อัคคีภัย คือ เหตุการณ์ที่ไม่พึงปรารถนาที่อาจเกิดขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัวมาก่อน อันเนื่องมาจากสาเหตุหลายประการ ทั้งเกิดจากอุบัติเหตุ ภัยธรรมชาติ โดยเฉพาะความประมาท อันนำมาซึ่งความสูญเสีย แก่ทั้งชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สิน สาเหตุหลักอันดับหนึ่งของการเกิดอัคคีภัยในปัจจุบันนี้เกิดจากความประมาท โดยจะเกิดเหตุกับอาคารบ้านเรือน ที่อยู่อาศัย และร้านค้า ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดเพลิงไหม้สูง
ดังนั้น การทำ ประกันอัคคีภัย จึงมีความสำคัญหากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น ซึ่งจะทำให้ท่านได้รับความคุ้มครองความสูญเสียที่เกิดจากอัคคีภัย ความเสียหายที่เกิดจากเพลิงไหม้ เป็นอีกหนทางหนึ่ง ในการเพิ่มความอุ่นใจ และไม่ต้องกังวลหากเกิดเหตุขึ้น ทำให้เกิดความรู้สึกมั่นคงในชีวิตและทรัพย์สิน กรมการประกันภัย ยังได้ประกาศใช้กรมธรรม์อัคคีภัยฉบับใหม่ที่จะให้ความคุ้มครอง วันที่ 1 เมษายน 2543 อย่างเป็นทางการมานานหลายปีแล้วเฉพาะกับที่อยู่อาศัย ซึ่งเรียกว่า กรมธรรม์ประกันอัคคีภัยสำหรับบ้านที่อยู่อาศัย ซึ่งกรมธรรม์ฉบับนี้ ให้ผู้ที่เป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยได้รับประโยชน์โดยตรง จากการทำ ประกันอัคคีภัย อย่างเหมาะสมมีความเป็นธรรมมากขึ้น ซึ่งกรมธรรม์นี้มีความการคุ้มครองเพิ่มเติมจากกรมธรรม์อัคคีภัยปกตินั่นเอง เมื่อเป็นเช่นนี้ทำให้เจ้าบ้านได้รับประโยชน์มากขึ้น
สำหรับผู้ที่มีสิทธิทำ ประกันอัคคีภัย ได้แก่ ผู้ที่เป็นเจ้าของทรัพย์สินหรือผู้มีสิทธิ์มีผลประโยชน์ มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างแท้จริง ในทรัพย์สินและสิ่งปลูกสร้างที่เอาประกันภัยนั่นเอง ซึ่งสิ่งปลูกสร้างที่ว่านี้ก็คือที่อยู่อาศัย บ้าน ทาวน์เฮ้าส์ บ้านแฝด สำหรับอยู่อาศัย โรงรถ กำแพง รั้ว ประตู ห้องชุดสำหรับอยู่อาศัยในแฟลต คอนโดมีเนียม เป็นต้น
ทรัพย์สินที่สามารถเอาประกันได้ ได้แก่ ตัวอาคาร บ้านเรือน หรือสิ่งปลูกสร้าง (ไม่รวมรากฐาน) เครื่องตกแต่ง ติดตั้ง ตรึงตราทรัพย์สินที่อยู่ในตัวอาคารนั้นๆ ตามความคุ้มครองพื้นฐานตามกรมธรรม์ประกันอัคคีภัย การประกันอัคคีภัยให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อทรัพย์สิน จากภัยพื้นฐานต่างๆ เช่นเมื่อเกิดไฟไหม้ ฟ้าผ่า แรงระเบิดของแก๊ส ที่ใช้สำหรับทำแสงสว่างหรือประโยชน์เพื่อการอยู่อาศัยเท่านั้น แต่ไม่รวมถึงความเสียหายจากการระเบิดของแก๊ส จากแผ่นดินไหวโดยมีการได้ระบุไว้ชัดเจนในกรมธรรม์ ประกันภัยอัคคีภัยเรียบร้อยแล้ว
ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากไฟไหม้นั้น แม้ว่าความเสียหายบางประเภทจะไม่ได้เกิดขึ้นโดยตรง จากการเกิดไฟไหม้ก็ตาม แต่จะได้รับความคุ้มครองภายใต้กรมธรรม์ประกันอัคคีภัย เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความเสียหายที่เกิดจากน้ำที่ใช้ดับไฟ หรือสารดับเพลิงอื่นๆ ที่ใช้ดับไฟเช่น ทรัพย์สินที่อยู่ใกล้เคียงต้องถูกฉีดน้ำทำให้เปียกและเสียหาย เป็นต้น ความเสียหายอันเกิดจากเจ้าหน้าที่ดับเพลิง เช่น เจ้าหน้าที่ต้องทุบ กระจก เพื่อกรุยทางเข้าไปดับเพลิง