สำหรับคนที่คิดจะวางเงินดาวน์ซื้อคอนโดมิเนียม หรือ บ้านสักหลัง อ่านก่อนสักนิด เพื่อเป็นข้อคิดเตือนใจ ก่อนอื่นคงต้องบอกว่าเรื่องนี้หลายๆคนอาจจะรู้ แต่มีอีกหลายคนที่ไม่รู้ มันเป็นเรื่องของการยึดเงินดาวน์
ในการ ซื้อบ้าน หรือซื้อคอนโดนั้น ต้องมีการวางเงินดาวน์กันก่อนที่จะทำสัญญาซื้อขาย และ ยื่นกู้กับสถาบันการเงิน แน่นอนว่าหลายคนคิดแล้วว่า ตัวเองนั้นเงินเดือนพอที่จะกู้ได้ ทั้งตัวเองและคนกู้ร่วม อีกทั้งพนักงานขายตามโครงการมักจะเชียร์ว่า กู้ได้แน่นอน แถมยังแนะนำให้ดาวน์เพิ่มจากขั้นต่ำ แน่นอนว่าคนที่มีกำลังเงินพอที่จะดาวน์ได้เยอะๆ ต้องคิดว่ายังไง ก็กู้ผ่านแน่นอน วางดาวน์เยอะๆ ยอดกู้ลดลงยังไงก็ผ่าน
แต่ในความเป็นจริงกู้ไม่ผ่านโดนยึดเงินดาวน์มีเยอะแยะ และ ไม่ได้เงินคืนด้วยซึ่งในสัญญาของทุกโครงการจะมีระบุไว้ อยากได้คืนก็ต้องเสียเวลาไปฟ้องร้องกับ สคบ.และขึ้นศาลก็ต้องรอกันอีกนาน และ เป็นลักษณะเคสบายเคสด้วย เรียกว่าเนื้อเข้าปากหมาแล้วหมาไม่ปล่อยแน่นอน
ซึ่งตามหลักการแล้ว การกู้ซื้อบ้านนั้น ทางสถาบันการเงินเข้าจะดูถึงแนวโน้มรายได้ในอนาคตด้วย ทั้งผู้กู้หลักและผู้กู้ร่วม ดูจากอายุ ฐานเงินเดือน ราคาบ้าน เป็นส่วนประกอบ ซึ่งหลายๆคนที่มีเงินเดือนสูงแต่กู้ไม่ผ่านก็มีกันมาแล้ว ซึ่งตรงนี้นั้นคงบอกไม่ได้ว่า สถาบันการเงินเขาคำนวณแบบไหน ดูจากตรงไหนเป็นบรรทัดฐาน เพราะบางคนเงินเดือนไม่สูงมากนัก กู้ร่วมกัน 3-4 คนแต่สามารถซื้อบ้านได้ก็มีมาแล้ว ซึ่งหลักๆนั้น สถาบันการเงินจะดูฐานเงินเดือน คำนวณค่าครองชีพ หักภาระที่มีอยู่และดูว่ามีเงินเหลือเท่าไหร่ และ ที่เหลืออยู่เพียงพอกับการผ่อนบ้านและมีเลี้ยงชีพหรือไม่ ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ว่าการกู้สินเชื่อไหนจะคำนวณคล้ายๆแบบนี้แต่จะมีหลายละเอียดปลีกย่อยกันออกไป และ จะดูถึงอนาคตด้วย และ คนที่จะกู้ซื้อบ้านนั้น ก็ต้องประเมินกำลังของตัวเองว่าการเป็นหนี้ระยะยาวตั้งแต่ 10-20 ปีนั้นตัวเองไหวไหม มีระบบ ระเบียบ กับการจัดการเรื่องการเงินมากน้อยแต่ไหน เพราะหากสะดุดขึ้นมามีปัญหาแน่นอน
อีกทั้งก่อนการ ซื้อบ้าน หรือ คอนโดนั้น ควรหาข้อมูลของแต่ละโครงการให้ถี่ถ้วนก่อน สอบถามกันให้ชัดเจน ว่าหากดาวน์แล้ว กู้ไม่ผ่านจะคืนเงินดาวน์ไหม ทางโครงการมีการต่อรองกับสถาบันการเงินให้หรือไม่ หรือ มีการตรวจสอบก่อนทำสัญญาให้หรือไม่ เพราะในบางโครงการนั้น ส่งเอกสารต่างของลูกค้าให้สถาบันการเงินประเมินกันเลยว่ากู้ได้ไหม กู้ได้เท่าไหร่กี่เปอร์เซ็นต์ของราคาบ้าน หากลูกค้าตกลงก็ทำสัญญาซื้อขาย วางเงินดาวน์ และ ยื่นกู้จริงกับสถาบันการเงิน ซึ่งถือว่าเป็นการดีกับทั้งลูกค้าและโครงการ ที่จะไม่มีปัญหาภายหลัง ซึ่งโครงการใหญ่ๆมักไม่มีบริการส่วนนี้ ส่วนมากจะมีแต่โครงการเล็กๆ ที่ต้องการขายให้ได้ไวๆ ก็มักจะบริการประเมินสินเชื่อให้ลูกค้าก่อน ซึ่งหาได้น้อยมากเพราโครงการส่วนใหญ่จะเน้นให้ลูกค้าดาวน์ตั้งแต่เสายังไม่ลง ผ่อนดาวน์กันไปเรื่อยๆ พอเสร็จก็ค่อยยื่นกู้กับสถาบันการเงิน ถึงตอนนี้ลูกค้าถึงจะรู้ว่าได้วงเงินเท่าไหร่ พอกับราคาบ้านหรือคอนโดหรือไม่ หรือ กู้ไม่ผ่าน พอถึงตอนนี้ก็สายเกินไปเสียแล้วดาวน์กันไปหลักแสนแล้ว เรียกคืนก็ไม่ได้แล้ว
นี่เป็นอีกเรื่องที่คนอยากมีบ้านต้องรู้เพราะมีเคสแบบนี้มาหลายรายแล้ว และ ทางออกคือ เมื่อกู้ไม่ผ่าน ก็ต้องขายดาวน์กันไป ก่อนหมดระยะเวลาให้ทำสัญญายื่นกู้ ไม่เช่นนั้นโครงการจะยึดเงินดาวน์ ทุกอย่างจะกลายเป็นศูนย์ และ สูญเงินที่ตั้งหน้าตั้งตาดาวน์มา และ การขายดาวน์บางครั้งก็ไม่ใช่จะขายได้เต็มจำนวนที่จ่ายไปแล้วด้วย ดังนั้นก่อนซื้อบ้านหรือคอนโด คิดให้รอบคอบ หาข้อมูลสอบถามกันให้ดีๆ ไม่เช่นนั้นผ่อนกระดาษกันฟรีๆนะจะบอกให้