ปัญหาใหญ่ของประชากรในประเทศไทยปัจจุบัน คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของหนี้สิน
ทั้งเล็กกลางใหญ่ เป็นหนี้กันตั้งแต่ระดับประเทศ ตั้งแต่นักธุรกิจ จนถึงประชากรระดับครัวเรือนเลยทีเดียว วลีเด็ดที่ว่า การไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ ดูจะเป็นจริงยิ่งกว่าสมัยใด ถ้าเลือกได้หลายคนคงอยากย้อนเวลากลับไปไม่สร้าง หนี้ จาต้องมานั่งกุมขมับกับภาระทางการเงิน กินไม่ได้ นอนไม่หลับ หากกล่าวถึงเศรษฐกิจไทย หลายคนคงจะนึกถึงเรื่องหนี้สินเป็นลำดับแรกๆเลยทีเดียว
เมื่อไม่นานมานี้ บริษัทที่ปรึกษาด้านการเงินสัญชาติอเมริกันอย่าง McKinsey ได้ออกรายงานแสดงความเป็นห่วงเป็นใยต่อปัญหาหนี้สินครัวเรือนของไทย เพราะปัจจุบัน’หนี้สินครัวเรือนต่อรายได้’สูงขึ้นจนอยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วง เมื่อเทียบกับปี 2007 ประเทศไทยมีอัตราส่วนหนี้สินอยู่ที่ 93% แต่เมื่อกลางปี 2014 นี้ ตัวเลขกลับพุ่งสูงขึ้นเป็น 121% ในขณะที่’หนี้สินครัวเรือนต่อ GDP’ นั้นก็สูงถึง 86%
ปัญหานี้ฉุดรั้งเศรษฐกิจไทยอย่างมาก และปฏิเสธไม่ได้ว่าปัญหาหนี้สินสร้างความเครียดต่อคนไทยมากเพียงใด หนี้สินครัวเรือนในประเทศไทยเทียบเท่ากับประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา หรืออังกฤษเลยทีเดียว ในขณะที่รายได้ของประชากรน้อยกว่ามากมายหลายเท่าตัว หลายคนอาจจะยังไม่ทราบถึงอัตราส่วนหนี้สินเหล่านี้ เราจึงนำข้อมูลมาเสนอ เพื่อให้คุณได้ตรวจสุขภาพการเงินของตนเองกัน
“สุขภาพหนี้” ของคุณ แข็งแรงอ่อนแอ… แค่ไหนกัน?
จากข้อมูล TSI ตลาดหลักทรัพย์ ให้อัตราส่วน หนี้สิน : รายได้ ที่เหมาะสมไว้ดังนี้
หนี้บัตรเครดิต – 10-20%
หนี้บ้าน – ต่ำกว่า 30%
หนี้รถ – ต่ำกว่า 20%
หนี้รวม – ต่ำกว่า 50%
นี่เป็นตัวอย่างสัดส่วนหนี้สินในเบื้องต้น ซึ่งแต่ละครัวเรือนอาจมีภาระหนี้สินมากหรือน้อยกว่านี้ แต่หากคำนวณแล้วอัตราส่วนหนี้สินมากกว่า 50% ของรายได้ นั่นหมายความว่าสุขภาพทางการเงินของคุณกำลังย่ำแย่ และถ้าเป็นอย่างนั้น เราอยากจะชวนคุณมาปฏิบัติการหนี หนี้ แบบง่ายๆไปด้วยกัน พร้อมปฏิบัติการกันหรือยัง
- จดบันทึก
อันดับแรกที่ต้องทำก่อนจดบันทึกการเงินคือ จัดการความคิดของคุณก่อน อย่าเพิ่งกุมขมับว่า หนี้ขนาดนี้จะสู้ไหวหรือ? เราจะปลดหนี้ได้อย่างไร? ตายแน่ๆ ตายแน่ๆ หายใจเข้าลึกๆ หยิบสมุดปากกามา และทำการจดบันทึกรายรับรายจ่าย หนี้สินทั้งหมด รวมถึงอัตราดอกเบี้ยที่ต้องชำระ และระยะเวลาผ่อนชำระ โดยเรียงลำดับจากหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงที่สุด เน้นไปที่หนี้สินที่เกินสัดส่วนอัตราหนี้สินที่เหมาะสม กับการเงินของคุณออกมา
-
จากนั้นก็หนีหนี้กัน
ช้าก่อน หนีหนี้ในที่นี้ไม่ใช่การ ‘ชิ่ง’ และก็ไม่ใช่การ ‘ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย’ อย่างที่บางคนเข้าใจ หนีหนี้ในที่นี้คือการ
