วันนี้จะมาเล่าถึงประสบการณ์ทำงาน การหารายได้ในแบบต่างๆที่เคยทำมา หลายๆคนอาจสงสัยว่าเล่าทำไม แต่รับรองว่าหากคุณได้อ่านจนจบ คุณอาจมีไอเดียสำหรับการหารายได้เสริม หรือ หากตกงานคุณน่าจะมีแรงใจในการหางานทำ หรือเลือกงานที่สร้างรายได้ให้กับคุณได้ และสามารถนำไปสอนลูกหลานให้รู้จักการทำงานหารายได้เองเพื่อสร้างประสบการณ์
อย่างที่เคยบอกไปว่าครอบครัวผู้เขียนนั้นอยู่กับคุณยาย ซึ่งคุณยายเป็นคนที่ไม่ชอบอยู่นิ่งๆเฉยตามประสาคนเคยทำงานและเคยเป็นชาวสวน แม้จะย้ายจากสวนมาอยู่เมืองก็ยังอยู่นิ่งๆเหมือนคนสูงอายุคนอื่นๆไม่เป็นต้องหาอะไรทำแม้ทุกวันนี้จะอายุมากถึง 87 แล้วแต่ยังไม่ยอมอยู่นิ่งๆ ต้องหาอะไรทำหรือแอบหนีไปเที่ยวอยู่เสมอๆ ซึ่งความที่อยู่กับคุณยายมาตั้งแต่เด็กๆ ลูกๆหลานหลายคนแวะเวียนมาอยู่ด้วยช่วงปิดเทอม หรือ แม้จะเปิดเทอมแล้ว สิ่งที่คุณยายจะบังคับ ย้ำว่าบังคับให้ทำคือ การหารายได้ ตัวเล็กตัวน้อยโดนกันหมด เริ่มจากพับถุงขาย สมัยก่อนตอนเด็กๆนั้น การพับถุงขายแลกค่าขนมเป็นอะไรที่สนุก เพราะทำกันหลายคนและเมื่อคุณยายนำไปส่งให้ร้านค้าในตลาดสิ่งที่ได้กลับมาคือค่าแรง ซึ่งยุคนั้นค่าพับถุงก็ร้อยละ 1-3 บาทตามขนาด ทั้งถุงจากสมุดหน้าเหลือง ถุงจากหนังสือพิมพ์ และกระดาษอื่นๆตามแต่คุณยายจะหามาให้ทำ และทำเป็นล่ำเป็นสันด้วยไม่แค่เฉพาะปิดเทอม เพราะอยู่กับคุณยายกลับจากเรียนก็มาช่วยพับถุงได้ค่าขนมอาทิตย์ละหลายบาท
นอกจากนี้การบังคับให้หารายได้ของคุณยายนั้นยังเป็นการสอนให้หาเงินใช้เองแบบเนียนๆ จากที่เคยเบื่อๆว่าไม่ได้เที่ยวเล่น นอนดูหนังเหมือนเพื่อนๆ ต้องทำงานแลกค่าขนม ก็กลายเป็นสนุก และกลายเป็นการทำให้เราไม่เลือกงาน ไม่หมิ่นค่าแรงน้อยๆ เพราะพับถุงค่าแรงถูกเรายังทำได้เลย ดังนั้นพอโตขึ้นมาหน่อยคุณยายก็พาไปหัดทำงานข้างนอก งานแรกทำนอกบ้านช่วงปิดเทอมตอนอยู่ ป.6 คือไปเป็นลูกจ้างร้านข้าวแกง ได้ข้าวกิน 2 มื้อค่าแรง 50 บาท กับการช่วยตักแกง ล้างจาน ทำช่วงเช้าจนถึงบ่าย บางวันได้แกงกลับบ้านด้วย จึงเป็นงานที่เราทำแล้วรู้สึกว่ากว่าจะได้เงินนี่มันลำบากจัง และกลายเป็นทำให้เราประหยัดรู้จักค่าของเงินไปด้วยในตัว
อ่านเพิ่มเติม >> อยากรวย ต้องเริ่มตั้งแต่เด็ก ! <<
พอขึ้นมัธยมคุณยายก็ยังหาอาชีพให้ทำตอนปิดเทอมแต่ตอนนี้ให้เปิดกิจการของตัวเอง เจ๋งไหมล่ะ เพราะละแวกบ้านตอนปิดเทอมเด็กๆเยอะ และมีอพาร์ทเม้นท์มาเปิด ดังนั้นคุณยายจึงเริ่มให้ขายน้ำแข็งใส ขายน้ำปั่น ด้วยเหตุผลที่ว่าปิดเทอมพวกแกมาอยู่หลายคนเปลืองเงิน ดังนั้นขายขนมกันดีกว่าขายได้กำไรก็แบ่งกัน ยายออกทุนให้ และไม่ต้องไปเสียเงินซื้อของคนอื่นๆ กินในร้านเนี่ยแหละ ผู้เขียนจึงได้มีกิจการเป็นของตัวเองตั้งแต่สมัยมัธยม