คงไม่มีใครที่อยากจะเป็นหนี้ ไม่ว่าจะเป็นหนี้บัตรเครดิต หนี้บัตรกดเงินสด หรือแม้แต่หนี้สินนอกระบบ เพราะการเป็นหนี้สร้างความเดือดร้อนและความทุกข์ให้กับผู้เป็นหนี้ อีกทั้งการจัดการกับหนี้ที่เกิดขึ้นนั้นก็ต้องใช้วิธีการจัดการที่ถูกต้อง ไม่เป็นการก่อหนี้ที่ซํ้าซ้อน
ซึ่งแท้จริงแล้วหนี้สินนั้นสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 รูปแบบ คือ
หนี้สินที่ก่อรายได้ : หมายถึงหนี้ที่นำไปลงทุนเพื่อสร้างผลกำไร เช่น กู้ยืมสินเชื่อจากสถาบันการเงินไปลงทุนหรือขยายกิจการ เมื่อได้ผลกำไรก็นำเงินไปคืนพร้อมดอกเบี้ยให้กับทางสถาบันการเงิน หนี้ในลักษณะนี้ถือเป็นหนี้ดี ที่จะช่วยให้ผู้เป็นหนี้สามารถสร้างกำไรจากการเป็นหนี้ และข้อดีของการเป็นหนี้ในลักษณะ คือ ผู้กู้จะได้รับอัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรม และมีระยะเวลาที่กำหนดคืนชัดเจน แต่ทั้งนี้ผู้กู้ก็ต้องสามารถที่จะนำเงินมาคืนได้ตามระยะเวลาที่สถาบันการเงินได้กำหนดไว้
หนี้ที่ไม่ได้ก่อรายได้ : หมายถึงหนี้ที่ไม่ได้ก่อเกิดรายได้ เช่น หนี้บัตรเครดิต หนี้บัตรกดเงินสด หนี้นอกระบบ หนี้เหล่านี้ถือเป็นหนี้ที่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว ผู้เป็นหนี้จะต้องมีหน้าที่ชำระคืนให้ไวที่สุด เพราะด้วยอัตราดอกเบี้ยที่สูงและคิดดอกเบี้ยแบบรายวัน
เมื่อวานก่อนผู้เขียนได้มีโอกาสดูรายการ “ทีเด็ดลูกหนี้” เป็นรายการปลดหนี้ให้กับผู้เป็นหนี้ ซึ่งมีกรณีศึกษาที่น่าสนใจและอยากจะนำมาแบ่งปันให้กับผู้อ่านที่กำลังเป็นหนี้ โดยเฉพาะหนี้นอกระบบว่าจะหาทางออกได้อย่างไร
ผู้เข้าร่วมรายการได้ก่อหนี้ โดยการไปกู้ยืมเงินมาจากคนปล่อยกู้นอกระบบ โดยมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงมาก เริ่มต้นจากการยืมเงินจำนวน 5,000 บาท แต่ไม่สามารถนำเงินมาชำระคืนให้กับเจ้าหนี้ได้ จึงไปยืมจากอีกคนหนึ่งเพื่อมาโป๊ะให้กับเจ้าหนี้รายที่ 1 พอถึงเวลาที่ต้องคืนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยให้กับเจ้าหนี้รายที่ 2 ก็ไม่มีเงินมาชำระ จึงไปยืมเจ้าหนี้รายที่ 3 ทำแบบนี้ไปเรื่อยจนเป็นดินพอกหางหมู หนี้จึงเป็นก้อนโตมากขึ้นเรื่อยๆจนท้ายที่สุดก็ต้องแบกหนี้รายวันจำนวนเกือบวันละเกือบ 1 หมื่นบาท ผู้อ่านต้องเข้าใจก่อนว่าหนี้นอกระบบจะคิดดอกเบี้ยแบบรายวัน และดอกเบี้ยจะโหดมากๆๆๆ และที่สำคัญเมื่อเจ้าหนี้ทวงถาม ถ้าไม่สามารถนำมาคืนได้ ก็จะคุกคามหรือยึดทรัพย์สินไปจากลูกหนี้
