อยากเล่นหุ้น เพราะเห็นว่าเพื่อนได้เงินเยอะจากการเล่นหุ้น แต่ก็อย่าลืมว่าได้เยอะเขามาคุยให้ฟัง ในทางกลับกันตอนที่เขาเสียเขาได้ประกาศหรือเล่าให้ฟังหรือเปล่า เชื่อได้ว่าส่วนใหญ่ไม่มีใครมาบอกเราแน่นอน เพราะฉะนั้นก่อนที่ตัดสินใจเป็นผู้เล่นในตลาดหุ้นนั้น เราต้องเรียนรู้วิธีการเอาตัวรอดในตลาดหุ้นด้วย ซึ่งวิธีการเอาตัวรอดในตลาดหุ้นหรือ เล่นหุ้นแบบไหน ให้รวยปังๆเลยนั้นไม่ได้มีทฤษฎีที่ตายตัวแน่นอน หรือมีเป็นแพทเทิร์น ว่าราคานี้ซื้อ ราคานี้ขาย สิ่งที่นักลงทุนหลายคนประสบความสำเร็จในตลาดหุ้น คือ การเรียนรู้ เข้าใจ และเข้าถึงหุ้นที่ถืออยู่แต่ละอย่างถ่องแท้
วิธีที่ทำให้เราได้เข้าใจและเข้าถึงหุ้นแต่ละตัว คือ การศึกษาข้อมูลพื้นฐานของบริษัทที่ออกหุ้น โดยเราสามารถดูได้จากงบการเงิน รายงานผลประกอบการต่างๆ ประวัติของผู้บริหารแต่ละท่าน ศึกษานโยบาย เป้าหมายและแผนงานของบริษัทในแต่ละปีให้เข้าใจ เพราะอย่าลืมว่าการซื้อหุ้นบริษัทใดบริษัทหนึ่งแล้วนั้น เราก็เหมือนกับเป็นเจ้าของบริษัทด้วยเหมือนกัน เพราะฉะนั้นเราจึงจะต้องใส่ใจกันหน่อยว่าผู้บริหารมีการบริหารงานดีมากน้อยแค่ไหน สามารถทำได้ตามเป้าหมายหรือเปล่า เพราะนั้นหมายถึงผลตอบแทนที่เราจะได้รับทั้งในแง่ของราคาหุ้นและเงินปันผลที่จะได้รับในแต่ละปี
จากนั้นก็ต้องเรียนรู้ที่จะอ่านข้อมูลตัวเลขต่างๆ ในอดีตในรูปแบบของกราฟต่างๆ เพื่อทำให้เราเข้าใจพฤติกรรมการลงทุนในหุ้นแต่ละตัว ไม่ว่าจะเป็น กราฟแท่ง กราฟเส้น กราฟแท่งเทียน หรือจะเป็นข้อมูลที่เป็นตัวชี้วัดต่างๆ ที่เกี่ยวกับหุ้น เราจะต้องศึกษาถึงการอ่านค่ากราฟต่างๆ ได้แก่ การหาแนวโน้มราคาของหุ้นว่าอยู่ในช่วงขาขึ้นหรือขาลง การหาแนวรับ แนวต้าน การกำหนดจุดที่จะหยุดการลงทุนหรือจุด STOP LOSS
เมื่อเรียนรู้ข้อมูลของหุ้นแต่ละตัวแล้วเราก็ต้องมาเรียนรู้ตัวเราเองด้วยว่า การลงทุนของเราในแต่ละครั้งเราต้องการอะไร เราต้องการเป็นนักลงทุนหรือนักเก็งกำไร เราสามารถรับความเสี่ยงหรือผลขาดทุนจากการลงทุนได้มากน้อยแค่ไหน เราชอบธุรกิจอะไรบ้างเพื่อจะบอกได้เราจะเลือกลงทุนในหุ้นตัวไหน เพราะเมื่อเราชอบธุรกิจแบบไหนแล้ว จะทำให้เราศึกษาและหาข้อมูลของธุรกิจนั้นได้เป็นอย่างดี
นอกจากนั้นแล้วเราจะต้องดูสภาพแวดล้อมรอบข้างด้วย ไม่ว่าจะเป็นนโยบายต่างๆ ของรัฐบาลที่บางครั้งก็ผลต่อราคาหุ้นที่เราถืออยู่ เช่น นโยบายให้มีการสร้างรถไฟฟ้าสายต่างๆ ซึ่งนโยบายแบบนี้ก็จะเป็นผลดีต่อหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจก่อสร้าง หรือจะเป็นการประมูลเพื่อให้ได้สัมปทานจากภาครัฐ เช่น การประมูลคลื่นความถี่สำหรับโทรศัพท์มือถือ ซึ่งการประมูลได้หรือไม่ได้ก็มีผลต่อราคาหุ้นในกลุ่มสื่อสารที่เข้าร่วมประมูลได้เช่นกัน หรือจะเป็นการรับรู้ข่าวสารเศรษฐกิจจากต่างประเทศ เพราะทุกวันนี้นักลงทุนต่างประเทศก็เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นบ้านเราอยู่ไม่น้อย ด้วยจำนวนเงินที่ไม่น้อยเลยทีเดียวดังนั้นการเข้าหรือออกจากตลาดหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศก็มีผลกระทบอยู่ไม่น้อยกับราคาหุ้นเหมือนกัน
เมื่อเราก้าวเข้ามาเล่นหุ้นแล้วสิ่งที่ต้องบอกตัวเองอยู่เสมอ คือ อย่าโลภ ต้องมีวินัยในการลงทุน และต้องทำตามนโยบายการลงทุนของตัวเองที่ตั้งไว้ ซึ่งก็คือ เมื่อถึงจุดที่ได้กำไรตามเป้าหมายหรือตามแผนที่วางไว้แล้วก็ต้องขายหุ้นออกไป อย่าโลภ อย่าเสียดายว่ารออีกหน่อย รออีกนิดราคาขึ้นอีกแน่นอน แต่สุดท้ายมีเหตุให้ราคาหุ้นตก แทนที่จะได้กำไรอาจจะขาดทุนแทนก็เป็นได้ และในทางกลับกัน เมื่อราคาของหุ้นลดลงจนถึงขีดที่เรากำหนดขายขาดทุนก็คือต้องขาย อย่าหวังว่ามันจะต้องกลับมาขึ้นอีก เพราะหลายคนที่รอแบบนี้ในที่สุดแทนที่จะขาดทุนเพียงเล็กน้อย ก็กลายเป็นมากมายมหาศาลได้
ดังนั้นสิ่งที่จะทำให้เราเป็นผู้อยู่รอดในตลาดหุ้นให้ได้ ก็คือ ต้องรู้จริงในหุ้นที่ลงทุน อ่านกราฟและตัวเลขต่างๆ ให้เป็น ติดตามข่าวสารให้รอบด้าน มีวินัยในการลงทุน ไม่โลภ และที่สำคัญอย่าซื้อหุ้นตามคนอื่น เท่านี้เราก็จะเป็นผู้อยู่รอดในตลาดหุ้นได้แน่นอน
เพิ่มเติม : รวมสินเชื่อส่วนบุคคล ทางเลือกที่ดีกว่า