ทำไมถึงผิดหวังซ้ำซากจากการเล่นหุ้น
สถิติบ่งชี้ว่า นักลงทุน นักเล่นหุ้น นักเก็งกำไร ส่วนใหญ่จะประสบกับความขาดทุน และจะออกจากตลาดไปภายใน 2 ปี สถิตินี้อ้างอิงได้ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น ไทย จีน ฝรั่ง แขก คนส่วนใหญ่จะขาดทุน หลายๆคนไม่เชื่อว่า ตัวเองจะเป็นหนึ่งในคนเหล่านนั้น เพราะตัวเองเรียนเก่ง หน้าที่การงานดี ทำธุรกิจก็ประสบความสำเร็จ เล่นหุ้นง่ายๆแค่ อ่านงบ วิเคราะห์กราฟ วิเคราะห์ราคา วิเคราะห์พื้นฐานของบริษัท
แคชบาลานซ์ บัญชีที่เหมาะกับนักเล่นหุ้นมือใหม่
เดี๋ยวนี้ใครๆก็อยากลาออกมาเล่น ใครก็อยากเป็นนักลงทุน ใครๆก็อยากใช้เงินทำงาน คนรุ่นใหม่จึงให้ความสนใจกับตลาดหุ้นมากขึ้น หลายคนกระโจนเข้าตลาดหุ้นไปแล้ว บางคนยังจดๆจ้อง และส่วนหนึ่งตัดสินใจแล้วและกำลังจะไปเปิดบัญชีซื้อขายหุ้น ตอนเปิดบัญชีจะมีส่วนที่ให้เลือกว่า จะเปิดบัญชีประเภทไหน คือ บัญชีเงินสด บัญชีเงินกู้ และบัญชีฝากเงินล่วงหน้าหรือแคชบาลานซ์นั่นเอง
การเล่นหุ้นด้วยบัญชีเงินกู้
การเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ หรือบัญชีที่ใช้ในการเล่นหุ้น โดยทั่วไปมี 3 ประเภทคือ บัญชีเงินสด บัญชีเงินกู้ และบัญชีแบบฝากเงินล่วงหน้า บัญชีแต่ละประเภทอาจมีชื่อเรียกแตกต่างกันบ้างเล็กน้อยตามแต่ละบริษัทจะเรียกขานและกำหนด แต่หลักการและข้อตกลงของบัญชีจะเป็นไปในแนวทางเดียวกันทุกบริษัท ทุกโบรกเกอร์ บทความนี้จะกล่าวถึงการเล่นหุ้นด้วยบัญชีเงินกู้เป็นหลัก
6 นิสัย ที่จำเป็นในการเล่นหุ้น
คนที่เคยสัมผัสตลาดหุ้นมาสักระยะหนึ่งแล้ว ย่อมรู้ดีว่า การจะหาเงินจากตลาดหุ้นให้ได้เป็นกอบเป็นกำ สม่ำเสมอนั้น ยากถึงยากที่สุด แต่ก็ยังอยากจะประสบความสำเร็จในเส้นทางสายนี้อยู่ หากตั้งใจและไม่ยอมรามือง่าย ลองสำรวจดูว่า ตัวเรามี 6 นิสัยที่จำเป็นในการเล่นหุ้นให้ประสบความสำเร็จหรือไม่
สิ่งที่ยังไม่มีใครบอกคุณเกี่ยวกับ นักเล่นหุ้น
นักเล่นหุ้นในที่นี้ หมายถึงคนเล่นหุ้นทั่วๆไป ที่ยังไปไม่ถึงระดับมืออาชีพ เล่นได้บ้าง เสียบ้าง และกำลังศึกษาหาความรู้อยู่ คนที่ซื้อขายหุ้นมีหลายแบบหลายประเภท และหลากหลายสไตล์ ยากที่จะจัดกลุ่มเฉพาะเจาะจงได้ครบ บทความนี้ ถือเป็นข้อคิด ข้อเตือนใจ ที่ไม่มีค่อยมีการบอกต่อกันมากนัก เพราะอ่านแล้วฟังแล้ว พาลพาให้หมดกำลังใจในการเล่นหุ้น บางครั้งอาจล้มเลิกไปเลยก็ได้ เนื้อหาเป็นอย่างไรบ้างนั้น อ่านต่อกันได้เลย
มือใหม่จะเริ่มต้นเล่นหุ้นด้วยบัญชีแบบไหนดี ?
