จะอยู่อย่างไรกับ ค่าครองชีพที่แพงขึ้น ทุกวัน

หากติดตามบทความกันมาจะรู้เลยว่ามีเรื่องของราคาสินค้า ค่าครองชีพที่แสนแพงมาบอกเล่ากันเสมอๆ ซึ่งมานั่งคิดๆดูในอนาคตลูกหลายเราจะอยู่อย่างไร หรือตัวเราเองจะอยู่กับอย่างไรกับ ค่าครองชีพที่แพงขึ้น ทุกวัน แนวโน้มค่าใช้จ่ายที่ปัจจุบันบอกตรงๆว่าวันละ 300 สำหรับบางคนยังไม่พอเลย ไม่ต้องคิดว่าฟุ่มเฟือยเลยนะ เอาง่ายๆหากมีลูกสัก 1 คนคิดค่าใช้จ่ายกันได้เลยว่าตกวันละเท่าไหร่ ค่าอาหาร ค่าของใช้ ค่าขนม เบี้ยเลี้ยงไปโรงเรียน สมัยนี้เด็กๆที่ต้องเดินทางไป รร.ที่อยู่ไกลบ้านวันละ 100 นี่ก็ประหยัดสุดๆแล้ว เพราะบางคนต้องเสียค่ารถหลายต่อ เงินหมดไปกับค่าเดินทาง บางคนอยู่ใกล้บ้านก็ยังวันล่ะ 100 เพราะต้องจ่ายค่าอุปกรณ์การทำงานส่งครู ค่าขนม ค่าอาหาร อย่าคิดว่าทานอาหารใน รร.จะถูกนะเพราะราคา 20-25 บาทสำหรับ รร.รัฐบาลปริมาณก็ตามราคาบางคนก็ไม่อิ่ม ส่วน รร.เอกชนราคาอาหารก็แพงขึ้นกว่านี้

มองกันที่ตามความเป็นจริงทุกวันนี้เราอยู่ในสังคมที่ค่าใช้จ่ายสูงกว่าค่าแรง อะไรๆก็แพงไปหมดทุกอย่างเป็นเงินเป็นทอง ทำงานแทบตายเงินเดือนออกมาใช้แทบไม่พอ ไม่ต้องคิดเรื่องรวยจนและประหยัดหรือมีหนี้สินเลย เอาแค่การใช้จ่ายแต่ละวันเราจ่ายมากขึ้นโดยที่ไม่รู้ตัวกันทั้งนั้นเพราะคำว่าความเคยชิน

อ่านเพิ่มเติม >> ทำไมเดี๋ยวนี้อะไรๆก็แพง ? <<

เมื่อสภาพเศรษฐกิจเป็นแบบนี้หลายคนเตรียมตัวเตรียมพร้อมด้วยการวางแผนครอบครัว วางแผนการหาเงินการใช้เงิน การอดออมการหาแหล่งเงินสำรอง ซึ่งทุกคนไม่ได้ทำแบบนี้บางคนทำได้ บางคนทำไม่ได้ บางคนยังไม่รู้สึกว่าอนาคตข้างหน้านั้นค่าครองชีพจะพุ่งสูงกว่านี้อีก

สิ่งที่ควรทำได้ในตอนนี้คือพยายามออมเงินไว้เพื่อใช้ในอนาคต ลดภาระที่ไม่จำเป็นลงบ้าง ของใช้ต่างๆซื้อเท่าที่จำเป็นอะไรมีแล้วอย่าซื้อซ้ำ อะไรไม่พังก็อย่าซื้อใหม่ตามกระแส ลดละสิ่งฟุ่มเฟือยเพื่ออนาคต

นี่คือสิ่งที่เราเตือนกันเสมอๆแต่ก็ยังมีหลายคนไม่เชื่อและไม่พยายามมองความจริงว่าในปีหน้าสภาพเศรษฐกิจจะนิ่งสนิทยิ่งกว่าตอนนี้ เพราะหลายๆคนมองว่าตลาดหุ้นยังวิ่งดี หุ้นไม่ร่วงเท่าไหร่ นักท่องเที่ยวยังมากันเยอะ ห้างต่างๆก็ยังขายของกันได้ คนเห่อบัตรเครดิตเห่อของแบรนด์เนม มันก็ยังเป็นอยู่เหมือนเดิม นั่นคือภาพรวมมุมกว้างของสังคมคนมีฐานะ แต่หากลองมองอีกมุมหนึ่งมองสังคมคนหาเช้ากินค่ำ กลุ่มคนรายได้น้อย กลุ่มมนุษย์เงินเดือนธรรมดาๆ แล้วจะเห็นเลยว่าหลายๆคนดิ้นรนเพื่อหมุนเงินให้ชนเดือน หลายคนต้องหาอาชีพเสริม หาแหล่งเงินกู้ยามฉุกเฉิน ราคาสินค้าตามตลาดสดแพงขึ้น คนซื้อของเท่าที่จำเป็นเอาแค่ที่ต้องกินต้องใช้ นี่คือสภาพความเป็นจริงของสังคมไทยที่รวยกระจุกจนกระจาย

ทางออกทางแก้งานนี้คงต้องตัวใครตัวมัน บอกตรงๆเลยว่าปัญหานี้อยู่ที่ตัวแต่ละคนว่าคิดถึงอนาคตมากแค่ไหน วางแผนการเงินไว้อย่างไร วางแผนครอบครัวไว้อย่างไร มีวินัยการออมเงินมากแค่ไหน สิ่งนี้ใครทำใครได้บอกตรงๆ อนาคตใครก็คนนั้นต้องวางแผนกันเอง เราแค่แนะนำได้ว่าตอนนี้เศรษฐกิจเป็นอย่างไร เหตุการณ์ตามสภาพสังคมเป็นแบบไหน ควรทำอย่างไร แนวโน้มแบบไหน บางคนอ่านแล้วคิดตามหรือประสบพบเจอเหมือนที่นำมาบอกกล่าวก็คิดตามและเริ่มลงมือวางแผนสำหรับอนาคตตัวเอง บางคนอ่านผ่านๆไม่แคร์เพราะถือว่าฉันยังมีเงินเดือน ฉันยังมีบัตรให้รูด ฉันยังไม่เงินจ่าย ฉันไม่แคร์ บอกเลยว่าอนาคตไม่แน่ไม่นอนปัจจัยภายนอก ปัจจัยภายใน  ที่เป็นตัวกระตุ้นทิศทางเศรษฐกิจบอกเลยว่าหากไม่รู้จักระวังและเตรียมพร้อม หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันการไม่มีเงินสดในมือและไม่มีเก็บออมอาจทำให้คุณลำบากได้

อ่านแล้วลองทำดูสิ >> ใช้เงินวันละ 100 บาท ทำได้จริงเหรอ ?! <<