
ตายแล้ว(หนี้)ไปไหน ?
เพิ่งจะผ่านปีใหม่มาได้ไม่นาน เผลอแป๊บเดียวก็จะหมดเดือนแรกของปีซะแล้ว ถือว่าเวลาไปเร็วเหมือนกันนะเนี่ย วันก่อนในพันทิพมีกระทู้หนึ่งเกี่ยวกับพวกบัตรเครดิต บัตรเดบิต และหนี้สินเรื่องหนึ่งน่าสนใจมากๆ ซึ่งเป็นหัวข้อของเราในวันนี้ก็คือ หากเราเสียชีวิตในขณะที่มีหนี้สินจากบัตรเครดิตอยู่ เรื่องราวจะเป็นอย่างไร

รับผิดชอบหนี้รถยนต์ที่ค้ำประกันอย่างไรไม่ให้เสียประวัติ
ไม่มีผู้ค้ำประกันคนใดที่อยากจะต้องมาชำระหนี้ที่เราไม่ได้เป็นคนก่อให้กับธนาคารแทนลูกหนี้ แต่ในเมื่อเราช่วยเซ็นค้ำประกันไปให้แล้ว ก็หมายความว่าเราจะปฏิเสธความรับผิดชอบนี้ไม่ได้ หากเราไม่จ่ายหนี้ตามที่ธนาคารทวงถามมา เราเองก็จะเป็นผู้เสียเครดิตในประวัติการชำระหนี้ซึ่งก็จะมีผลในการขอสินเชื่อหรือเงินกู้ในอนาคตของผู้ค้ำประกันเองเช่นกัน ธนาคารหรือบริษัทไฟแนนซ์เวลาฟ้องร้องก็จะฟ้องทั้งตัวลูกหนี้และผู้ค้ำประกันไปพร้อม ๆ กัน

ทางออกสำหรับปัญหาหนี้สินที่ทำแล้วเห็นผลทันที
ปัญหาหนี้สินเป็นปัญหาหนึ่งที่หลายคนยอมรับว่ามีความเครียดเอามาก ๆ เครียดเพราะบริษัทบัตรเครดิตตามทวงถามบ่อย ๆ เครียดเพราะหมุนเงินไปจ่ายเจ้าหนี้อีกรายไม่ทัน เครียดเพราะหนี้สินใช้เท่าไรไม่ยอมยุบลงสักที หลายคนแก้ปัญหาโดยการเชิดใส่เจ้าหนี้เสียเลย โดยทำนิ่งเฉยบ้าง โดยหนีหนี้บ้าง แต่การทำอย่างนั้นไม่ได้ทำให้ความเครียดของคุณลดลงแม้แต่น้อย กลับเพิ่มมากขึ้นว่าวันไหนเขาจะตามมาเจอ

เทคนิคการปลดหนี้ แบบฉับไว ทันใจคนยุคใหม่
แต่อย่างที่รู้กันว่า “การเป็นหนี้” ถือเป็นเรื่องที่ไม่มีคนไหนอยากเป็น เพราะนอกจากจะทำให้คุณไม่สบายใจทุกครั้งที่มีการทวงถามแล้ว การเป็นหนี้ก็ทำให้คุณไม่มีความสุขในการดำเนินชีวิตอีกด้วย ดังนั้น หากใครที่มีปัญหาชีวิตเกี่ยวกับ “การเป็นหนี้” อยู่ตอนนี้แล้ว ลองมาดูเทคนิคการปลดหนี้ของเราสิคะ แล้วคุณจะรู้ว่าชีวิตนี้มีอะไรอีกมากมายที่คุณยังไม่รู้

จดหมายทวงหนี้มาจากทนายแบบนี้ผิดกฎหมายหรือไม่ ?
ต่อมาปรากฏว่าเจ้าหนี้รายนี้ได้ส่งเอกสารจากทนายมาที่บ้านเพื่อฟ้องร้องเรียกเงินคืนจากพ่อของเธอ โดยในจดหมายได้ระบุให้คืนเงิน 200,000 บาท ภายในเวลา 15 วัน เจ้าของกระทู้สงสัยว่าเจ้าหนี้รายนี้สามารถทวงเงินด้วยวิธีแบบนี้ได้ด้วยหรือ ถือว่าผิดกฎหมายหรือไม่ รวมถึงเรื่องดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่ออาทิตย์ถือว่าผิดกฎหมายด้วยหรือไม่

