การลงทุนด้วยหุ้น เป็นสิ่งหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในสมัยนี้ เพราะว่าการลงทุนด้วยหุ้นนั้น สามารถทำให้เราเป็นบุคคลที่มีอิสรภาพทางการเงินได้อย่างง่ายดาย จึงทำให้การลงทุนด้วยหุ้นนั้นได้รับความนิยมอย่างมาก แต่ด้วยความหลากหลายของหุ้น ก็อาจจะทำให้นักลงทุนหน้าใหม่รวมไปถึงนักลงทุนบางคน รู้สึกกังวลไม่น้อยว่าจะเลือก ซื้อหุ้น ควรดูอะไรบ้าง หรือลงทุนตัวไหนดี และเราก็มีคำแนะนำสำหรับเหล่าคนที่ต้องการลงทุนดังนี้
-
ดูผลประกอบการของบริษัทนั้น
การที่เราจะเลือกลงทุนกับธุรกิจอะไรสักอย่างหนึ่ง แน่นอนว่าเรามักจะเลือกลงทุนกับบริษัทที่มีความเจริญก้าวหน้า สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะได้มีเงินปันผลให้เราได้ใช้ ฉะนั้นแล้วการที่เราดูผลประกอบการของบริษัทนั้นว่ามีการเติบโตอย่างสม่ำเสมอหรือเปล่า มีกำไรอย่างต่อเนื่องหรือเปล่า ก็สามารถสร้างความมั่นใจให้กับเราได้อย่างดีก่อนที่เราจะลงทุนนะ
-
ดูอัตราส่วนทางการเงินประกอบกัน
การที่เราจะลงทุนอะไรก็ตาม ถึงแม้ว่าบริษัทนั้นจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีกำไรอย่างต่อเนื่อง และสามารถให้ผลตอบแทนที่สูงกับเรา แต่ก็ไม่ใช่เหตุผลที่เราจะเลือกซื้อเลยทันทีนะ เราควรที่จะดูอัตราส่วนทางการเงินประกอบไปด้วย โดยเรามีเทคนิคในการดูดังนี้
– P/E (Price to Equity) ต่ำ ค่า P/E คือ ราคาหุ้นหารด้วยราคากำไรสุทธิต่อหุ้น ซึ่งจะเป็นค่าที่บอกความถูกหรือแพงของหุ้นนั่นเอง หุ้นที่ PE สูงกว่าหมายความว่า เป็นหุ้นที่แพงกว่า อย่างไรก็ตาม ระดับค่าของ P/E ที่ว่าต่ำหรือสูงนั้น จะแตกต่างกันไปในแต่ละอุตสาหกรรม ดังนั้น P/E จึงเหมาะกับการเปรียบเทียบหุ้นที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน
– P/BV (Price to Book Value) ต่ำ P/BV คือ ราคาหุ้นหารด้วยมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้น หุ้นที่มี P/BV น้อยกว่า 1 หมายความว่า ราคาหุ้นในขณะนั้นมีราคาต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีของบริษัท ดังนั้น P/BV ยิ่งต่ำ แปลว่า ราคาหุ้นยิ่งถูก
– ROE (Return on Equity) สูง ROE ใช้ดูความแข็งแกร่งของบริษัท คำนวณจากกำไรสุทธิหารด้วยจำนวนหุ้นเป็นตัวเลขที่บอกถึงความสามารถในการทำกำไรของเงินลงทุนของผู้ถือหุ้น เราอาจดูค่า ROE ย้อนหลังไปสัก 5-10 ปีเพื่อดูอัตราการเจริญเติบโตของบริษัทว่าโตอย่างสม่ำเสมอหรือไม่
– DE (Debt to Equity) ต่ำ ค่า DE คือ อัตราส่วนของหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น ซึ่งแสดงถึงโครงสร้างเงินทุนของกิจการ ว่าเป็นเงินกู้ยืมต่อเงินลงทุนในสัดส่วนเท่าใด การกู้ยืมย่อมทำให้บริษัทมีภาระในการชำระดอกเบี้ย ดังนั้น ค่า DE ที่ต่ำกว่า หมายถึง ภาระดอกเบี้ยที่น้อยกว่า
– Dividend Yield หรือเงินปันผล หากใครชอบเงินปันผล ให้เลือกหุ้นที่มี Dividend Yield สูง ๆ
-
ดูความสามารถในการแข่งขันของแต่ละบริษัท
