จะ สิ้นเดือน แล้ว ช่วงไหนที่ถึงวัน สิ้นเดือน ก็เหมือนราชสีห์ติดปีก หัวใจเบิกบาน ร่างกายสดชื่น เงินจะเข้ามาแล้ว แต่เงินหนอเงินอยู่ในบัญชีธนาคารได้เพียง 2 สัปดาห์ก็พากันหายไปไหนหมด เราจึงเห็นเพื่อน ๆ บางคนไม่กินข้าวเที่ยงแต่หันมาชงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกินแทน ช่วยยอดขายบะหมี่สำเร็จรูปในประเทศไทยเป็นแชมป์ต่อไปเรื่อย ๆ หรือ บางทีถึงเวลาแล้วหรือยังที่ชีวิตคุณจะไม่วนกลับมาเป็นวังวน เป็นวงจรแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ทำไมเราไม่ลองจัดระเบียบชีวิตของเราเองใหม่ให้เรามีเงินเดือนใช้ตลอดทั้งเดือน และที่สำคัญ เงินต้องมีเหลือเก็บไว้ยามฉุกเฉิน และ มีเงินเหลือออมไว้ท่องเที่ยว, ไว้สร้างเรือนหอ และ ไว้แต่งงานต่อไปด้วยนะคะ
กฎข้อแรกของชาวเรามนุษย์เงินเดือนก็คือ เราต้องเป็นนักเขียนค่ะ
หมายความว่า ให้คุณหมั่นจดรายละเอียดการใช้เงินของคุณทุก ๆ อย่างลงไป ทั้งในส่วนของรายรับ และ รายจ่ายเลยค่ะ โดยให้คุณ ๆ แยกออกมาให้เห็นภาพก่อนว่า เราได้รายได้มาจากทางไหนบ้าง, ได้เงินมาเท่าไร, ใช้จ่ายอะไรไปบ้าง, เป็นหนี้จากค่าใช้จ่ายด้านไหน, ค่าเดินทางเท่าไร, ค่ากิน, ค่าที่พัก, เงินออม และ ค่าใช้จ่ายจุกจิกอะไรบ้าง เมื่อคุณ ๆ ได้จดไว้เป็นบัญชีรายวัน เราก็จะเห็นภาพชัดขึ้นว่าแต่ละเดือนเราใช้จ่ายอะไรไปบ้าง เพราะมนุษย์เงินเดือนอย่างเราได้เงินหรือ มีรายได้เท่ากันทุกเดือนค่ะ เงินเข้ามาเป็นก้อน ๆ เดียว แต่รายจ่ายต่างหากที่ไม่เท่ากัน จึงจำเป็นมาก ๆ ที่เราต้องจดว่าใช้จ่ายไปกับอะไรบ้าง แล้วคุณ ๆ ก็จะพบว่าบางเดือนคุณใช้เงินหมดไปกับค่ายาหมอ, ค่าซ่อมทีวี, คอมพิวเตอร์หาย, โทรศัพท์พัง หรือ ค่าภาษีสังคมอย่างขบวนงานแต่งของเพื่อนที่ทำงาน, เพื่อนสมัยเรียน และ เพื่อนข้างบ้าน ก็อาจจะเป็นได้มากมายนะคะ
ข้อดีอีกอย่างของการลงจดค่าใช้จ่ายทุกวันก็คือ คุณจะรู้ทันทีว่าเงินคุณเหลือใช้จ่ายจริง ๆ อยู่เท่าไร เงินใช้ออกไปไวมากแค่ไหน เร็วไปหรือเปล่า หรือว่า ช้ากว่าเดือนที่แล้ว ไม่แน่นะคะ บางเดือนคุณอาจจะใจหายวาบ ๆ เพราะยังไม่ทันจะครึ่งเดือน เงินก็หายไปกว่าครึ่งซะแล้ว ยิ่งถ้าเดือนไหนวันหยุดยาว ๆ งานปาร์ตี้ชิวล์ต้องมา กลุ่มนั้น ก๊วนนี้ชวนไปก็เฮไป แล้วเงินจะไปเหลือพอใช้ได้อย่างไรหล่ะคะ อีกอย่างก็คือ ให้คุณ ๆ ลองอ่านบัญชีรายจ่ายของตัวเอง แล้วคุณจะรู้ว่าคุณฟุ่มเฟือยกับค่าใช้จ่ายอะไรมากเกินไป อะไรควรงด อะไรควรประหยัดขึ้นค่ะ
กฎข้อที่สอง ก็คือ หัดแยกกลุ่มค่าใช้จ่ายดูบ้าง
