ในบางครั้งการเก็บออมเงินก็ไม่ใช่เรื่องที่ยุ่งยากซับซ้อน และสามารถทำได้หลากหลายวิธีเหตุผลหนึ่งที่เราได้ยินบ่อยๆในการเก็บออมเงินก็คือ “รายได้ไม่พอกับค่าใช้จ่าย แล้วจะนำเงินส่วนไหนมาเก็บออม” ไม่ใช่เรื่องยากเลยสำหรับคำตอบนี้ เพราะวันนี้เรามี เคล็ดลับออมเงิน ที่ไม่มีผลกระทบกับรายรับรายจ่าย มาแนะนำกันค่ะ ใครที่มีข้ออ้างแบบเดิมๆ อยู่ ทีนี้ก็หมดข้ออ้างไปได้เลย เพราะถึงแม้ว่าคุณจะมีเงินเดือนน้อย แต่การออมเงินก็ไม่ใช่เรื่องยาก อย่าลืมว่าขนาดเด็กที่ไม่มีรายได้อะไร เขายังสามารถออมเงินกันได้เลยค่ะ
เคล็ดลับออมเงิน ที่ไม่มีผลกระทบกับรายรับรายจ่าย
1. ทำอาหารทานเองให้มากที่สุด
เป็นเรื่องปกติที่คนเราต้องทานข้าวทานอาหารนอกบ้านบ้าง โดยเฉพาะคนทำงานที่อาจจะเหนื่อยล้าและอยากซื้อความสะดวกสบายให้กับตัวเอง หากเป็นครอบครัวเล็กๆหรือตัวคนเดียวค่าใช้จ่ายอาจไม่มาก แต่หากเป็นครอบครัวใหญ่ที่มีพ่อแม่และลูกๆ การทำอาหารทานเองบ่อยๆงดเว้นการทานข้าวหรือซื้ออาหารจากนอกบ้านมาทาน เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยประหยัดและทำให้มีเงินเก็บออมได้ เพราะฉะนั้นทำอาหารทานเองบ้างก็ดีเหมือนกันนะคะ แถมยังให้บรรยากาศที่อบอุ่นระหว่างครอบครัวอีกด้วย นอกจากนี้ไม่เพียงแต่มื้อเย็นหรือมื้อเช้าเท่านั้น แต่มื้อกลางวันคุณก็อาจจะห่อข้าวไปกินที่ทำงานด้วยก็ได้ รับรองว่าหากคุณทำแบบนี้ได้ตลอดทั้งเดือนล่ะก็ เงินเดืนเดือนนี้ของคุณเหลือเฟือแน่นอน
2. ทำอาหารไปทานกับเพื่อนๆที่ทำงาน
วิธีประหยัดค่าใช้จ่ายที่ทำให้เราได้มิตรภาพจากเพื่อนๆทำให้สนิทสนมกับเพื่อนร่วมงานมากขึ้น ก็คือการทำอาหารจากบ้านไปทานกับเพื่อนๆ ช่วงแรกเราอาจเป็นผู้นำโดยการทำอาหารไปทานเองก่อน และควรทำอย่างสม่ำเสมอเพราะจะเป็นการกระตุ้นให้เพื่อนๆทำตามแบบอย่างเรา เพราะนอกจากประหยัดแล้วยังช่วยสร้างเครือข่ายที่เป็นประโยชน์กับงานด้วย ลองคิดดูสิคะว่าการได้นั่งทานอาหารร่วมกับเพื่อนซึ่งต่างคนต่างก็ทำจากฝีมือตัวเองนั้นดีมากแค่ไหนแถมไม่ทำให้เสียเวลาทำงานด้วยนะ เพราะไม่ได้ออกไปทานข้าวที่ร้านอาหารที่ไหน ทานเสร็จก็ทำงานต่อได้เลย ไม่เสียเวลาเดินทางนั่นเอง
3. เช็คราคาสินค้าก่อนซื้อเสมอ
สำหรับคนที่ต้องการมีเงินเก็บออม นอกจากหาเงินเก่งแล้วยังต้องประหยัดและใช้จ่ายเงินอย่างคุ้มค่า เช่น เช็คราคาสินค้าเพื่อเปรียบเทียบราคา พร้อมทั้งศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสินค้าที่ต้องการซื้อก่อนทุกครั้ง เพื่อให้ได้สิ่งของที่มีคุณภาพเสมอนั่นเอง อย่าลืมนะคะก่อนที่คุณจะซื้ออะไร ไม่ใช่ว่าเห็นสวยถูกใจก็หยิบไปจ่ายเงินแม่ค้าเลย เพราะเมื่อถึงตอนนั้นพอรู้ว่าราคาแพงมาก แน่นอนว่าคุณคงไม่กล้าที่จะหยิบไปคืนที่หรือบอกปัดไม่เอาเสียแล้ว ทำให้ต้องยอมซื้อมาอย่างฝืนใจ ดังนั้นการถาราคาก่อนจะดีที่สุด เพราะหากราคาแพงเกินไปก็จะได้ยับยั้งตัวเองได้ทันนั่นเอง