แรกๆก็ขายตอนปิดเทอม เริ่มจากน้ำแข็งใส น้ำปั่น แต่คุณยายไม่หยุดแค่นั้น แกบอกว่าเดี๋ยวนี้ซอยเราคนเยอะ ก็เริ่มเปิดร้านของชำเล็กๆ มีน้ำอัดลม มีขนมห่อ มีของใช้ ด้วยเหตุผลเดิม ไม่ต้องไปเสียเงินซื้อเขา และขายมาเรื่อยๆ ตกเย็นกลับมาก็มาช่วยขายของ เก็บร้าน ได้ค่าจ้างคือค่าขนมไปโรงเรียน ของในร้านอยากกินเท่าไหร่ก็กินไป ซึ่งคนอื่นๆมักบอกว่า ยายขายแบบนี้จะกำไรยังไงลูกหลานกินหมด ยายก็จะตอบว่ากำไรกิน ดีกว่าอยู่เฉยๆ มันมีเงินก็ให้มันจ่ายอัฐยายซื้อขนมยาย วันไหนเงินหมดมันก็ขอยายกินฟรี ซึ่งเป็นแบบนี้จนเรียนจบมัธยมต้น
พอเริ่มโตก็สามารถไปทำงานตามห้างสรรพสินค้า ตามโรงงานช่วงปิดเทอมได้ คุณยายก็เหมือนเดิมฝากให้ทำงานกับคนรู้จัก ไปทำงานเป็นแม่บ้านในอพาร์ทเม้นท์ข้างบ้านบ้างในช่วงที่แม่บ้านลากลับต่างจังหวัด ติดสอยห้อยตามสาวยาคูลท์ไปส่งยาคูลท์บ้าง ไปทำงานโรงงานบ้าง ทำตามห้างบ้าง แล้วแต่ว่ายายจะฝากให้ไปทำที่ไหนกับใคร บางทีเปิดเทอมก็มีงานเสาร์-อาทิตย์ หรือตอนเย็นๆบ้าง เพราะคนแถวบ้านรู้ว่าลูกหลานบ้านนี้ไม่เกี่ยงงาน ทำงานเป็น ก็มักจะมาเรียกไปช่วยงานบ่อยๆ หรือแม้แต่บางคนหางานพวกทำดอกไม้ เย็บผ้า แพคของแผงๆ มาให้ทำที่บ้านเลยก็มี ค่าแรงมากบ้างน้อยบ้าง แต่สิ่งที่ได้คือประสบการณ์รู้จักช่องทางหางาน หาเงิน และรู้จักใช้เงิน เพราะเมื่อได้ค่าแรงมายายจะบังคับให้แบ่งฝากที่ยายโดยยายจะบอกว่า เอามาไว้เป็นค่ากับข้าว ค่าน้ำ ค่าไฟ ซึ่งก็แบ่งกันไปมากบ้างน้อยบ้างทุกครั้งที่ได้เงินมา มีแอบเม้มๆไว้บ้างก็มี ซึ่งมารู้เอาทีหลังว่ายายเอาเงินที่บังคับให้แบ่งนั้นไปซื้อสลากออมสินไว้ให้ ซึ่งหลานคนไหนฝากไว้จะได้คืนตอนเรียนจบเหมือนกับมีทุนออมเล็กๆน้อยๆไว้ตั้งตัว
จนกระทั่งเรียนจบและเริ่มทำงานจริงจัง ถึงได้รู้ว่าประสบการณ์ที่ผ่านมาตั้งแต่โดนบังคับให้พับถุงขาย และตระเวนทำงานช่วงปิดเทอม มันเป็นอะไรที่สอนให้เราอดทน กับการทำงาน กับการหารายได้ และรู้ว่าเงินมันหากยากขนาดไหน ถึงจะออกจากงานบางช่วงแต่ก็ไม่เคยกลัวเพราะเราไม่เลือกงาน อะไรที่เราทำได้ รายได้สมเหตุสมผล ไม่เปลืองค่าใช้จ่ายมากนัก เราก็สามารถทำได้และไม่มีคำว่ากลัวอดตาย กลัวไม่มีรายได้ ไม่กลัวตกงาน
เพราะประสบการณ์ที่ผ่านมามันจะเป็นตัวสอนให้เรารู้ว่า เราควรทำอย่างไร เราจะแก้ปัญหาอย่างไร งานแบบไหนที่เราทำได้
และยายมักจะบอกเสมอว่า รวยคืออะไร คำว่ารวยของยายคือไม่มีหนี้ มีเงินซื้อข้าวกินทุกวัน มีเงินไปหาหมอ มีเงินทำบุญ มีเงินซื้อเสื้อผ้าของใช้ ยายมักจะบอกเสมอว่าแค่นี้ก็รวยแล้วเรารวยความสุข เรารวยที่ใจ คุณล่ะเริ่มมีประสบการณ์ ทำงานกันตั้งแต่อายุเท่าไหร่ และจะรวยแบบไหน ลองมาแชร์กันนะ