หรือเจ้าหน้าที่ดับเพลิงขึ้นไปยืนบนดาดฟ้าของอาคารที่ยังไม่ถูกไฟไหม้เพื่อฉีดน้ำเข้าไปในอาคารที่ถูกไฟไหม้ทำให้กระเบื้องแตก เป็นต้น รวมไปถึงความเสียหายที่ถูกระเบิดเพื่อป้องกันมิให้ไฟขยายตัวต่อไป แม้กระทั่งความเสียหายที่เกิดจากควัน หรือการถูกลนจนเกรียมด้วยความร้อนจากไฟ นอกจากนี้ยังรวมไปถึงชิ้นส่วนอาคารที่ถูกไฟไหม้ ที่อาจเกิดจากสาเหตุไฟไหม้กำแพงข้างอาคารแล้วหล่นลงมาทับ เอาทรัพย์สินที่เอาประกันภัยเสียหาย หรืออาจเกิดจากทรัพย์สินที่สูญหายขณะเกิดไฟไหม้หรือหลังจากเกิดไฟไหม้ของผู้เอาประกันภัยอัคคี
มาดูกันค่ะว่าประโยชน์เพิ่มเติมจากกรมธรรม์ ประกันอัคคีภัย นั้นมีอะไรบ้าง ซึ่งมีดังนี้ ผู้เอาประกันภัยได้รับความคุ้มครองพื้นฐานเพิ่มขึ้นจากกรมธรรม์ ประกันอัคคีภัย ให้ความคุ้มครองพื้นฐานเพียง 3 ภัย นั่นก็คือการเกิด ไฟไหม้ การเกิดฟ้าผ่า รวมไปถึงการระเบิดของแก๊สที่ใช้สำหรับทำแสงสว่าง สำหรับประกันอัคคีภัยสำหรับที่อยู่อาศัยนั้น จะให้ความคุ้มครอง พื้นฐานเพิ่มได้มาก ให้ประโยชน์กรณีกำหนดจำนวนเงินเอาประกันภัยคลาดเคลื่อน เป็นการเพิ่มเงื่อนไขให้บริษัทต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนพร้อมทั้งดอกเบี้ยใน ฐานะลูกหนี้ผิดนัดในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี
สำหรับข้อดีที่เห็นได้ชัดเจนของกรมธรรม์ ประกันอัคคีภัย สำหรับที่อยู่อาศัย คือ เรื่องของเบี้ยประกันภัย เมื่อเรากู้เงินซื้อบ้านซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า เมื่อทำสัญญากู้เงิน สิ่งที่ได้มาเพิ่มเติมก็คือ การทำประกันภัย ซึ่งสาเหตุที่ทำประกันภัยที่ผ่านมา เจ้าของบ้านที่กู้ซื้อบ้านมักจะเข้าใจกันส่วนมากว่าประกันที่ทางธนาคาร หรือสถาบันการเงินบังคับให้คุณซื้อจะครอบคลุมความเสียหายที่เกิดขึ้นภายในบ้านด้วย แต่ความเป็นจริงแล้ว ธนาคารหรือผู้ให้กู้ยืมเงินจะให้ความคุ้มครองเพียงตัวอาคารบ้านเรือนเท่านั้น สิ่งสำคัญคือคุณควรสำรวจความต้องการของตัวเองก่อนว่าอยากจะปกป้องทรัพย์สินประเภทใดบ้าง การประกันภัยบ้าน เป็นอีกหนึ่งวิธีในการปกป้องหรือบรรเทาความเสียหายของทรัพย์สินที่คุณรักและสิ่งที่อยู่ภายในบ้านหากมีเหตุการณ์อันไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นกับบ้าน
นอกจากนี้สิ่งที่ต้องทำความเข้าใจเพิ่มเติมนั่นก็คือ การซื้อประกันภัยบ้าน ควรครอบคลุม 3 สิ่ง ดังต่อไปนี้ ตัวบ้านหรืออาคารที่พักอาศัยซึ่งเป็นสิ่งที่ประกันภัยบ้านควรจะต้องมีให้ เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองในกรณีที่เกิดเหตุวินาศภัย หรือภัยทีเกิดจากธรรมชาติที่ไม่เคยมีใครที่จะรู้ล่วงหน้ามาก่อนธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการเกิดไฟไหม้ หรือเหตุกาณ์น้ำท่วมโดยฉับพลัน รวมไปถึงทรัพย์สินภายในบ้านของเราด้วย
การประกันภัยบ้านนั้นยังสามารถที่จะช่วยป้องกันการสูญเสียทรัพย์สินภายในตัวบ้านทั้ง เฟอร์นิเจอร์ และเสื้อผ้าเป็นต้น อย่างไรก็ตาม บริษัทประกันภัยหลายแห่งจะมีการจำกัดขอบเขตราคาและประเภทของทรัพย์สินที่จะรับประกันและการประกันภัยบุคคลที่สาม ซึ่งเป็นการประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองตัวคุณและคนในครอบครัวได้เป็นอย่างดี หรือถ้าการเกิดอุบัติเหตุจากสิ่งของของคุณที่ส่งผลกระทบไปยังผู้อื่น