4. ลดค่าใช้จ่ายภายในบ้าน
การลดค่าใช้จ่ายต่างๆภายในบ้านทำได้ง่ายๆ แต่ต้องฝึกให้เคยชินเป็นนิสัย เช่น ปิดไฟก่อนออกจากห้องหรือปิดไฟที่ไม่จำเป็นต้องใช้ ไม่เสียบกระติกน้ำร้อนไว้ทั้งวันหรือไม่เติมน้ำในกระติกน้ำร้อนจนเต็มแต่ควรเติมน้ำไว้ให้เพียงพอสำหรับใช้เท่านั้น ปลูกพืชผักสวนครัวไว้ทานเอง เช่น ตะไคร้ ข่า พริก หรือพืชผักที่ปลูกง่ายๆ ทีนี้ก็ลดค่าใช้จ่ายในบ้านไปได้มากแล้วล่ะ
5. เลือกทานผักผลไม้ตามฤดูกาล
การเลือกทานผักผลไม้ตามฤดูกาล ช่วยให้ประหยัดเพราะราคาถูกและที่สำคัญยังดีต่อสุขภาพ เพราะปลอดจากสารพิษตกค้าง เช่น น้ำยาเร่งการเจริญเติบโตต่างๆ ดังนั้นเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายลองวิ่งตามกระแสดูบ้างก็ดีนะคะ แต่ไม่ใช่กระแสแฟชั่นนะ คือกระแสพืชผักผลไม้ต่างหาก อยากทานอะไรก็รอให้อยู่ช่วงราคาถูกก่อนดีกว่าเนอะ
6. หมั่นตรวจสอบยอดเงินในบัญชี
หากเลือกชำระค่าใช้จ่ายต่างๆผ่านบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ ควรหมั่นตรวจสอบยอดเงินเพื่อให้ทราบความเคลื่อนไหวในบัญชีอย่างสม่ำเสมอและยังเป็นการตรวจสอบความถูกต้อง หากพบเห็นความผิดพลาดทำให้สามารถแก้ไขได้ทันทวงทีและยังทำให้เราระมัดระวังการใช้จ่ายเงินยิ่งขึ้นนอกจากนี้อาจจะทำบัญชีรายรับรายจ่ายไว้ด้วยก็ได้นะ จะได้รู้ว่าเดือนหนึ่งเราใช้จ่ายหมดไปกับค่าอะไรบ้างนั้นเอง
7. วางแผนใช้จ่ายเงินล่วงหน้า
เมื่อมีโครงการใช้จ่ายเงินต้องมีการวางแผนล่วงหน้าทุกครั้ง เช่น การท่องเที่ยวพักผ่อนในช่วงวันหยุดยาว การซื้อของใช้ที่ต้องใช้เงินจำนวนมากๆ เพื่อให้เกิดการเก็บออมและควบคุมค่าใช้จ่ายทำให้ไม่สร้างภาระหนี้สินขึ้นภายหลัง เมื่อถึงกำหนดการจ่ายเงินจริงๆ ก็จะได้มีเงินพอสำหรับจ่ายไม่ทำให้กระทบต่อการเงินที่ใช้จ่ายอยู่ในแต่ละวันนั่นเอง
เคล็ดลับการออมเงิน ที่ไม่มีผลกระทบกับรายรับรายจ่าย เป็นเรื่องง่ายๆที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของเราอยู่แล้ว เพียงปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างของตัวเราเองก็สามารถลดค่าใช้จ่ายและทำให้มีเงินเหลือไว้สำหรับเก็บออมได้ การเก็บออมเงินสามารถเริ่มจากจำนวนน้อยๆไปก่อนเมื่อถึงช่วงที่มีความพร้อม อาจปรับเปลี่ยนวิธีให้มีเงินเก็บออมมากขึ้น ใครที่กำลังที่จะเก็บออมเงินมากแค่ไหน ก็เก็บเท่าที่จะเก็บได้ แต่อย่าลืมนะว่าเงินที่เก็บออมไว้นั้นหากไม่จำเป็นก็ไม่ควรนำออกมาใช้นะคะ