จากกรณีที่เกิดขึ้นข้างต้น ทางออกสำหรับลูกหนี้รายนี้ คือ
1. ยืมเงินจากญาติพี่น้อง หรือคนรู้จัก โดยไม่เสียดอกเบี้ยและระยะเวลากำหนดคืน โดยอาจจะเป็นการถยอยคืนจนกว่าจะครบ แต่วิธีการนี้ ผู้เป็นหนี้อาจจะต้องทำสัญญากับผู้ให้ยืม เพื่อเป็นการผูกมัดตนเองว่าจะไม่ไปก่อหนี้ซํ้าอีก แต่จะตั้งหน้าตั้งตาทำงานเพื่อนำเงินมาชำระคืน ทั้งนี้วิธีการนี้ถืเอป็นวิธีการที่ดีที่สุด แต่ก็ต้องยอมหน้าทนที่จะไปยืมสักหน่อย
ในกรณีที่ไม่อยากบากหน้าไปขอยืมใคร ก็ต้องเลือกที่จะแก้ไขหนี้ด้วยตนเอง โดยมีวิธีการดังนี้
2. นำทรัพย์สินที่มีค่าไปขาย เพื่อนำเงินที่ขายได้ไปชำระหนี้สิน การนำสินค่าไปขาย เป็นทางออกที่อาจจะยากจะตัดใจสักนิด แต่ขอให้คิดว่า ถ้ายังมีลมหายใจอยู่ก็สามารถที่จะหาซื้อใหม่ได้ แต่หนี้สินอยู่ตรงหน้าแล้ว ก็ควรที่จะจัดการให้หมดก่อน
นำหนี้นอกระบบเข้าสู่ระบบ เป็นวิธีการที่นิยมกันมาก ประกอบกับหลายสถาบันการเงินเปิดโอกาสให้ผู้ที่เป็นหนี้นอกระบบสามารถนำหนี้นอกระบบเข้าสู่ระบบ โดยการกู้เงินจากสถาบันการเงินไปชำระหนี้นอกระบบ จากนั้นจึงค่อยมาชำระคืนให้กับทางสถาบันการเงิน พร้อมอัตราดอกเบี้ย ซึ่งวิธีการนี้ ถือเป็นวิธีการที่ดี เพราะการเป็นหนี้ในระบบจะมีอัตราดอกเบี้ยที่ถูกกว่ามากและเป็นธรรม และไม่เสี่ยงต่อการทวงหนี้แบบโหดๆจากเจ้าหนี้
3. ไม่ก่อหนี้เพิ่ม ถือเป็นเรื่องที่สำคัญถ้าตัดสินใจจะปลดแอกจากการเป็นหนี้ ก็ต้องไม่ก่อหนี้เพิ่ม แต่ต้องเลือกใช้วิธีที่กล่าวมาข้างต้นเป็นทางออกสำหรับการปลดหนี้
จากที่กล่าวมาทั้งหมดทั้งมวล เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นโดยทั่วไปในสังคมไทย ถามว่าพวกเค้ารู้หรือไม่ถึงความโหดร้ายของหนี้นอกระบบ ตอบเลยว่า รู้อยู่เต็มอก แต่ก็จำใจจะต้องกู้ เพราะไม่มีเครดิตหรือหลักคํ้าประกันสำหรับการกู้ในระบบ นี้จึงเป็นปัญหาที่ภาครัฐ ควรจะแก้ไขปัญหา ให้กับผู้ประกอบอาชีพอิสระหรือผูู้ยากไร้ สามารถกู้เงินในระบบได้
แต่ทั้งนี้ผู้เป็นหนี้ก็ควรเลือกช่องทางการกู้ยืมที่เป็นธรรมด้วย หรือหากจะต้องเป็นหนี้ก็ควรเลือกเป็นหนี้ที่เกิดรายได้ อย่าเป็นหนี้โดยที่ไม่ได้ก่อรายได้ เช่น หนี้บัตรเครดิต หนี้บัตรกดเงินสด หรือแม้แต่การเล่นพนัน ระมัดระวังให้ดีกับการเงินของคุณในทุกๆวัน ใช้จ่ายอย่างพอเพียง แล้วจะเกิดสุข