สุดว้าว! สุดทึ่ง! ทำโลกอึ้งกันไม่น้อย เมื่อปลายเดือนที่แล้ว Bloomberg Billionaires Index ได้เผยดัชนีทรัพย์สินหลังประกาศผลประกอบการไตรมาสล่าสุด พร้อมขยับอันดับให้ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอหนุ่มวัย 31 ปี แห่งบริษัทเฟซบุ๊ก อิงก์ นั่งแท่นเป็นเศรษฐีที่รวยที่สุดอันดับ 6 ของโลก
เพราะผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดา…
แค่ข่าวประกาศออกไป ก็ทำเอาสื่อมวลชนและคนทั่วโลกต่างทึ่งในทรัพย์สินของมาร์กที่มีมูลค่าทะลุ 4.75 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.6 ล้านล้านบาทไปเรียบร้อย ซึ่งความรวยครั้งนี้ทำเอาพี่น้องชาร์ลส์ และเดวิด โคช ซีอีโอแห่งอาณาจักร Koch Industries ผู้นำด้านเคมีภัณฑ์ และอุตสาหกรรมน้ำมันที่มีมูลค่าทรัพย์สิน 4.59 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ถูกมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก แซงหน้าไปเรียบร้อยแล้ว…OMG ศึกนี้ช่างน่าตื่นเต้นดีแท้
ความรวยของมาร์กเป็นรองอยู่แค่เพียง บิล เกตส์ ที่ครองแชมป์บุคคลผู้ร่ำรวยอันดับ 1 ของโลกมาหลายสมัย อมันซิโอ ออร์เตกา เจ้าของแบรนด์ ZARA วอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนมืออาชีพ เจฟฟ์ เบซอส เจ้าของ Amazon และคาร์ลอส สลิม วิศวกรชาวแม็กซิกัน เท่านั้น
แต่ความมหัศจรรย์ของซีอีโอหนุ่มยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะเขาได้สร้างสถิติเป็น 1 ใน 7 ของมหาเศรษฐีในกลุ่มท็อป 100 ที่มีทรัพย์สินงอกเงยในปีนี้ ซึ่งแตกต่างจากบริษัทส่วนใหญ่ที่พบกับพิษเศรษฐกิจขาลงจนทำให้มูลค่าหุ้นกิจการที่ถืออยู่มีมูลค่าลดน้อยลงตามไปด้วย
ไม่เพียงเท่านี้ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ยังสร้างความอึ้งให้โลกได้ตะลึงกันอีกยก เมื่อวันที่ 2 ก.พ. ที่ผ่านมา เขาได้ไต่อันดับความรวยด้วยการขึ้นแท่นเป็นบุคคลที่รวยมากที่สุดอันดับ 4 ของโลก แซงหน้าเจฟฟ์ เบซอส และคาร์ลอส สลิม ไปเรียบร้อย ด้วยมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดล่าสุดแตะที่หลัก 50 พันล้านดอลลาร์ แถมบริษัทเฟซบุ๊ก อิงก์ ยังถูกจัดให้เป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงสุดอันดับ 4 ของโลก ตามหลังกูเกิล แอปเปิล และไมโครซอฟต์อีกด้วย
เพราะอะไรที่ทำให้มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ถึงขยับอันดับความรวยได้รวดเร็วเพียงแค่สัปดาห์เดียวเท่านั้น…
เดลิเมล สื่อธุรกิจของอังกฤษรายงานเพิ่มเติมว่า เป็นเพราะในช่วงที่ผ่านมาตลาดหุ้นสหรัฐฯ และตลาดทุนทั่วโลกซบเซา ทำให้หลายธุรกิจต้องชะลอหรือขาดทุน รวมถึงเจฟฟ์ เบซอส เจ้าพ่อแห่งอเมซอนมีทรัพย์สินลดลงเหลือ 49.1 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นผลพวงมาจากมูลค่าหุ้นของบริษัทอเมซอนที่ตกลงไปถึง 18% หรือราว 10.6 พันล้านดอลลาร์ตั้งแต่วันแรกของการเปิดตลาดหุ้นในต้นปี 2016
แต่ปัญหาเศรษฐกิจที่ว่ากลับไม่ส่งผลกับหุ้นของเฟซบุ๊กสักเท่าไหร่ แม้จะมีร่วงตกลงไประหว่างวัน 0.4% แต่ในช่วงเดือนที่ผ่านมาหุ้นเฟซบุ๊กกลับเพิ่มขึ้นถึง 9.5% จึงทำให้มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก เลื่อนขึ้นจากลำดับ 6 สู่เศรษฐีพันล้านที่รวยเป็นอันดับ 4 ของโลกภายในเพียงแค่สัปดาห์เดียว
บลูมเบิร์กชี้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก เป็นเศรษฐีพันล้านคนเดียวในท็อป 5 จากตารางที่มีมูลค่าทรัพย์สินเพิ่มมากขึ้นในปีนี้ และยังพบว่าครึ่งหนึ่งของ 10 อันดับแรกของเศรษฐีพันล้านทั่วโลกร่ำรวยมาจากธุรกิจทางด้านเทคโนโลยีแทบทั้งสิ้น
ซีอีโอหนุ่มวัย 31 คงยิ้มภูมิใจในความสำเร็จครั้งนี้ไม่น้อย และต้องรอดูกันต่อไปว่า เขาจะสามารถทะยานไปสู่อันดับ 1 ของผู้ที่ รวยที่สุดในโลก ได้รวดเร็วแค่ไหน…เพื่อให้โลกจารึกชื่อไว้ ‘มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก’
ที่มา
- http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9590000010436
- http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9590000012626