ในโลกของการแข่งขัน ผู้ที่แกร่งที่สุดสามารถที่จะเดินไปสู่ความสำเร็จได้ ผู้ที่อ่อนแอย่อมตกอยู่ในสภาพที่ไม่อาจจะก้าวไปสู่เป้าหมายที่ตนเองวาดฝันไว้ ความอดทน ความพยายาม ไม่เพียงพอสำหรับยุคปัจจุบัน แต่ต้องประกอบไปด้วยความรู้ ความสามารถ รู้จริง รู้ลึก และ “SMART”
เรามักจะได้ยินคำว่า “SMART” อยู่บ่อยๆ เช่น คุณเป็นคนดู “SMART” มาก , ซึ่งในความหมายของคำว่า “SMART” ตามภาษาอังกฤษ นั้นหมายถึง บุคลิกที่ดี ดูสง่างาม หน้าตาดี
แต่นั้นเป็นเพียงความหมายทั่วๆไป แต่ในด้านของการบริหาร คำว่า “SMART” สามารถที่จะนำมาใช้ในการบริหารชีวิตของตนเอง ในทุกด้านๆ แบ่งออกเป็นดังนี้
S (Specific) หมายถึง กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน รายละเอียดต่างๆจะต้องมีการเขียนเป็นแผนขึ้นมา เช่นเดียวกันกับชีวิตของเราที่จะต้องมีเป้าหมาย การจะสร้างเป้าหมายจะต้องเขียนรายละเอียดถึงวิธีการทำอย่างไรที่จะไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างเฉพาะเจาะจง เช่น ปีนี้คุณต้องการจะออมเงินให้ได้เดือนละ 3,000 บาท คุณก็ต้องตั้งเป้าว่าทุกเดือนคุณจะหักรายได้ส่วนหนึ่งออกมา 3,000 บาทเป็นเงินฝาก หากเดือนไหนคุณไม่สามารถทำได้ หมายความว่าเป้าหมายที่คุณตั้งไว้ไม่สำเร็จไปตามแผนที่วางไว้
M (Measurable) หมายถึง วัดผลได้ ต่อเนื่องจากเป้าหมายข้างต้นที่กล่าวไว้เป็นตัวอย่าง เป้าหมายต้องวัดได้ ซึ่งก็คือ เป้าหมายที่จะออมเงิน 3,000 บาททุกเดือนตลอด 1 ปี ผลที่สามารถวัดได้ก็คือ สิ้นปีคุณจะต้องมีเงินเก็บ 36,000 บาท นี้คือผลที่วัดได้ หากไม่ตรงเป้า แสดงว่าผลที่วัดได้ไม่เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้
A (Achievable) หมายถึง ความสำเร็จ ในที่นี้ความสำเร็จจึงหมายถึง คุณไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ นั้นคือ คุณสามารถเก็บเงินได้ 36,000 บาท หากไม่สำเร็จ นั้นหมายถึงเป้าหมายที่คุณตั้งไว้มีปัญหา จะต้องย้อนกลับไปดูว่า เป้าหมายที่คุณวางไว้นั้นสูงความสามารถที่คุณจะทำได้หรือไม่ หรือระหว่างทางของเป้าหมายเจออุปสรรคใด จึงทำให้ไม่ไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้
R (Relevant) หมายถึง มีความเป็นไปได้ คุณควรจะวางเป้าหมายที่มีความเป็นไปได้ ไม่ควรตั้งเป้าหมายที่ไม่มีโอกาสเป็นไปได้ เช่น คุณตั้งเป้าจะออมเดือนละ 5,000 บาท แต่รายได้ของคุณต่อเดือนอยู่ที่ 10,000 บาท และรายจ่ายอยู่ที่ 4,000 บาท นั้นหมายความว่าคุณจะมีเงินเหลือ 1,000 บาทสำหรับเป็นค่าใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งเป็นไปไม่ได้ ถ้าคุณจะใช้เงิน 1,000 บาท ไปตลอดเดือน การตั้งเป้าหมายต้องมองด้วยว่ามีโอกาสเป็นไปได้หรือไม่
T (Time) หมายถึง ระยะเวลาที่ชัดเจน การกำหนดระยะเวลาจะช่วยให้เรารู้ว่าเป้าหมายของเรานั้นสิ้นสุดที่ตรงไหน ไม่ใช่ปล่อยไปเรื่อย เพราะนั้นหมายความว่าเป็นเป้าหมายที่เลื่อนลอย ต้องกำหนดระยะเวลาที่ชัดเจน ถ้าไปไม่ถึงเป้าหมาย ก็ปรับเปลี่ยนแผนและตั้งเป้าหมายอีกครั้ง
ข้างต้นเป็นการแตกความหมายของคำว่า “SMART” ในอีกความหมายหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการนำไปปรับใช้ในชีวิต โดยเฉพาะเรื่องของการออมหรือการลงทุนต่างๆ สิ่งสำคัญของการบริหารชีวิต คือ เป้าหมายที่ชัดเจน ในระหว่างที่กำลังดำเนินไปตามแผน หากแผนการไม่ตรงตามที่ตั้งไว้ นั้นหมายความว่าคุณกำลังหลุดไปจากเส้นทางที่ตั้งไว้ ควรปรับเปลี่ยนแผน และเริ่มต้นวางแผนใหม่อีกครั้ง อย่าท้อแม้จะไม่ถึงเป้าหมายที่วางไว้ แต่ลองเปลี่ยนแผนใหม่ เรียนรู้จากความผิดพลาดที่เกิดขึ้น