เมื่อราคาทองคำเดี๋ยวขึ้น เดี๋ยวลง จะทุ่มเงินลงไปซื้อตอนทองราคาตกก็มีเงินไม่พอ อยากจะเอาทองออกมาขายตอนราคาขึ้นก็มีทองไม่ถึงบาท ขายได้ไม่เท่าไร อย่าเพิ่งตัดพ้อกันไป ตอนนี้ตลาดการลงทุนของบ้านเราก็มีทางเลือกให้มากมายอยู่ ถ้าเราคิดจะลงทุนในทองคำ ไม่ว่าจะเป็นกองทุนรวมทองคำ หรือจะหันมาลงทุนในตลาดอนุพันธ์กันบ้าง ที่เรียกกันว่า Gold Future
Gold Future เป็นสัญญาอนุพันธ์ หรือ Derivative ประเภทหนึ่งที่มีการซื้อขายในตลาด TFEX ของบ้านเรา ซึ่งความหมายของ Gold Future จริงๆ แล้วก็คือ สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า ที่เราสามารถทำกำไรได้ทั้งในภาวะที่ราคาทองคำขาขึ้น และราคาทองคำขาลง ด้วยการซื้อขาย Gold Future ไม่มีการส่งมอบทองคำจริงระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย แต่จะเป็นการจ่ายเงินตามส่วนต่างของกำไรขาดทุนที่เกิดขึ้น หรือเรียกว่า การชำระราคาเป็นเงินสด คล้ายๆ กับหุ้น แต่หุ้นเราจะได้รับหุ้นจริงเมื่อซื้อ และจะต้องเอาหุ้นออกจากพอร์ตของเราเมื่อมีการขาย
อ่านเพิ่มเติม >> เค้าซื้อขายอะไรที่ ตลาด TFEX <<
กำไรขาดทุนจากการ ลงทุน Gold Future
ก็คือ ส่วนต่างระหว่างราคาขายและราคาที่ซื้อไว้ เช่น ถ้าเราคาดว่าทองคำจะปรับตัวเพิ่มขึ้น เราก็ซื้อ Gold Future ไว้ก่อน และเมื่อราคาทองคำปรับตัวขึ้นจริงเราก็ขาย Gold Future นั้นในภายหลังได้ หรือถ้าหากเราคาดการณ์ว่าราคาทองจะปรับตัวลดลง เราก็สั่งขาย Gold Future ได้เลย ถึงแม้ว่าเราไม่เคยซื้อ Gold Future มาก่อน เพราะฉะนั้นถ้าราคาทองปรับตัวลดลงจริง เราก็ค่อยซื้อ Gold Future ในภายหลังก็ได้ ซึ่งก็จะทำให้เราได้กำไรตามส่วนต่างของราคาในขาลง จึงทำให้เราสามารถ “ซื้อก่อนขาย” หรือ “ขายก่อนซื้อ” ก็ได้ สำหรับ Gold Future
การซื้อขาย Gold Future
ใช้เงินลงทุนเบื้องต้นไม่สูงเหมือนกับการซื้อทองคำจริงๆ เพราะเป็นการซื้อขายสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า เราจึงใช้เงินเพียงแค่ 1 ใน 10 ของมูลค่าสัญญาทั้งจำนวน โดยจ่ายให้กับโบรกเกอร์อนุพันธ์ก่อนส่งคำสั่งซื้อขาย สำหรับเป็นเงินมัดจำที่เรียกว่า เงินหลักประกันขั้นต้น (Initial Margin) ยกตัวอย่างเช่น เราคาดว่าทองคำจะมีราคาสูงขึ้นประมาณ 5% จากวันนี้ เราก็เลยไปซื้อทองไว้ 10 บาท ด้วยราคา 18,000 บาทต่อทองคำ 1 บาท นั่นก็หมายความเราจะต้องใช้เงินทั้งหมด 180,000 บาท เพื่อให้ได้ทองคำ 10 บาท แต่ถ้าเราลงทุนซื้อ Gold Future เราจะใช้เงินลงทุนเพื่อวางเป็นหลักประกันขั้นต้นประมาณ 10,000-20,000 บาท เท่านั้นเอง และถ้าหากราคาทองคำปรับขึ้นจริง เราก็จะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนในอัตราที่สูงกว่าการซื้อทองคำ
แล้วถ้ากลับกัน หากเราคาดว่าทองคำกำลังจะมีราคาลดลง ถ้าเรามีทองคำอยู่ในมือเราก็จะทยอยขายออกเพื่อทำกำไรก่อนที่ทองคำจะมีราคาลดลง แต่ถ้าเราไม่มีทองคำในมือเลยล่ะ Gold Future ก็คือคำตอบอีกเช่นกัน
เราก็เพียงแต่ซื้อ Gold Future ด้วยเงินลงทุนที่เรามีไม่มาก ก็สามารถทำให้เราได้กำไรได้เหมือนกัน ทั้งนี้เพื่อเป็นช่วยให้เราสามารถปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนใน Gold Future ของเรา ทางโบรกเกอร์จะปรับยอดเงินในบัญชีหลักประกันของเราทุกสิ้นวันก่อนที่จะครบกำหนดตามสัญญ เพื่อให้ได้รู้คร่าวๆ ว่าในแต่ละวันที่ผ่านมาเรามีกำไรหรือขาดทุนใน Gold Future ไปเท่าไร และถ้าหากมีผลขาดทุนจนทำให้เงินมัดจำของเราลดลงต่ำกว่าระดับหลักประกัน เราก็จะต้องนำเงินมาวางเพิ่มให้เต็มเงินหลักประกันขั้นต่ำ หรือถ้าหากมีการขาดทุนมากๆ เราก็อาจจะต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในการซื้อขาย Gold Future ก่อนที่จะขาดทุนมากเกินไป
ทีนี้สิ่งที่เราต้องระวังในการ ลงทุน Gold Future ก็คือ การเปลี่ยนแปลงราคาทองคำมักจะสวนทางกับอัตราแลกเปลี่ยน เราจึงต้องติดตามการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินด้วย อีกทั้งการ ลงทุน Gold Future ใช้เงินเพียงแค่ 1 ใน 10 ของมูลค่าสัญญา เมื่อเวลาได้กำไรก็จะเป็นอัตราส่วนที่สูงเมื่อเทียบกับเงินลงทุน ในทางกลับกันถ้าขาดทุน ก็จะขาดทุนในอัตราส่วนที่สูงเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นเราจะต้องสำรวจตัวเองว่าระดับความเสี่ยงในการลงทุนที่ยอมรับได้มีในระดับเท่าไร และก่อนตัดสินใจลงทุนก็ควรจะต้องศึกษาสิ่งที่เราจะลงทุนให้เข้าใจอย่างเสียก่อนที่จะเริ่มลงทุน
อ่านเพิ่มเติม >> เพิ่มช่องทางรวยด้วย การลงทุนทองคำ <<