ในยุคสมัยที่เปลี่ยนไป การเป็นหนี้ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกครอบครัว เพราะพื้นฐานะทางด้านการเงินของแต่ละครอบครัวนั้นแตกต่างกัน หากคนที่เกิดมามีฐานะดี เรื่องหนี้สินก็อาจจะเป็นเรื่องไกลตัวสำหรับเขา แต่สำหรับคนที่เกิดมาและต้องดิ้นรนด้วยตัวเอง ไม่ได้มีสินทรัพย์จากมรดกตกทอดจากพ่อแม่แล้วนั้น การกู้ยืมเงินเป็นอีกทางหนึ่งที่จะช่วยให้ครอบครัวสามารถหมุนเงินเพื่อใช้สอยในเรื่องต่างๆได้ เพราะหากมัวแต่รอให้ชีวิตตัวเองมีความพร้อม เนื่องจากเกรงกลัวว่าจะต้องก่อหนี้ เขาก็อาจจะไม่มีโอกาสมีสิ่งของใดมาครอบครองเลย เช่น บ้าน รถยนต์ หรือสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ การกู้เงินเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์เหล่านี้ เป็นการช่วยให้พวกเขาได้เป็นเจ้าของที่จะช่วยสร้างความเป็นครอบครัว
สิ่งเหล่านี้เพื่อทำให้ครอบครัวมีความสุข บางคนมีหนี้จากการรับผิดชอบครอบครัวในด้านอื่นๆ เช่น เพื่อชดใช้หนี้ที่พ่อแม่สร้างไว้ ภาระที่ต้องส่งน้อง ๆ เรียน แต่ใช่ว่าสิ่งเหล่านี้จะทำให้การดำรงชีวิตของตัวเองมีปัญหา ถึงแม้ว่าจะเป็นหนี้ แต่คุณก็ยังคงมีความสุขได้ ซึ่งตัวคุณเองสามารถบริหารชีวิตให้มีความสุขเมื่อทำเรื่องหนี้ให้สมดุลกับความคิดและการใช้ชีวิต ซึ่งในบทความนี้จะพูดเรื่องการบริหารหนี้อย่างไรให้การใช้ชีวิตในปัจจุบันมีความสุขได้
การเป็นหนี้นั้นไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นการทุ่มเททุกอย่างที่มีในชีวิตไปกับมัน เพราะในการใช้ชีวิตนั้นมีเรื่องอื่นอีกมากมายที่จะต้องใคร่ครวญและไตร่ตรองนอกเหนือจากเรื่องหนี้สิน
ซึ่งในความเป็นจริงแล้วคนส่วนใหญ่มักไม่ได้มีความคิดแบบนี้ คนส่วนใหญ่ชอบเอาความเครียดที่เกิดขึ้นจากทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตมาขมวดเป็นปมเดียวกัน ทำให้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาใดๆได้ ทำให้ตัวเองไม่มีความสุข ตัวอย่างเช่น เกิดอารมณ์หงุดหงิดเพราะมีเงินไม่พอในการชำระหนี้ แล้วพาลไปหาเรื่องถึงคนอื่น ๆ ในครอบครัว ต่อว่าสมาชิกครอบครัวว่าเป็นต้นเหตุของการก่อหนี้ ทำให้ครอบครัวกลายเป็นครอบครัวที่มีปัญหา ทุกคนในบ้านไม่มีความสุข คุณคงไม่อยากให้ความสุขในครอบครัวต้องหมดไปเพราะการมีหนี้ใช่ไหม? ถ้าเช่นนั้น เรามาดูกันว่าเราควรมีวิธีการบริหารหนี้อย่างไรให้มีความสุข
-
แยกแยะเรื่องหนี้สินกับเรื่องครอบครัวออกจากกัน
ถึงแม้ว่าคุณจะตกอยู่ในฐานะมีหนี้สินรุมเร้า ควรคิดคำนวณเกี่ยวกับวิธีการแก้ไขปัญหาหนี้ เมื่อกลับมาบ้าน ไม่ควรนำอารมณ์ความเครียดจากหนี้มาพาลคนในครอบครัว เพราะการใช้อารมณ์จะก่อให้เกิดความไม่เข้าใจกันในครอบครัว ทำให้เกิดความรู้สึกแตกแยก หากคุณแสดงความเครียด สมาชิกคนอื่น ๆ ในครอบครัวก็จะเครียดตามไปด้วย ดังนั้นเพื่อการกระชับความสัมพันธ์ของครอบครัวให้แน่นแฟ้น ปรองดอง คือ ต้องแยกแยะปัญหาหนี้สินออกจากครอบครัว
-
บอกเรื่องราวการเป็นหนี้ของตัวเองให้คู่สมรสได้รู้