กำไรของบริษัทที่ได้มานั้น ก็ล้วนมาจากผลิตภัณฑ์ที่บริษัทนั้นขายอยู่ ถ้าหากว่าสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ของบริษัทไม่สามารถขายออกได้ แน่นอนว่าก็จะไม่สามารถสร้างกำไรได้เช่นกัน ซึ่งการคำนึงถึงความสามารถในการแข่งขันของแต่ละบริษัทก่อนลงทุน เราไม่จำเป็นคำนึงเลือกบริษัทที่มีขนาดใหญ่เสมอไป เราสามารถเลือกบริษัทที่ผลิตสิ่งที่เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของทุกคนแทนได้ เพราะบริษัทเหล่านี้ไม่ว่าจะเจอพิษเศรษฐกิจแบบไหน ก็จะยังคงอยู่ได้เพราะว่าคนทั่วไปยังคงซื้อสินค้าของบริษัทนั้นอยู่
-
ดูความสามารถของผู้บริหารและธรรมาภิบาลของบริษัท
บริษัทจะมีความเจริญก้าวหน้า สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ได้ขึ้นอยู่กับพนักงานของพวกเขา แต่ขึ้นอยู่กับตัวหัวหน้าเอง ซึ่งแน่นอนว่าการที่ผู้บริหารและธรรมาภิบาลมีความสามารถในการบริหารมากเท่าไหร่ ก็เป็นสิ่งที่ทำให้เรามั่นใจได้เลยว่าบริษัทนั้นยังคงสามารถโตต่อไปได้เรื่อยๆนะ แต่การที่เราจะทำความรู้จักกับผู้บริหารและธรรมาภิบาลของบริษัท มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยล่ะ เราสามารถอ่านบทสัมภาษณ์ผู้บริหารเพื่อพิจารณาดูวิสัยทัศน์ หรือจากการพูดคุยกับพนักงานในบริษัทก็ได้นะ
-
ดูว่าบริษัทอยู่ในอุตสาหกรรมที่เติบโต
เราจะเรียกบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตว่า Mega Trend ซึ่ง Mega Trend เป็นอุตสาหกรรมที่จะมีการเติบโตมากขึ้นในอนาคต เป็นการคาดเดาว่าบริษัทใดที่จะมีการเติบโตในอนาคต อย่างเช่นในอนาคตจะเป็นยุคที่สังคมผู้สูงอายุมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น การลงทุนหุ้นไปที่กลุ่มโรงพยาบาล จึงเป็นเรื่องที่ดี หรือการที่มีนโยบายพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและมีนโยบายการสร้างสิ่งก่อสร้างต่างๆจากรัฐบาล ก็ทำให้กระตุ้นยอดข่าวอุปกรณ์ก่อสร้างได้เป็นอย่างดีนะ ซึ่งเราควรที่จะเลือกหุ้นในกลุ่มที่เราสนใจและเข้าใจเท่านั้น เพื่อความได้เปรียบในการลงทุนนะ และเราสามารถสังเกตสัญญาณเศรษฐกิจรอบๆตัวเราได้อีกด้วย อย่างเช่นอุตสาหกรรมค้าปลีกของบริษัทหนึ่งมีการขยายสาขาเกิดขึ้น แปลว่าต้องมียอดขายเพิ่มขึ้นและมีแนวโน้มที่จะเติบโตแน่นอน
เพียง 5 ขั้นตอนนี้ ก็ทำให้นักลงทุนหลายๆคนโดยเฉพาะนักลงทุนหน้าใหม่ สามารถเลือกซื้อหุ้นได้อย่างเหมาะสมกับตัวเอง และทำให้เราสามารถมั่นใจได้อีกว่าหุ้นต่างๆเหล่านี้ที่เราซื้อ จะไม่มีความเสี่ยงมากนักสำหรับเราในอนาคต ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์เศรษฐกิจใดๆก็ตาม ถึงแม้ว่าจะมีผลกระทบกับหุ้นที่เราซื้อ แต่ก็สามารถเติบโตกลับมาได้ไม่ยาก รับรองว่าวิธีเหล่านี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นผู้ที่มีอิสรภาพทางการเงินแน่นอน
อ่านหมวดอื่น : อ่านงบการเงิน , เงินปันผล , มนุษย์เงินเดือนเล่นหุ้น