เพื่อการวางแผนการเงินและทำให้เรารู้จักประเมินตัวเองเป็นระยะ ๆ ด้วย โดยแบ่งออกเป็นกลุ่ม ๆ ค่ะ กลุ่มแรกที่จัดออกมาก็คือ กลุ่มค่าใช้จ่ายคงที่ หรือ ที่ทางบัญชีเขาเรียกกันว่า fixed expenses ค่ะ ในกลุ่มนี้ก็ให้เรานำค่าใช้จ่ายรายเดือนต่าง ๆ มารวมกันไว้ โดยที่ค่าใช้จ่ายส่วนนั้น ๆ จำเป็นต้องจ่ายกันทุกเดือน และโดยมากยอดเงินจะคงที่เท่า ๆ กันทุก ๆ เดือน แตกต่างบ้างแค่เล็กน้อยเท่านั้นค่ะ ไม่ว่าจะเป็น ค่าผ่อนบ้าน, ค่าน้ำ, ค่าไฟ, ค่าโทรศัพท์, ค่าอินเตอร์เนต, ค่าเคเบิ้ลทีวี, ค่าเดินทาง และ ค่าผ่อนรถ ค่ะ กลุ่มที่สองก็คือ ค่าใช้จ่ายผันแปร หรือ ศัพท์ทางบัญชีก็คือ variable expenses เป็นกลุ่มค่าใช้จ่ายที่มียอดไม่เท่ากันทุกเดือน จึงเรียกว่าผันแปรไปไม่คงที่ค่ะ อย่างเช่น ค่าอาหาร, ค่ากินดื่มเที่ยวนอกบ้าน, ค่าช้อปปิ้งเสื้อผ้า ค่ารองเท้า เป็นต้น ถ้าค่าใช้จ่ายกลุ่มนี้โตขึ้นในเดือนไหนก็ตาม คุณก็มาดูว่าเดือนถัดไปคุณจะคุมงบตัวนี้อย่างไร อาจจะต้องบังคับตัวเองไม่ช้อปปิ้ง หรือ เลี่ยงที่จะไปแฮงค์เอ้าท์ทุกคืนวันศุกร์บ้างดีกว่าหรือเปล่าค่ะ ส่วนค่าใช้จ่ายกลุ่มที่ 3 คือ ค่าใช้จ่ายสำหรับการลงทุน หรือ การออม หรือ จะเรียกตามนักบัญชีว่า savings and investment ก็ได้นะคะ นับว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่ดีมาก ๆ เพราะคุณ ๆ ต้องกันเอาไว้เป็นเงินออมทุก ๆ เดือน หรือ กันไว้เป็นเงินลงทุนในแต่ละเดือนค่ะ
กฎข้อที่ 3 คือ การออมเงินแบบหักออกอัตโนมัติ
กรณีนี้คุณต้องเข้าใจว่าเราควรทำเพื่อความปลอดภัยของเงินในบัญชีตัวเอง ไม่ให้เงินมาล่อตาล่อใจเราได้ ดังนั้นเราจึงควรเปิดบัญชีธนาคารและให้หักเงินจากบัญชีที่เราได้รับเงินเดือนออกไปออมเงินสะสมอัตโนมัติ โดยคุณ ๆ สามารถปรึกษากับทางธนาคารได้เลยว่าจะให้หักออกจากบัญชีทุก ๆ เดือน และ หักออกเดือนละเท่าไร วิธีนี้คุณก็จะมีเงินออมทุกเดือนโดยไม่ต้องไปต่อคิวที่ธนาคาร, ไม่มีเงินมาล่อตาให้เบิกไปทำอย่างอื่น และเป็นการสร้างวินัยการออมเงินเล็ก ๆ ที่น่าสนใจค่ะ ส่วนกฎข้อที่ 4 ก็คือ ใช้บริการจ่ายบิลอัตโนมัติ เพราะปัจจุบันนี้ธนาคารไม่เพียงจะอำนวยความสะดวกให้คุณ ๆ หักบัญชีเงินออมอัตโนมัติ แต่คุณสามารถหักชำระบิลอัตโนมัติได้เช่นกัน ทำให้คุณไม่ต้องเมื่อยกับการยืนต่อคิวหน้าธนาคาร, ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางแวะเข้าห้างฯ หรือ หลงลืมจ่ายบิลไม่ครบขาดจ่ายค่าโน่นนี่นั้นอีกต่อไปค่ะ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำ, ค่าไฟ, ค่าโทรศัพท์ หรือ ค่าบัตรเครดิตก็เป็นเรื่องง่าย ๆ สบาย ๆ แต่ที่คุณต้องทำคือทวนสอบความถูกต้องของรายการที่เรียกเก็บ ถ้าไม่ถูกต้องก็จะได้แจ้งแก้ไขกับเขาแต่เนิ่น ๆ ค่ะ