นักลงทุนหน้าใหม่ที่สนใจการเล่นหุ้น และตัดสินใจแล้วว่าได้ฤกษ์ลงมือปฏิบัติการแล้ว หลังจากเฝ้าอ่านหนังสือ ศึกษาทางทฤษฎีมาพอสมควร วันสองวันนี้จะไปเปิดบัญชี เริ่มต้นเล่นหุ้น ลงทุนอย่างจริงๆจังๆเสียที เมื่อตัดสินใจแล้ว ก็เดินทางไปที่โบรกเกอร์ บอกเจ้าหน้าที่ว่า มาขอเปิดบัญชีหลักทรัพย์ หรือถ้าใครไม่อยากไปที่โบรกเกอร์ ก็สามารถโทรไปที่บริษัทเขาได้เลย
จะเล่นหุ้น ต้องหัดวิเคราะห์ด้วยตนเอง
วอร์เร็น บัฟเฟตต์ นักลงทุนที่เป็นตำนานระดับโลก ค้นพบวิธีลงทุนที่ประสบความสำเร็จด้วยตัวเอง บัฟเฟตต์ เรียนรู้เกี่ยวกับบริษัททุกบริษัทในสหรัฐ ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้น บัฟเฟตต์จึงมีข้อมูลมากมายของบริษัท โดยๆเฉพาะบริษัทใหญ่ๆในสหรัฐอเมริกา และยังคงปรับข้อมูลเหล่านั้นให้ทันยุคสมัยอยู่เสมอๆ รายงานประจำปีของบริษัท ทุกบริษัทอยู่ภายในจิตใต้สำนึกของบัฟเฟตต์ แต่ถ้าข้อมูลส่วนไหนที่ไม่มีในรายงานประจำปี เขาจะออกไปขุดคุ้ย ลุย ค้นหา ที่ภาคสนามด้วยตนเอง
ตลาดหลักทรัพย์ แหล่งเงินเข้ากระเป๋า (จริงหรือ ?)
กลับมาที่เรื่องของตลาดหุ้นก็เช่นเดียวกัน ซึ่งตลาดหลักทรัพย์นั้นนับเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกนี้เลยทีเดียว ย้อนไปเมื่อก่อนที่จะมีตลาดหลักทรัพย์เกิดขึ้น ซึ่งคนสมัยนั้นเมื่อต้องการที่จะเรียกระดมเงินทุน การย้าย หรือการเปลี่ยนมือ
แนวทางการซื้อขายหุ้นของ จอร์จ โซรอส
การซื้อขายหุ้นของโซรอส จะตัดสินใจบนสมมติฐานที่เขาสร้างขึ้น เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่จะมาถึง สิ่งที่เขาต้องติดตามตรวจสอบอยู่เสมอก็คือ คุณภาพของสมมติฐาน และการดำเนินไปของสถานการณ์ โดยมีองค์ประกอบสำคัญ 10ประการคือ
การเลือกซื้อหุ้นชั้นยอดด้วยระบบ CANSLIM
เซียนหุ้นส่วนใหญ่รู้ดีว่า ไม่มีสูตรตายตัวในการเล่นหุ้นให้ประสบความสำเร็จ เพราะตลาดหุ้นมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ประกอบกับเงื่อนไขและปัจจัยต่างๆทั่วโลกนั้นไม่สามารถคาดการณ์ได้ การจะเล่นหุ้นให้ประสบความสำเร็จ จึงต้องมีการเลือกระบบการซื้อขายหุ้นให้เหมาะสมกับตัวเราเอง และอย่าไปคาดหวังว่าจะมีระบบที่สมบูรณ์แบบ หรือตามหาระบบที่แม่นยำที่สุดแบบ 100 % นั้นไม่มีอยู่จริง