เมื่อถึงจุดที่ต้องรักลูกรักตนเอง ผู้หญิงแกร่งสมัยใหม่ยอมรับชีวิตที่ไม่มีอีกฝ่ายและกลายเป็น “ คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ” มากขึ้น พร้อมยืนหยัดดูแลลูกให้มีคุณภาพได้ไม่แตกต่างจากเด็กที่มีครอบครัวสมบูรณ์ หรืออาจจะดีกว่าครอบครัวที่พ่อแม่ทะเลาะเบาะแว้งทำให้เด็กเติบโตมาอย่างขาดความอบอุ่นและขาดความมั่นคงทางจิตใจ
ลูกทุกคนรักพ่อแม่ อ่อนไหวและเจ็บปวดง่าย ต้องประคับประคองจิตใจให้ดีทั้งตอนเริ่มต้นและตลอดไป แม่ต้องไม่ใช้อารมณ์ตอกย้ำให้เกิดแผลในใจ แม้ว่าลูกโตเข้าใจเหตุผลที่พ่อแม่แยกทางกัน แต่ยังคงเสียใจและเศร้าหมอง แม่ต้องจัดการชีวิตให้เร็ว อย่ามัวหลงทางเคว้งคว้าง ต้องปรับตัวให้ดำเนินชีวิตเป็นปกติอย่างเร็วที่สุด คอยปลอบลูกและทุ่มเทความรักความเอาใจใส่ทั้งกายและใจ แม้ไม่อาจชดเชย หรือทดแทนได้ทั้งหมด แต่ช่วยให้ลูกไม่มีหมกมุ่นอยู่กับอารมณ์เศร้าหมองอยู่นาน
ช่วงเวลาที่รู้สึกลำบาก ให้คิดว่าชีวิตเราสิ่งสำคัญที่สุดคือลูก เป็นจิตวิทยาขั้นสุดยอดทำให้มีกำลังใจต่อสู้ทุกปัญหาที่ถาโถมเข้ามา ดูแลลูกอย่างเต็มแรงเต็มรัก เพื่อให้รอดปลอดภัยทั้งแม่และลูก ก้าวแรกคุณแม่ต้องยอมรับความเป็นจริงและมองการเลี้ยงลูกคนเดียวเป็นปัญหาเล็ก อุปสรรคทุกอย่างก็เล็กตาม ทยอยแก้ปัญหาไปทีละจุดตามลำดับความสำคัญ ทุกอย่างจะผ่านพ้นไปได้ หรืออย่างน้อยก็ทุเลาลง ส่วนบางสิ่งที่ควบคุมมันไม่ได้ ก็ปล่อยให้เป็นไป ทำสิ่งที่เป็นไปได้ให้ดีที่สุด
การเปลี่ยนแปลงกะทันหันกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของตนเองและลูกน้อย อาจหาตัวช่วยภายในครอบครัว เช่น ปู่ย่าตายาย คอยช่วยเหลือเกื้อกูลเวลาแม่ออกไปทำงานนอกบ้าน ให้คำปรึกษาและระบายความทุกข์ ตลอดจนให้ความช่วยเหลือยามฉุกเฉิน
ต้องสอนลูกให้เข้มแข็ง ช่วยเหลือตัวเองและมีวินัยในชีวิตประจำวัน เช่น ทำการบ้าน ช่วยเหลืองานบ้าน หรือตามใจและซื้อสิ่งของที่ลูกอยากได้บ้างตามโอกาสอันควร อย่าชดเชยความรักของพ่อแม่ด้วยการให้เงิน หรือตามใจจนเสียคนเป็นอันขาด แม่ต้องดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข อย่างท้อแท้ หงุดหงิด โกรธเกรี้ยวต่อหน้าลูก อาจตอกย้ำให้ลูกเจ็บปวดและส่งผลให้การเรียนแย่ลง ปัญหานี้พบมากในครอบครัวเลี้ยงเดี่ยว แม่ควรเรียนรู้พฤติกรรมไม่พึงประสงค์เหล่านั้น ความไม่มั่นคงทางอารมณ์ ความเหนื่อย ความเหงา ทำให้ตั้งคำถามกับลูกบ่อยครั้งว่ารักแม่มากไหม แสดงความอ่อนแอเรียกร้องความรักจากลูกมากเกินไป ทั้งที่แม่ควรเป็นฝ่ายเข้มแข็งและทุ่มเทความรักให้ลูก
อีกพฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยง คือ การคาดหวังกับลูกมากเกินไป หรือวางกฎเกณฑ์ ตั้งกรอบระเบียบเข้มงวดจนตึงเกินไป ลูกรับไม่ไหว พยายามเลี่ยงหนี หรือทำตัวห่างเหิน แม่ต้องทำความเข้าใจธรรมชาติ หรือจิตใจของเด็กแต่ละวัยและแต่ละคน รู้เท่าทันและเลี้ยงลูกไปตามสมควร ควรสนับสนุนให้ลูกมีกิจกรรมและสังคมนอกบ้านกับเพื่อนวัยเดียวกัน เรียนดนตรี เล่นกีฬา เรียนเต้น เพื่อให้เด็กมีทักษะที่ดีติดตัวไปจนโต
เคล็ดลับของการเลี้ยงลูกเป็นเพื่อนสนิทคือเวลาแม่ออกไปทำงาน พบเจอใคร หรือสิ่งใดให้กลับมาเล่าให้ฟังไม่ว่าลูกจะยังเล็กแค่ไหนก็ตาม เพื่อให้เกิดความเคยชิน มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับลูกทั้งเรื่องดีและเรื่องไม่ถูกต้อง แม่จะได้เรียนรู้แนวคิดของลูก มีความเข้าใจเหตุผลของกันและกัน คอยแนะนำแก้ไขให้ถูกต้องได้ไม่ยาก
