หลายๆคน อาจจะกำลังไม่แน่ใจตัวเองว่าควรจะทำบัตรเครดิตหรือบัตรกดเงินสดดีน๊า เพราะบัตรทั้งสองใบก็ให้ประโยชน์ที่เรียกได้ว่ามีความแตกต่างกันอย่างมาก เพราะบัตรเครดิตสามารถรูดบัตรเพื่อทำการชำระค่าสินค้าและบริการได้ และยังสามารถกดเงินสดออกมาได้อีก แต่จะมีอัตราดอกเบี้ยที่จากการกด 3% ของวงเงินที่ถอน แถมยังมีดอกเบี้ยที่ถอนเงินสดออกมาอีกด้วย แม้จะสามารถกดเงินสดได้ก็ต้องรับภาระดอกเบี้ยอีกมากโข ส่วนการ ใช้บัตรกดเงินสด นั้นไม่สามารถใช้ชำระค่าสินค้าได้ นอกจากกดเงินสดออกมาใช้นั่นเอง
ความหมายของบัตรกดเงินสด
สำหรับบัตรกดเงินสดก็คือ บัตรที่สถาบันการเงิน หรือผู้ประกอบการบัตรเครดิตได้พิจารณาออกบัตรให้กับคนที่มีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไข ตามที่สถาบันการเงินได้กำหนดไว้ แต่ก็ต้องมีเงื่อนไขตามที่สถาบันการเงินส่วนใหญ่จะเป็นผู้กำหนด สำหรับคุณสมบัติของผู้สมัครบัตรกดเงินสดนั้นจะต้องมีรายได้ขั้นต่ำ 8,000 – 15,000 หรืออาจจะมากกว่านั้น และมีอายุการทำงานไม่น้อยกว่า 3 หรือ 6 เดือน แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับทางสถาบันการเงินจะเป็นผู้กำหนดด้วยเช่นกัน
เงื่อนไขของการสมัครบัตรกดเงินสด
เงื่อนไขของการสมัครบัตรกดเงินสดไม่ต่างจากการสมัครบัตรเครดิต แต่ในการพิจารณาของสถาบันการเงินจะมีความแตกต่างกัน และในส่วนข้อดีของบัตรกดเงินสดคือ เงื่อนไขของค่าธรรมเนียมรายปีจะฟรี พร้อมทั้งฟรีสำหรับค่าธรรมเนียมหากมีการกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็ม ทุกแห่งในประเทศไทย ซึ่งทางสถาบันการเงินจะคิดอัตราดอกเบี้ย แบบลดต้นลดดอก เพราะคิดดอกเบี้ยจำนวนวันตามที่ใช้จริงเท่านั้น เมื่อทำการสมัครครั้งแรกสามารถที่จะใช้ได้ตลอดเวลาและตลอดไป และยังรวมถึงการใช้เป็นวงเงินหมุนเวียนได้ตลอด เมื่อคุณมีการชำระยอดเงินคืนกับทางสถาบันการเงิน และผู้สมัครไม่ต้องมีหลักทรัพย์ หรือบุคคลค้ำประกัน
ความแตกต่างของบัตรกดเงินสดกับสินเชื่อเงินกู้ระยะยาว
ในการสมัครบัตรกดเงินสดจะแตกต่างจากสินเชื่อเงินกู้แบบระยะยาว บัตรกดเงินสดเป็นสินเชื่อเงินสดแต่อยู่ในจำนวนวงเงินที่น้อยกว่าเงินกู้แบบระยะยาว จึงไม่ต้องมีหลักค้ำประกันใดๆ ส่วนสิทธิประโยชน์ตามที่สถาบันการเงินกำหนดไม่ว่าจะเป็น คะแนนสะสม รวมถึงคุณสามารถใช้บัตรผ่อนสินค้าแบบ 0% โดยในส่วนของสิทธิประโยชน์นั้นถือว่าไม่ต่างจากบัตรเครดิตมากนัก แต่ข้อเสียบัตรกดเงินสด คือ จะมีอัตราดอกเบี้ยที่ถือว่าสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิต ในกรณีที่มีการชำระคืนล่าช้า หรือชำระแบบขั้นต่ำ
การคิดอัตราดอกเบี้ยของบัตรกดเงินสดนั้น ได้มีวิธีการคิดเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยที่เป็นแบบลดต้นลดดอกที่สูงสุด ไม่เกิน 28 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ของทุกสถาบันการเงิน เพราะในแต่ละสถาบันการเงินจะทำการกำหนดอัตราสำหรับดอกเบี้ย ในรายอัตรา โดยจะทำการแบ่งไปตามฐานรายได้ของลูกค้า ซึ่งสามารถแบ่งเป็นกลุ่มของการอนุมัติวงเงินที่ได้ทำการอนุมัติให้กับลูกค้านั่นเอง