สมัยนี้คงมีหลายคนที่ทำงานประเภท ฟรีแลนซ์ กันอยู่มากมาย เพราะด้วยความที่อยากมีอิสระทางด้านการทำงาน ที่ไม่ต้องมีใครมาบังคับ ไม่ต้องมีหัวหน้า ไม่ต้องมีเวลาเข้าออกงานและไม่ต้องสแกนนิ้วเข้าออก นี่เป็นเหตุผลหนึ่งของการทำงานอาชีพนี้
ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะมีอาชีพที่เกี่ยวข้องคือ กราฟฟิกซ์ดีไซน์ สถาปนิก ช่างภาพ นักเขียน เป็นต้น ยิ่งฝีมือดี ยิ่งเป็นที่นิยม งานของเราก็จะมากขึ้นด้วยตามลำดับ ซึ่งบางครั้งการที่เราทำงานอย่างสนุกสนานจนเกินไปนั้น อาจจะทำให้เราลืมสิ่งรอบข้างในชีวิตของเราได้ ซึ่งวันนี้เราได้นำไอเดียการบริหารเงินและบริหารชีวิตของ ฟรีแลนซ์ มาฝากกัน
เงินกับสุขภาพ
จริงอยู่ที่ว่า ฟรีแลนซ์นั้นจะมีงานที่ไม่แน่นอน ช่วงไหนงานเยอะก็ต้องรีบกอบโกยไว้ก่อน แต่บางครั้งนั้นการที่เรากอบโกยไว้ทุกอย่างอาจจะทำให้เรานั้นทำงานไม่ทัน จนต้องส่งผลให้เราเองนั้นทำงานหามรุ่งหามค่ำ ต้องทำให้เสร็จตามกำหนดที่เราได้นัดกับลูกค้าเอาไว้ เพราะการที่เราส่งงานล่าช้านั้นอาจจะส่งผลให้ในอนาคต ลูกค่าอาจจะไม่จ้างเราอีก แต่หากมองในทางกลับกันหากเรายิ่งรับงานเพิ่มมากขึ้น ซึ่งต้องกินเวลาเรื่องการพักผ่อน อันนี้เริ่มเป็นสิ่งที่ไม่ใช่แล้ว เพราะหากเราพักผ่อนไม่เพียงพอ อดนอนมาหลายวันสิ่งที่ตามมานั้นอาจจะไม่ใช่เรื่องเงินทองแต่ประการใด แต่อาจจะตามมากับสุขภาพที่เลวร้ายของเราได้ และอาจจะไม่คุ้มกับค่ารักษาที่เราเสียไป แถมงานการก็เสียหายอีกด้วย ดังนั้นเลือกรับงานที่พอดีและไหวกับสภาพร่างกายตัวเองจะดีกว่า
การแบ่งเวลา
เรื่องนี้สำคัญมากที่ฟรีแลนซ์ต้องทำความเข้าใจ ถึงแม้ว่าเราจะไม่มีกฎเกณฑ์ที่ตายตัวเรื่องเวลา แต่การที่เราจะเอาเวลาทั้งหมดมาทุ่มเทให้กับงานก็ไม่ใช่คำตอบที่ดีเท่าไร เรามักจะเห็นกันได้ว่าบางคนทำงานเอาเป็นเอาตายมีเงินมากมายสุดท้ายตายก่อนที่จะได้ใช้เงิน จะดีกว่าถ้าเรามีการวางแผนเรื่องเวลาที่ชัดเจน เช่น เริ่มทำงานตอนกี่โมงและเลิกงานตอนกี่โมง ในหนึ่งวันอาจจะทำงานเกินได้กี่ชั่วโมง การจัดสรรเวลาแบบนี้จะเป็นข้อดีให้กับคุณ เพราะคุณจะได้เอาเวลาที่เหลือไปทำอย่างอื่น เช่น การออกกำลังกาย การไปทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ การพักผ่อน การไปพบปะเพื่อน ๆ
สร้างหลักประกันให้กับตัวเอง
