จากข่าวต่างประเทศที่มีการเปิดเผยกันว่า กรรมาธิการอาวุธสภาคองเกรสสหรัฐจัดประชุมเตรียมการเรื่องสงคราม ไต่สวนผู้เกี่ยวข้องในสงครามไซเบอร์,การวางกำลังเรือบรรทุกเครื่องบินทั่วโลกและสงครามนิวเคลียร์ ที่ประชุมเชื่อว่าสงครามอาจเกิดขึ้นภายในไม่กี่ปีโดยไม่ถึง 10 ปี ชี้สหรัฐมีปัญหาเศรษฐกิจลดลงหรือด้อยกว่ามหาอำนาจตรงข้าม
อ่านเพิ่มเติม >> ถ้าเกิด สงครามโลกครั้งที่ 3 เราจะรับมือยังไง ?! <<
แม้ว่าหลายๆคนที่อ่านข่าวนี้อาจคิดว่ามันไม่น่าจะมีการเกิดขึ้นจริงเพราะทั่วโลกต่างเรียกร้องสันติภาพ และคงไม่ยอมให้เกิดการรบแบบสงครามโลกทั้งสองครั้งที่ผ่านมาแน่นอน
แต่สิ่งที่คนในแวดวงเศรษฐกิจมองเรื่องนี้ในอีกแง่มุมหนึ่งคือ อาจเป็นสงครามที่ไม่มีการบแต่เป็นสงครามการเงิน สงครามไซเบอร์ ซึ่งน่าจะมีแนวโน้มมากกว่า และหากมองกันจริงตามสภาพเศรษฐกิจทั่วโลกที่ต่างได้รับผลกระทบกันเป็นลูกโซ่จากกรณีต่างๆที่มีผลในทางเศรษฐกิจ และยิ่งตอนนี้สหรัฐอเมริกาเป็นหนี้ประเทศจีนที่มีข้อมูลระบุไว้ว่าสูงถึง 17,490,000,000,000,000,000 $ และยังมีหนี้สินที่ติดค้างเจ้าหนี้รายใหญ่อย่างญี่ปุ่นอีกจำนวนมาก จึงทำให้คนที่ติดตามเรื่องเศรษฐกิจวิเคราะห์กันว่าหากเกิด สงครามโลกครั้งที่ 3 จริงน่าจะเป็นการล้มกระดานล้างหนี้ของสหรัฐมากกว่าที่จะต้องการความเป็นที่ 1 หรือต้องการเป็นมหาอำนาจอย่างแท้จริง
ซึ่งหากข่าวที่ออกมานี้หากมีมูลหรือมีแนวโน้มว่าจะเกิดขึ้นจริงๆ ประเทศเล็กๆอย่างเราคงโดนผลกระทบไปด้วยไม่น้อยโดยเฉพาะเรื่องการเงินในประเทศ ซึ่งตอนนี้แม้ว่าเศรษฐกิจบ้านเราจะดูนิ่งๆ แต่หากมองให้ลึกลงไปเศรษฐกิจไม่ได้ดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย เพราะมีหลายๆกรณีที่บ่งชี้ว่าในปีหน้าการค้าระหว่างประเทศของเรานั้นจะมีปัญหาเพิ่มขึ้นมาอีก ทำให้หลายคนเริ่มมองถึงอนาคตการเงินในประเทศว่าไม่มีความเสถียร แต่หลายๆคนก็ยังคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเพราะ การค้าขายก็ยังทำได้ การส่งออกก็ยังส่งออกได้ มนุษย์เงินเดือนก็ยังมีรายได้กันทุกเดือน มนุษย์รายวันแม้กิจการจะปิดตัวไปหลายแห่งแต่ก็เป็นส่วนน้อย การค้าขายในประเทศมีกิจการใหม่ๆเกิดขึ้นมากมาย ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ แต่มีใครจะรู้บ้างว่าที่อยู่รอดกันได้จริงๆมีกี่ราย ประสบความสำเร็จจริงๆกี่ราย
ทั้งเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยตอนนี้คนที่ติดตามข่าวเศรษฐกิจจะพอมองออกกันว่ามันแฝงอะไรบ้างอย่างที่มีสัญญาณเตือนบางอย่างส่งสัญญาณออกมาเป็นระยะๆ เช่น หุ้นตกในระยะเวลาไล่เลี่ยกันในตลาดหุ้นทั่วโลก , การเกิดการระเบิดที่จีนและญี่ปุ่นเป็นต้น นอกจากนี้ในประเทศเราเองก็มีปัญหาต่างๆมากมาย มีการระดมทุนออกพันธบัตรต่างๆจากรัฐบาลเพื่อนำเงินมาพัฒนาประเทศ โครงการเงินออมต่างๆที่หวังให้ประชาชนได้ออมและรัฐนำเงินออมมาทำให้เกิดผลประโยชน์กับประเทศชาติ การกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคส่วนต่างๆทั้ง เกษตรกร , อสังหาฯ, การส่งออก , อุตสาหกรรมต่างๆ ที่อาจทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น
แต่อย่างไรก็ตามในเรื่องของข่าวที่นำเสนอมานี้นั้น จะจริงเท็จแค่ไหนหรือมีแนวโน้มความเป็นไปได้มากแค่ไหนสิ่งที่เราควรเตรียมพร้อมคือ การเตรียมตัวเช่น การเก็บเงินออมเงินไว้สำหรับภาวะฉุกเฉินเพราะแนวโน้มของค่าเงินที่ค่าครองชีพจะสูงขึ้นมีแน่นอนแม้ว่าจะไม่เกิดสงครามก็ตาม การหาอาชีพสำรองเป็นสิ่งที่ควรทำเพราะแม้ว่าตอนนี้จะยังมีรายได้หลัก แต่ความผันผวนของเศรษฐกิจการเมืองเป็นเรื่องที่กำหนดไม่ได้การหาแหล่งเงินสำรองเป็นทางออกที่ดีที่ควรเตรียมไว้ล่วงหน้า การมีสติในการเสพข้อมูลข่าวสารต่างๆและการวิเคราะห์ปัจจัยเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญ เพราะปัจจุบันช่องทางการเข้าถึงข่าวสารต่างๆมีมากขึ้น การวิเคราะห์เหตุปัจจัยต่างๆก่อนที่จะเชื่อถือเรื่องนั้นเป็นเรื่องสำคัญ แม้แต่การอ่านบทความนี้ก็ตามสิ่งที่นำเสนอเป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้น การวิเคราะห์จากสภาพความจริงในปัจจุบัน และแนวทางการรับมือการหาทางออกต่างๆ เพื่อให้เป็นประโยชน์กับผู้อ่านและนำสิ่งทีได้ที่เป็นประโยชน์ไปปรับใช้และรับมือกับสิ่งที่อาจจะคาดเดาไม่ได้ในอนาคต
ที่มา : http://thaitribune.org/contents/detail/310?content_id=15542&rand=1447042006