
พอเพียงตามรอยพ่อแบบสังคมเมือง
การไม่เบียดเบียนใคร และการใช้ของอย่างคุ้มค่าอย่างที่พระองค์ท่านทรงทำเป็นแบบอย่างไว้ ไม่ว่าจะเป็น ยาสีพระทนต์ ดินสอแท่งสั้น เสื้อผ้า รองเท้า ฯลฯ ที่พระองค์ทรงใช้อย่างคุ้มค่านั่นเอง นอกจากนี้การใช้ชีวิตง่ายๆตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงในชีวิตสังคมเมือง ยังมีสิ่งอื่นๆที่น่าสนใจอีก ได้แก่

พระราชดำรัสการออม กับพฤติกรรมการออมของผม
ตราบจนกระทั่งเมื่อผมได้ลองหันมาศึกษาพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 อย่างจริงจัง และได้พบว่า มีพระราชดำรัสหลายเรื่องที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน และตัวผมก็ได้นำมาปรับใช้ ดังจะขอยกตัวอย่างต่อไปนี้

แม้จะเป็นลูกของเรา แต่พวกเขาก็ต้องมีชีวิตเป็นของตัวเอง
ทุกเกิดที่เกิดมาบนโลกใบนี้จะต้องมีสถานะเป็นลูกของพ่อและแม่ แต่ไม่ใช่ทุกคนบนโลกนี้ที่จะได้เป็นพ่อคนแม่คน ทุกคนล้วนผ่านประสบการณ์การเป็นลูก แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีประสบการณ์ในการเป็นพ่อแม่ แต่ไม่ว่าจะเคยเป็นพ่อเป็นแม่ เป็นลูก มาแบบไหนก็ตามหรือไม่เคยเป็นพ่อแม่คนก็ตาม บทความล้วนมีประโยชน์ต่อผู้อ่านไม่มุมใดก็มุมหนึ่ง มีคนเขียนถึงขวบปีของลูกในวงรอบต่างๆกันได้น่าสนใจสรุปได้ว่า

วิชาลำบาก
เมื่อได้ยินคำว่า ลำบาก หลายคน เบือนหน้าหนี หรือไม่ก็เดินเลี่ยงไปทางอื่นเสียแล้ว เพราะคำว่า ลำบาก เป็นอะไรที่ดูเป็นลบมากๆ ให้ความรู้สึกถึงการเหนื่อยยาก ตากแดด ร้อน ไม่สบายตัว ไม่สบายใจ จะมีใครรู้บ้างไหมว่า จริงแล้วความลำบากนับเป็นของขวัญที่ฟ้าประทานมาให้เลยทีเดียว จนเศรษฐีหลายๆคนเคยบ่นว่า เสียดายที่ตัวเขาเองไม่มีมรดกเป็นความลำบากทิ้งไว้ให้ลูกหลาน

ชีวิตยามว่างของเซียนหุ้น
คนที่ประสบความสำเร็จในการเล่นหุ้นอย่างมาก ร่ำรวยเงินทองจากการเล่นหุ้น นักเล่นหุ้นมือใหม่ก็พยายามศึกษาเรียนรู้แนวคิดของเซียนหุ้นต่างๆ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้กับตนเอง วันนี้มีตัวอย่างเรื่องเล่าชีวิตของเซียนหุ้นคนหนึ่ง ลองมาดูว่า เขาใช้ชีวิตยามว่างทำอะไร เขาใส่ใจ และพิถีพิถัน เรื่องหุ้นมากน้อยแค่ไหน

รวยต่างมุม
คนรวยบนโลกใบนี้มีไม่มากถ้าเทียบกับประชากรหกพันล้านคน คนที่รวยระดับมหาเศรษฐีมีประมาณ หลักล้านคนเห็นจะได้ เศรษฐีล้านคนเหล่านี้ร่ำรวยขึ้นมาจากหลากหลายสาขาอาชีพและกระจายกันอยู่ตามมุมต่างๆบนโลก วันนี้ลองมาดูหลักคิดของมหาเศรษฐี 3 คน ว่าเขามีวิธีคิดและมุมมองต่อการหาเงินอย่างไร

หุ้นกตัญญู
การลงทุนในหุ้นนี้หมายถึง ลงทุนจริงๆ ใช้เวลานานมาก นานพอๆกับที่เราเลี้ยงลูกคนหนึ่งจนโต แล้วสามารถเลี้ยงดูเราได้ แน่นอนว่าต้องกินเวลา 20 – 30 ปี และเพื่อกระจายความเสี่ยง ก็ต้องมีลูกหลายคน เพื่อคนโตไม่เลี้ยง คนกลางก็เลี้ยงได้ หรือคนกลางรายได้น้อย

ชีวิตคนเราจะมี 10 ปีสักกี่ครั้ง
คนเราส่วนใหญ่ มีชีวิตอยู่บนโลกนี้ไม่เกิน 100 ปีเป็นแน่ ในรอบหนึ่งร้อยปีนี้ จะว่าน้อยก็ไม่น้อยนะ เพราะคนที่อยู่มาครบร้อยปีคงผ่านเรื่องราวอะไรตั้งมากมาย จำได้ไม่หมด มีทั้ง สุข เศร้า เงา ทุกข์ ปะปนกันไป มีผู้รู้ท่านหนึ่งแบ่งแต่ละช่วงเวลาของมนุษย์ไว้ได้อย่างน่าสนใจ ที่อ่านดูแล้วก็เป็นจริงอย่างที่เขาว่าไว้ ผู้รู้ได้แบ่งช่วงเวลาของชีวิตคนเราออกเป็นรอบๆ รอบละ 10 ปี ดังนี้

อย่าเสียดายปลาใหญ่ที่หลุดมือไปแล้ว
หากเรามีเรื่องราวที่ยากจะลืมเลือน ที่คอยทำให้เราหมดความสุขไปทั้งกับอดีตและปัจจุบัน เราควรจะหาทางจัดการความคิดแบบนั้นให้หมดสิ้จะดีกว่า โดยใช้วิธีดังนี้

เป็นเต่าดีกว่าเป็นเม่น
สัตว์ทุกชนิดจะมีสัญชาตญาณในการเอาตัวรอดแตกต่างกันไป การเอาตัวรอดของสัตว์เราจะแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบคือ หนึ่งเอาตัวรอดด้วยการล่าเหยื่อเป็นอาหาร เรียกว่าเป็นพวกเชิงรุก สองคือเอาตัวรอดด้วยการปกป้องตัวเอง สัตว์ทุกชนิดมีอาณาเขตของตัวเอง และมีพฤติกรรมแตกต่างกันไป ในบรรดาสัตว์ทั้งหลายนั้น มีสัตว์อยู่ 2 ชนิดที่ให้บทเรียนกับเราได้ดีเกี่ยวกับการเอาตัวรอด นั่นก็คือ เม่น กับ เต่า