เรื่องนี้ชาวฟรีแลนซ์หลายคนอาจจะลืมคิดไปบ้าง เพราะมัวแต่ทำงานและเก็บเงินอย่างเพลิดเพลินจนลืมเรื่องการสร้างหลักประกันเหล่านั้นไป ซึ่งจะต่างจากพวกพนักงานประจำที่บริษัทจะมีสวัสดิการต่าง ๆ มาให้เก็บเงินให้ ไม่ว่าจะเป็นประกันสังคม ประกันชีวิต ซึ่งฟรีแลนซ์อย่างเรา ๆ ก็สามารถที่จะทำอะไรอย่างนั้นได้ เช่นทำประกันสุขภาพเพื่อที่ว่าเมื่อคุณเจ็บไข้ได้ป่วย อย่างน้อยก็มีประกันนี้แหละที่จะมาช่วยคุณจ่ายค่ารักษาพยาบาลได้และไม่ต้องกังวลเมื่อนอนอยู่โรงพยาบาล ที่สำคัญนอกจากการประกันชีวิตแล้ว ควรแบ่งเงินออกเป็นสามส่วนด้วย เพื่อเป็นหลักประกันในชีวิต คือ เงินออม(อาจจะเป็นรูปแบบไหนก็แล้วแต่ความสะดวก) เงินสำรองฉุกเฉิน และเงินสำหรับการใช้จ่ายประจำวัน เพื่อเป็นการจัดสรรชีวิตเราให้มีระเบียบวินัยในเรื่องนี้ การวางแผนการเงินสำหรับฟรีแลนซ์นั้นค่อนข้างที่จะสำคัญ เพราะเราไม่รู้ว่าแต่ละเดือนนั้นเราจะมีงานมากน้อยแค่ไหน การวางแผนทางการเงินที่ดีก็จะเป็นหลักประกันที่ดีให้กับเราได้ และที่สำคัญหากเราทำให้เงินที่เราเก็บมานั้นงอกเงยไปได้ก็จะยิ่งดี
ทีมที่ดี
จริง ๆ การทำงานฟรีแลนซ์นั้นไม่ใช่ว่าจะมีเพียงเราคนเดียวที่ทำได้ เราอาจจะสร้างทีมขึ้นมา อาจจะเป็นเพื่อน รุ่นน้อง มาช่วย ๆ กันดูในหลาย ๆ ทาง และยังมีข้อดีอีกอย่างคือการที่เราทำงานคนเดียวการจัดสรรแต่ละอย่างนั้นก็ต้องทำคนเดียว ยิ่งเมื่อตอนเจ็บไข้ได้ป่วยก็จะยิ่งทำให้เรานั้นยุ่งยากได้ เพราะงานอาจจะเสียหายและส่งผลกระทบกับการงานได้ในอนาคต ดังนั้นการที่เรามีทีมงานเราจะได้กระจายงานนั้นออกไป และไม่ต้องมานั่งกังวล อย่างน้อยเมื่อเราป่วยยังมีคนที่สามารถมาทำงานแทนเราได้
การสร้างความสัมพันธ์
เป็นสิ่งหนึ่งที่สำคัญมาก เพราะแน่นอนว่าเราจะอยู่บนโลกใบนี้คนเดียวไม่ได้แน่ ๆ อย่างน้อยเมื่อเราเจ็บไข้ได้ป่วยก็ยังมีพ่อ แม่ และเพื่อน ๆ มาดูแล ดังนั้นเมื่อเราทำงาน บางทีเราก็ต้องมีเวลาไปใส่ใจคนรอบข้างบ้าง มัวแต่ทำงานอย่างเดียวเมื่อวันหนึ่งเงยหน้าขึ้นมาอาจจะพบและรู้สึกว่า โถ ไม่น่าบ้างานเลยเรา ดังนั้นต้องแบ่งเวลา และไปหาเพื่อน พบพ่อแม่บ้าง เพื่อความสุขของคุณเอง
และนี้เป็นสิ่งหนึ่งที่ชาวฟรีแลนซ์ควรตระหนักและทำตาม เพราะชีวิตของเรานั้นไม่ได้มีเพียงแต่งานและงานเท่านั้น เรายังมีเพื่อน คนรอบข้างที่รอเรามากมาย มีการพักผ่อน มีร่างกายที่รอการดูแลของเรา และหากเราอยู่แต่กับงานมากเกินไป รับรองว่าวันหนึ่งนั้นสิ่งเหล่านี้ก็จะค่อย ๆ หาย ๆ ไปจากชีวิตคุณแน่ ๆ ลองคิดและจัดการกับมันดูนะคะ เพื่อเป็น ฟรีแลนซ์ ที่ไม่เหงาและไม่มีข้อกังวลใด ๆ