ทุกวันนี้สังคมเปลี่ยนแปลงรวดเร็วและน่าเป็นห่วง แม่มักหงุดหงิดกับลูกวัยรุ่นที่พูดกันไม่ค่อยรู้เรื่อง เด็กวัยรุ่นไวต่อความรู้สึกมาก หน้าที่ของแม่คือเรียนรู้เข้าใจจิตใจวัยรุ่นให้ดีพอ การติเตียนด้วยอารมณ์จนถึงขั้นตีลงโทษกลับยิ่งทำให้ปัญหาบานปลาย เกิดความรู้สึกต่อต้านผู้ใหญ่และท้าทายสิ่งที่แม่ห้ามอย่างปราศจากความคิดและการยับยั้ง
ในกรณีนี้แม่ควรลดบทบาทความเป็นแม่ลง อาจคุยตลกเล่นกับลูกบ้าง รู้จักเพื่อนของลูกให้มากขึ้น ยอมรับแนวคิดของวัยรุ่นและยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ใช้เหตุผลพูดคุย ให้ข้อคิด เล่าประสบการณ์ทั้งดีและไม่ดีหลายแง่มุม เปิดโอกาสให้เรียนรู้ลองผิดลองถูกด้วยตนเองในกรอบที่เหมาะสม ทำให้เข้ากับลูกได้ดีขึ้น เป็นที่พักพิงใจที่อุ่นใจปลอดภัยไปพร้อมกับดูแลให้มีพฤติกรรมเหมาะสม ไม่ออกนอกลู่นอกทางจนกู่ไม่กลับ หากพบปัญหาต้องเข้าไปช่วยแก้ไขอย่างรวดเร็วและจริงจัง
การบริหารการเงินเป็นอีกเรื่องที่สำคัญ แม่ทำงานหนัก แต่มีความสุขเพราะมีเป้าหมายว่าจะดูแลลูกให้ดีที่สุด ต้องวางรากฐานในเรื่องการเงินทั้งการจัดสรรค่าใช้จ่ายประจำเดือน เงินออมค่าเล่าเรียน เงินออมเปิดธุรกิจของตนเอง ตลอดจนแผนการออมและการลงทุนรูปแบบอื่น ๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องศึกษาอย่างรอบคอบ วางแผนอย่างรัดกุม และมีวินัยในการออมอย่างจริงจัง
การใช้จ่ายเงินจะต้องปรับเปลี่ยนไปจากเดิม เพราะมีรายจ่ายมากขึ้นทั้งภาระค่าใช้จ่ายในบ้านและค่าใช้จ่ายของลูก การทำบัญชีรายรับรายจ่ายและตั้งเป้าหมายการออมจะช่วยให้ปรับลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นได้ง่ายขึ้น ค่าเล่าเรียนเป็นค่าใช้จ่ายก้อนโตที่ต้องวางแผนการศึกษา แต่เนิ่น ๆ โดยคำนวณรวมกับการปรับขึ้นค่าเทอมในแต่ละปี ตลอดจนค่าอุปกรณ์การเรียนและกิจกรรมอื่น ๆ เพิ่มเติมด้วย
คุณแม่อาจหารายได้เสริมนอกเหนือจากงานประจำเพื่อเก็บออมเงินสำหรับทุนการศึกษา มีหลายอาชีพทำได้ระหว่างงานและหลังเลิกงาน เช่น ธุรกิจขายตรงที่ทำงานได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการขายเครื่องสำอาง ขายอาหารเสริมสุขภาพ หรือเป็นตัวแทนประกัน เคล็ดลับความสำเร็จอยู่ที่การติดตามเอาใจใส่ลูกค้า เรียนรู้และเข้าใจผลิตภัณฑ์ของตนเป็นอย่างดี จดจำรายละเอียดของลูกค้าและติดตามผลอย่างใกล้ชิด
อ่านเพิ่มเติม >> อาชีพเสริมสำหรับ คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว <<
อาชีพเสริมตามความถนัดเป็นรายได้จากความสามารถพิเศษ หรืองานประจำที่ทำอยู่ก็สร้างอาชีพอิสระได้ เช่น ติวเตอร์พิเศษ สอนภาษา สอนดนตรี นักแปล นักบัญชี โปรแกรมเมอร์ เนื่องจากเป็นความถนัดเฉพาะตัวที่ทำได้ดีอยู่แล้ว เพียงแค่ขยันมากขึ้น มองหาลูกค้าทางอินเทอร์เน็ต หรือออกไปพบปะผู้คนสร้างมิตรภาพต่อยอดไปได้อีก
นอกจากนี้ผู้หญิงยังมีงานอดิเรกที่ทำเป็นอาชีพสร้างรายได้หลายรูปแบบ เช่น งานถักโครเชต์ ผลิตเครื่องประดับ ขายเสื้อผ้า ทำอาหารและขนมขบเคี้ยว โดยรับผลิตสินค้าตามสั่งผ่านทางเฟซบุ๊ก มีลูกค้าเป็นเพื่อน คนรู้จัก และขยายตลาดในวงกว้าง ด้วยความรักและการเลี้ยงดูทุ่มเททั้งหมดเพื่อให้ลูกได้ดี ทำให้แม่สามารถยืนหยัดได้ด้วยตนเอง มีกินอยู่อย่างสบายใจ หากทุกอย่างมีเพียบพร้อมหมดแล้ว ไม่มีปัญหาให้ต้องคิดมาก ก็ยืดอกเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวได้อย่างไม่อายใคร