เคล็ดลับการแก้ไขปัญหาหนี้สินกับเจ้าหนี้ เคลียร์อย่างไรให้ลงตัว
ไม่ว่ายุคไหนๆ เรื่องของการเป็นหนี้มันต้องมีให้เห็นเสมอ ไม่ว่าจะเป็นคนรวยหรือคนจน ซึ่งอยู่ที่ว่าการเป็นหนี้ของแต่ละคนนั้น จะสร้างผลประโยชน์อย่างไรบ้าง อย่างบางคนเป็นหนี้เพราะเอาเงินไปต่อยอดในการลงทุน แต่บางคนเป็นหนี้บัตรเครดิตเพียงเพราะอยากได้มือถือตามกระแสอินเทรนด์ ไม่ว่าจะเป็นลูกหนี้กับธนาคาร หรือบุคคลทั่วไป ก็ถือว่าคุณมีภาระที่จะต้องหาเงินมาจ่ายแล้วล่ะ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม

เริ่มผ่อนบ้านไม่ไหว ปัญหาใหญ่ของคนมีบ้าน
เมื่อเราต้องเดินทางมาถึงจุดที่เราไม่อยากจะเจอ ก็คือ ผ่อนบ้านไม่ไหว อาจจะด้วยเจอพิษเศรษฐกิจทำให้รายได้ลดลงหรือตกงานเพราะบริษัทเลิกจ้าง แม้จะพยายามหางานใหม่ทำหรือหารายได้เพิ่ม แต่ดูแล้วคิดว่าไม่น่าจะรอดแน่ ๆ ที่ต้องผ่อนรายเดือนก็เป็นจำนวนเยอะอยู่ แถมระยะเวลาที่จะต้องคืนก็อีกตั้งยาว เมื่อเริ่มมีสัญญาณของการผ่อนหนี้บ้านไม่ไหว ก็ต้องเริ่มมีการวางแผนแล้วว่าจะทำอย่างไรกันดี

เป็นไปได้ไหมที่จะ “ออมเงิน” ในขณะที่มีหนี้อยู่ ?
ชีวิตของผู้คนในปัจจุบันจะว่าไปแล้วถ้าอยากจะไม่มีหนี้บางทีก็ทำได้ยาก เพราะหากรอเพื่อให้เก็บเงินได้ก่อนแล้วค่อยซื้อบ้านหรือซื้อรถ บางทีก็ไม่แน่ใจว่าชีวิตนี้จะมีบ้านหรือรถกับเขาได้บ้างหรือเปล่า อย่างไรการก่อหนี้ของเราควรเป็นสิ่งจำเป็นและที่สำคัญต้องอยู่บนพื้นฐานของความมั่นใจว่าเรามีความสามารถในการชำระหนี้คืนได้

“มีหนี้แล้วอยากมีเงินออม” ทำยังไง ?
จากที่ว่ามาแล้ว จะเห็นได้ว่า เราจะ “ออม” ในขณะที่มี “หนี้” ได้ ก็ต่อเมื่อเราวางแผนการใช้จ่ายอย่างเหมาะสม อะไรที่ไม่จำเป็นในชีวิตประจำวันเราควรลดๆ ลงบ้าง แม้จะปฏิบัติได้ยาก แต่หากเราทำให้เป็นนิสัยแล้ว เราก็จะสามารถมีเงินออมได้ ถึงแม้จะยังมีหนี้ จำไว้ว่า การออมนั้น ไม่จำเป็นต้องเก็บออมวันละมากมาย แต่เราสามารถออมได้ทุกวัน วันละเล็ก วันละน้อย

อย่าแก้ปัญหา ด้วยการสร้างปัญหามากกว่าเดิม
ทุกชีวิตเกิดมาต้องพบกับปัญหา ไม่ว่าคนหรือสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น แต่ดูเหมือนคนจะมีปัญหาวุ่นวายไม่รู้จักจบสิ้น พัวพันกันเต็มไปหมด บางทียิ่งแก้ ยิ่งเป็นการเพิ่มปัญหาใหม่ๆเข้ามา บางทียิ่งแก้ ยิ่งแย่กว่าเดิม คนที่มีปัญหามากๆ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะไม่ยอมรับรับว่าตัวเองมีปัญหาตั้งแต่แรก อยากเป็นคนทำอะไรราบรื่น อยากเป็นคนที่ประสบความสำเร็จและสมบูรณ์แบบ