือไม่คุ้มกับเงินที่คุณลงทุนไป คุณก็สามารถขอคืนได้ทันที หรือใช้เวลาลงทุนไม่เกิน 1 ปี
เห็นไม่ว่ากองทุนรวมตลาดเงินที่ลงทุนเฉพาะในประเทศไทย นอกจากมีความเสี่ยงน้อยแล้ว ยังเหมาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่ต้องการสะสมประสบการณ์ และเป็นก้าวแรกในการสร้างความมั่นคงให้กับการก้าวไปสู่โลกของการลงทุนในอนาคต
- กองทุนรวมตลาดเงิน
กองทุนรวมตลาดเงิน เป็นการลงทุนในกองทุนรวมที่คล้ายกันกับกองทุนรวมประเภทแรก แต่เพิ่มความเสี่ยงขึ้นมาอีกเล็กน้อย เพราะถึงแม้ว่าจะมีนโยบายคล้ายกับประเภทแรก แต่เพิ่มความเสี่ยงในการลงทุนในต่างประเทศด้วยบางส่วน แต่ไม่เกิน 50% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) ถึงแม้จะมีการลงทุนบางส่วนในต่างประเทศ แต่ก็ยังถือว่าเป็นกองทุนรวมที่มีความเสี่ยงต่ำอยู่ดี ซึ่งหากคุณลองมองอีกมุม ยิ่งมีความเสี่ยงสูง ผลตอบแทนก็ย่อมสูงตามไปด้วยนั่นเอง
- กองทุนรวมพันธบัตรรัฐบาล
กองทุนรวมพันธบัตรรัฐบาล เป็นกองทุนที่อาจจะมองแล้วมีความเสี่ยงที่ต่ำมาก ๆ เพราะนโยบายเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV ทำให้ผู้ลงทุนหลายคนคิดว่าพันธบัตรรัฐบาลมีโอกาสผิดชำระเงินมีน้อยมาก จนคิดว่านี่ก็คือกองทุนรวมที่เหมาะสมสำหรับการลงทุนที่สุด แต่ความเสี่ยงของกองทุนนี้กลับมีมากกว่า 2 ประเภทแรก เนื่องจากพันธบัตรมีช่วงอายุหลากหลาย หรือพันธบัตรที่มีอายุมากกว่า 1 ปีได้ ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจึงเป็นเรื่องของ Maturity Risk Premium (ส่วนชดเชยความเสี่ยงจากระยะเวลาครบกำหนดไถ่ถอน)
ถึงอย่างไร กองทุนรวมประเภทนี้ยังมีความเสี่ยงที่ต่ำอยู่ และเหมาะสมกับนักลงทุนมือใหม่ ที่อ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจและผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับ
- กองทุนรวมตราสารหนี้
กองทุนรวมตราสารหนี้ เป็นกองทุนที่ไม่มีข้อจำกัดว่าต้องเป็นตราสารหนี้แบบไหน สามารถลงทุนได้ในหุ้นกู้รัฐวิสาหกิจ และหุ้นกู้เอกชน รวมไปถึงพันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ ตั๋วเงินคลัง บัตรเงิกฝากธนาคาร ตั๋วสัญญาใช้เงิน และ ตั๋วแลกเงิน ถึงแม้ว่า กองทุนรวมประเภทนี้จะมีความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น จากราคาของตราสารหนี้ที่มีความผันผวนขึ้นลงได้ตามสภาวะของตลาด แต่เนื่องจากตราสารหนี้ ให้ผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ยที่มีความสม่ำเสมอ ส่งผลให้กองทุนรวมนี้ เป็นกองทุนรวมที่มีความเสี่ยงต่ำ และเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการรับความเสี่ยงมาก
- กองทุนรวมผสม
กองทุนรวมผสม เป็นกองทุนรวมที่สามารถลงทุนในหลักทรัพย์ หรือทรัพย์สินประเภทต่าง ๆ ได้ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นเงินฝาก ตราสารหนี้ ตราสารทุน หรือตราสารอื่น ๆ แต่ต้องมีสัดส่วนของการลงทุนในตราสารทุนช่วงเวลาหนึ่ง ไม่น้อยกว่า 35% และไม่เกิน 65% ของ NAV
กองทุนรวมประเภทนี้ จึงมีความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นมาจากการลงทุนในตราสารทุน (หุ้นสามัญ ใบสำคัญแสดงสิทธิ์ หน่วงลงทุน และอื่น ๆ ) ซึ่งมีความผันผวนของราคาหรือมีความเสี่ยงที่ค่อนข้างสูง แต่ก็ยังถือได้ว่ามีความเสี่ยงปานกลาง เพราะกองทุนรวมยังสามารถเลือกลงทุนในด้านตราสารทุนเพียงแค่ 35% และกระจายความเสี่ยงไปยังการลงทุนด้านอื่น ๆ ได้อีกด้วย กองทุนรวมนี้เหมาะกับผู้ที่ลงทุนที่มีความต้องการผลตอบแทนปานกลาง ซึ่งแน่นอนว่า ต้องแบกรับความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจาก 4 ประเภทแรก
