รถยนต์ มองไปทางไหนบนถนนก็มีแต่รถยนต์ แถมรถก็ติดกันอย่างมากมายเสียด้วย … แสดงว่ามีคนซื้อรถกันมากขึ้น และสิ่งหนึ่งที่สำคัญสำหรับการซื้อรถยนต์สัก 1 คัน ก็คือ การทำ ประกันภัยรถยนต์ แต่เรารู้กันหรือไม่ว่าประกันภัยรถยนต์มีกี่แบบ แล้วแต่ละแบบคุ้มครองอะไรบ้าง ต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันเท่าไร เราไปทำความรู้จักประกันภัยรถยนต์ดีกว่า
ส่วนใหญ่เราจะรู้จักแต่ ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 และประกันภัยรถยนต์ 3 พลัส ตามที่ได้ยินหรือได้เห็นทางโฆษณาแต่รู้หรือเปล่าว่าประกันภัยรถยนต์มีถึง 6 แบบ ให้เราเลือก คือ ประกันภัยรถยนต์มีตั้งแต่ชั้น 1 ถึง ชั้น 4 กันเลย แต่ว่าความคุ้มครองและค่าเบี้ยประกันก็จะแตกต่างกันไป เรามาดูกันดีกว่าแต่ละแบบคุ้มครองอะไรบ้าง
เมื่อเราเห็นความคุ้มครองของ ประกันภัยรถยนต์ แต่ละแบบกันแล้ว เราก็มาดูเงื่อนไขและค่าเบี้ยประกันภัยกันบ้าง เรามาดูกันที่ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 กันก่อนเลย เพราะประกันภัยแบบนี้จะถูกบังคับให้ทำเสมอเมื่อเราซื้อรถที่โดยการผ่อน เนื่องจากผู้ให้สินเชื่อต้องการความมั่นใจในอย่างสูงสุดว่าตลอดระยะเวลาการผ่อนรถยนต์ของเรานั้น รถยนต์คันที่ให้สินเชื่อไปจะอยู่รอดปลอดภัย ซึ่งค่าเบี้ยประกันประเภทนี้จะแพงที่สุดมีตั้งแต่ 9,000 ไปจนถึงหลักหมื่นบาทกันเลย ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับประเภทของรถยนต์ อายุรถยนต์ด้วย แต่ก็มีเคล็ดลับในการซื้อ ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 ให้ได้เบี้ยประกันภัยที่ถูกที่สุด ไปดูกันดีกว่า
ถ้าเราเป็นคนขับรถยนต์แบบเรียบร้อยไม่หวือหวา ขับตามกฎจราจร เราก็จะได้ส่วนลดจากการขับรถที่มีประวัติดี ตั้งแต่ 20%-50% กันเลยทีเดียว แต่ว่าส่วนลดนี้จะลดจากค่าเบี้ยประกันภัยตั้งต้นในปีแรก เช่น ค่าเบี้ยประกันเราปีที่ 1 เท่ากับ 20,000 บาท และถ้าเราขับรถดีมาตลอด 5 ปี ค่าเบี้ยของปีที่ 2-5 ก็จะใช้ค่าเบี้ยประกันที 20,000 บาทมาคำนวณส่วนลด เพราะฉะนั้นปีที่ 2 เราจะเสียค่าเบี้ยเพียง 16,000 บาท เท่านั้น สำหรับการประหยัดค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ในส่วนที่สอง ก็คือ การระบุชื่อผู้ขับขี่ ถ้าเรามั่นใจว่ายังไงเสียเราก็เป็นคนขับรถเพียงคนเดียวอยู่แล้วก็ระบุชื่อไปเลยดีกว่า ซึ่งเราสามารถระบุชื่อผู้ขับขี่ได้ไม่เกิน 2 คน ต่อกรมธรรม์ และจะให้ส่วนลดตามช่วงอายุของผู้ขับขี่ ถ้ามีผู้ขับขี่มี 2 คน จะให้ส่วนลดตามช่วงของผู้ขับขี่ที่อายุน้อยที่สุด
และถ้าในครอบครัวของเรามีรถยนต์ตั้งแต่ 3 คันขึ้นไป โดยทุกคันจดทะเบียนผู้ครอบครองรถยนต์เป็นชื่อเดียวกันหมด เราก็สามารถเลือกซื้อประกันภัยรถยนต์แบบประกันกลุ่มก็จะได้ส่วนลดเพิ่มขึ้นอีก 10% สุดท้ายสำหรับการเพิ่มส่วนลดให้กับการซื้อ ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 ก็คือ การยอมซื้อความเสี่ยงร่วมกับบริษัทประกันหรือที่เรียกทางประกันภัยว่าการซื้อความเสียหายส่วนแรก (Deductible) อธิบายง่ายๆ ก็คือ เรายอมซื้อความเสียหายส่วนแรกเพิ่ม ค่าเบี้ยประกันเราก็จะลดลงได้ 4,000-5,000 บาท ซึ่งหากเกิดอุบัติเหตุที่เราเป็นฝ่ายผิดเราจะต้องจ่ายเงินส่วนแรกเอง คือ 2,000 บาท/ครั้ง และที่เหลือบริษัทประกันก็จ่ายให้เราตามกรมธรรม์ เพราะฉะนั้นถ้าเรามั่นใจว่าขับรถแบบเรียบร้อย ขับรถดี การซื้อประกันภัยชั้น 1 ก็อาจจะไม่แพงอย่างที่คิดก็ได้
สำหรับ ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 2 พลัส และ 3 พลัส นั้น ค่าเบี้ยจะไม่แตกต่างกันมากนัก ส่วนใหญ่ก็จะประมาณ 6,000-8,000 บาท ความคุ้มครองก็จะใกล้เคียงกับ ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 แต่ที่จะลดลงก็คือ ทุนประกันภัย และการชนที่เกิดขึ้นจะต้องเป็นการชนกับรถยนต์ด้วยกันเท่านั้น ไม่สามารถเคลมประกันได้หากเราเอารถไปชนเสา ต้นไม้ หรือชนแบบไม่มีคู่กรณี ซึ่งการประกันภัยแบบนี้จะเหมาะสำหรับรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานเกิน 7 ปี ไปแล้ว เพราะบริษัทประกันมักจะรับให้ทำประกันภัยชั้น 1 กันสักเท่าไร
ถ้ายังไงก็ลองเข้าไปคำนวณตามหน้าเว็บไซต์ของนายหน้ารับประกันภัยต่างๆ ก็ได้ ทำให้เราสามารถเปรียบเทียบค่าเบี้ยประกันรถยนต์ก่อนตัดสินใจซื้อได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น