- หนี หนี้ ดอกเบี้ยสูง ที่เกินอัตราส่วน หนี้ สินที่เหมาะสม
หลังจากที่เราทำการจดบันทึกการเงินแล้ว เราจะรู้แน่นอนว่าหนี้สินก้อนไหนที่เกินอัตราส่วนหนี้สินที่เหมาะสม และหนี้ก้อนไหนที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง แล้วทำการกำจัดจุดอ่อน เพราะหนี้สินก้อนนี้สมควรถูกกำจัดอย่างเร่งด่วน ทำไมเราต้องเสียดอกเบี้ยแพงๆด้วยล่ะ ถ้ามีรายได้เพิ่มก็โปะ มีโบนัสก็โปะ เงินเดือนออกก็เอามาโปะ หรือรายได้ไม่เพิ่มแต่ลดรายจ่ายได้ก็นำเงินส่วนหนึ่งมาโปะหนี้ เพื่อหลุดจากวงโคจรนี้กันเถอะ
- หนีหนี้ก้อนใหม่
หลายคนเลือกวิธีสร้างหนี้ใหม่เพื่อนำเงินมาชำระหนี้เก่า ซึ่งแบบนั้นจะยิ่งทำให้เป็นหนี้ซ้ำซ้อนขึ้นไปอีก สิ่งที่เราต้องทำคือการหนีการเป็นหนี้ ไม่ใช่หนีหนี้เก่ามาซบอกหนี้ใหม่ นั่นจะทำให้ชีวิตและการเงินของคุณ จมปลักอยู่ในวงจรนี้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด และไม่สามารถเป็นอิสระจากการเป็นหนี้ได้เลย อย่าลืมว่า สิ่งที่ต้องทำคือปลดหนี้ ไม่ใช่เพิ่มภาระหนี้
-
ขอใช้ตัวช่วย
การจดบันทึก และปฏิบัติการหนีนี้นั้น เพียงพอแล้วสำหรับบางคน แต่ในรายที่แม้จะทำสองข้อด้านบนอย่างเต็มที่แล้ว ก็ยังอยู่ในอาการย่ำแย่ ตัวช่วยเหล่านี้อาจทำให้สถานการณ์ง่ายขึ้นมาอีกนิด
- ขอประนอมหนี้
การพูดคุยกับเจ้าหนี้เป็นสิ่งที่พึงกระทำมากที่สุด เพราะการเจรจาต่อรองจะให้ผลดีกับทั้งสองฝ่าย เจ้าหนี้แทบทุกราย เช่น ธนาคาร จะมีการเจรจาประนอมหนี้ในรายที่ผ่อนชำระไม่ไหวอยู่แล้ว คุณสามารถขอลดดอกเบี้ย ยืดอายุหนี้ ขอลดค่าปรับได้ ซึ่งการเจรจาต่อรอง อย่างน้อยก็แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจในการชำระหนี้จริงๆ ในฝ่ายเจ้าหนี้เองคงไม่มีใครอยากให้หนี้เป็นหนี้เสีย ดังนั้นอะไรที่ผ่อนผันได้ก็จะผ่อนผันให้ อย่างน้อยก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย
- ลดรายจ่าย
หลักการจัดการกับการเงินครัวเรือนง่ายๆที่ใครๆก็ทำคือ การลดรายจ่าย ทำได้โดยการบันทึกบัญชีรายรับรายจ่ายประจำวัน แล้วตัดรายการที่ไม่จำเป็นออก อย่าคิดว่านั่นก็จำเป็น นี่ก็จำเป็น ให้ระลึกไว้เสมอว่า นอกจากหนี้สิน ค่าอาหาร และค่าน้ำค่าไฟแล้ว สามารถลดได้ทั้งสิ้น
- เพิ่มรายได้
ถ้าหากว่าเงินเดือนที่มีอยู่มันแทบจะไม่พอให้กระดิกกระเดี้ยไปไหนได้แล้ว สิ่งที่ต้องทำอย่างเร่งด่วนคือการหารายได้พิเศษเพื่อเพิ่มเงินในกระเป๋า ไม่ว่าจะเป็นการขายของออนไลน์ การขายน้ำผลไม้ตอนเย็น การรับจ้างทั่วไป ฯลฯ
จะเห็นว่าการจัดการภาระหนี้สินนั้น ยังมีอะไรที่คุณทำได้อีกเยอะ อย่าเอาแต่ก้มหน้าก้มตาหาเงินมาจ่ายหนี้และดอกเบี้ยที่สูงจนเกินเหตุ ระลึกไว้เสมอว่า คุณสามารถลดการจ่ายที่เกินกำลังลงได้ คุณหนีหนี้ได้ คุณเป็นอิสระจากหนี้ได้