- กองทุนรวมตราสารทุน
กองทุนรวมตราสารทุน หรือเรียกอีกอย่างว่า “กองทุนรวมหุ้น” ซึ่งมีนโยบายเกี่ยวกับการลงทุนในตราสารทุนประเภทต่าง ๆ ได้แก่ หุ้นสามัญ, หุ้นบริมสิทธิ, ใบสำคัญแสดงสิทธิในการซื้อหลักทรัพย์ รวมถึงหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอื่น ๆ โดยสัดส่วนของการลงทุนต้องไม่น้อยกว่า 65% ของ NAV ทั้งนี้เงินทุนส่วนที่เหลือก็สามารถนำไปใช้ลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินประเภทอื่น ๆ ได้อีกด้วย อย่างเช่น เงินฝาก หรือตราสารหนี้ หรือคุณอาจจะนำเงินส่วนที่เหลือไปลงทุนในตราสารทุนก็สามารถทำได้
อย่างไรก็ตามการลงทุนในตราสารทุนมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากกองทุนรวมประเภทตราสารทุน ไม่สามารถกระจายความเสี่ยงไปยังการลงทุนประเภทอื่น ๆ ได้ จึงทำให้กองทุนรวมตราสารทุนมีความเสี่ยงสูง แต่ก็แน่นอนว่าย่อมมีโอกาสได้ผลตอบแทนสูงเช่นเดียวกัน กองทุนรวมตราสารทุนจึงเหมาะกับผู้ที่ชอบความท้าทาย และหวังผลตอบแทนสูง ๆ สามารถรับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นได้
- กองทุนรวมหมวดอุตสาหกรรม
กองทุนรวมหมวดอุตสาหกรรม เป็นกองทุนรวมหุ้นที่ลงทุนเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรม หรือ Sector Fund ซึ่งเป็นการลงทุนแบบเฉพาะ Sector พลังงาน หรือธนาคารพาณิชย์ โดยทั่วไปเป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงสูงกว่ากองทุนหุ้นทั่วไป เนื่องจากเป็นกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนเฉพาะใน Sector ที่กำหนดเอาไว้เท่านั้น ทำให้ความเสี่ยงย่อมเพิ่มขึ้นจากกองทุนรวมหุ้นปกติ เพราะแม้ว่าบางปีดัชนีตลาดหุ้นไทยจะเพิ่มขึ้น 30% แต่บาง Sector กลับมีดัชนีเพิ่มขึ้นเพียง 8 – 10% เท่านั้น ดังนั้น ผู้ที่ต้องการลงทุนในกองทุนหุ้นรวมประเภทนี้ จำต้องมีการศึกษารวมถึงรู้จักโครงสร้างของกองทุนรวม ว่าเน้นหรือเชี่ยวชาญในการลงทุน Sector ไหน รวมถึงผู้ลงทุนควรมีความรู้เรื่องหุ้นให้มากอีกด้วย ถึงจะลงทุนแล้วได้ผลกำไรตามที่ต้องการเอาไว้ได้ ทั้งนี้ การลงทุนในกองนี้สามารถให้ผลตอบแทนสูง และก็แน่นอนว่าความเสี่ยงก็ต้องสูงเช่นกัน
- กองทุนที่มีการลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก
กองทุนรวมที่มีการลงทุนในทรัพย์สินทางเลือก นโยบายลงทุนในทรัพย์สินที่เป็นทางเลือกใหม่ในการลงทุน หรือมีโครงสร้างซับซ้อน และเข้าใจยาก อย่างเช่น ทองคำ น้ำมัน รวมถึง ตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้า แฝงที่ไม่คุ้มครองเงินต้น ผู้ที่ต้องการลงทุนในกองทุนรวมประเภทนี้ต้องมีความรู้ในกลุ่มทรัพย์สินที่กองทุนรวมนั้น ๆ ลงทุน อย่างเช่น กองทุนรวมที่เน้นด้านน้ำมัน ผู้ลงทุนควรมีความรู้ด้านราคาน้ำมัน ความผันผวนทางตลาดโลก และในประเทศ ซึ่งแน่นอนว่ามีความเสี่ยงสูงมากกว่ากองทุนประเภทอื่น เพราะเป็นผลมาจากความผันผวนทางราคาตามตลาดโลกนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง หากคุณเพิ่งเข้าสู่วงการนี้เป็นครั้งแรก แนะนำให้ศึกษาอย่างรายละเอียดต่าง ๆ ก่อนตัดสินใจลงทุนไปกับอะไรก็ตามค่ะ ขอให้โชดดีกับทุกการตัดสินใจลงทุนของคุณค่ะ