เพื่อได้หาวิธีการแก้ปัญหาไปด้วยกัน การเป็นหนี้ก่อให้เกิดความเครียด การคิดและแก้ปัญหาเพียงลำพังอาจจะทำให้ผู้ที่มีหนี้อยู่นั้นเครียดมากกว่าเดิม การนำปัญหาหนี้ไปปรึกษากับภรรยาหรือคนในครอบครัวจะช่วยให้เห็นทางออกหรือมุมมองในการแก้ไขปัญหาหนี้ได้มากขึ้น เมื่อสมาชิกในบ้านรู้ถึงสภาพปัญหาหนี้ ทุกคนจะช่วยกันประหยัดเพื่อไม่ก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายที่มากล้นและจะได้นำเงินไปใช้หนี้เพื่อปลดภาระหนี้ให้เร็วที่สุด
-
หาความสุขให้กับตัวเองและครอบครัวบ้าง
เรื่องนี้หลายคนอาจจะมองว่าไม่ใช่เรื่องจำเป็นหรือไม่คิดว่าการพาคนในครอบครัวไปท่องเที่ยวเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะคนเป็นหนี้มักจะคิดว่าตัวเองมีหนี้จะให้มานั่งคิดเรื่องการพักผ่อนอยู่ได้อย่างไร ในความเป็นจริงแล้ว หากเราแยกแยะปัญหาต่างๆออกและมีบทสรุปกับวิธีแก้ไขปัญหาหนี้แล้ว เราสามารถมีช่วงเวลาสำหรับการพักผ่อนได้ การไปเที่ยวยังเป็นข้อดี เพราะการไปเที่ยวช่วยผ่อนคลายความเครียด ช่วยให้มีพลังในการทำงานและความคิดต่อสู้กับหนี้ก้อนนี้ได้มากขึ้น
-
พูดคุยกับคนสนิทเพื่อปรึกษาปัญหาหนี้
หลายคนที่มีหนี้จำนวนมากแล้วเกิดความเครียด บางครั้งก็ไม่อยากพูดคุยกับคนในครอบครัว เพราะกลัวว่าเขาเหล่านั้นจะมาพลอยเครียดไปกับเราด้วย วิธีการที่ดีที่สุดคือการหาที่ปรึกษาสักคนหนึ่ง อาจจะเป็นเพื่อนสนิท ผู้มีความชำนาญด้านการเงิน ผู้ใหญ่ที่เคารพ เพื่อมารับฟังปัญหาของเรา เพราะการได้ระบายกับคนอื่นเป็นวิธีการคลายเครียดปัญหาหนี้และปัญหาต่างๆได้ดี และไม่ทำให้คนในครอบครัวเครียดเพราะเราไปด้วย
-
ไม่ก่อหนี้เพิ่มเติม
หากรู้แล้วว่าตัวเองนั้นเป็นหนี้ สิ่งหนึ่งช่วยให้ภาระเหล่านี้หมดเร็วคือการไม่ก่อหนี้เพิ่ม และควรอธิบายเรื่องการใช้จ่ายให้ครอบครัวรับรู้ เพื่อที่ทุกคนจะได้ช่วยกันประหยัด และไม่สร้างภาระหนี้เพิ่ม
อ่านเพิ่มเติม >> อยาก ปลดหนี้ ได้เร็วๆ ทำแบบนี้เลย ! <<
-
ควบคุมอารมณ์ตัวเองให้ได้
คนเป็นหนี้บางคนเมื่อได้รับการทวงจากเจ้าหนี้บ่อย ๆ ก็อาจจะเกิดอาการเครียดและโมโห เมื่อกลับมาบ้านอารมณ์โมโหนั้นยังค้างอยู่ ส่งผลให้รู้สึกเครียด ใครทำอะไรก็ดูขัดหูขัดตาไปเสียหมด ซึ่งหากปล่อยไว้อย่างนี้ต่อไป ครอบครัวอาจจะเกิดปัญหาด้านความสัมพันธ์ได้ ดังนั้นควรควบคุมอารมณ์ของตัวเองให้ดี หากหงุดหงิดมาก ๆ อาจจะหาวิธีการระบายด้วยรูปแบบอื่น ๆ เช่น การออกกำลังกาย การรับประทานอาหาร หรือการฟังเพลง เป็นต้น เพื่อให้อารมณ์เหล่านั้นหมดไป และไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับคนในครอบครัวอีกด้วย
-
ไม่เอาหนี้สินที่มีมาฉุดรั้งความเจริญก้าวหน้าในชีวิต
คือระหว่างเป็นหนี้ หากอยากทำธุรกิจอะไรเพิ่มเติม หรืออยากจะเปลี่ยนงานเพื่อได้มีเงินเดือนเพิ่มขึ้น เมื่อคิดไตร่ตรองดีแล้วก็สามารถทำได้เลย เพราะหากเรามัวแต่กังวลกับภาระหนี้ที่มีอยู่ก็จะฉุดรั้งความคิดที่จะขยับขยายเรี่องความเจริญก้าวหน้าของตัวเอง ทำให้ตกอยู่ในวังวนเดิม ๆ ต่อไปจนไม่สามารถถอนตัวจากวงจรการเป็นหนี้ได้
การเป็นหนี้ไม่ใช่ตัวทำลายทุกอย่างของชีวิต หากคุณสามารถแยกแยะปัญหาหนี้ออกจากการใช้ชีวิตและ บริหารหนี้ ให้เป็นระบบ ก็จะช่วยให้ตัวคุณและคนในครอบครัวนั้นมีความสุขถึงแม้ต้องแบกรับภาระหนี้ไปด้วยก็ตาม การจัดการระบบหนี้ที่ดี ไม่นำเอาอารมณ์เครียดจากการเป็นหนี้มาสร้างความทุกข์ใจให้กับปัญหาครอบครัว จะช่วยให้คุณสามารถฝ่าฟันวิกฤติการเป็นหนี้ให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี