หลายๆครั้งที่งานประจำที่เราทำอยู่ ก็ให้ความรู้สึกว่าไม่คุ้มค่าเหนื่อยสักเท่าไหร่ เนื่องด้วยปริมาณงานที่มาก เพื่อนร่วมงานที่แย่ และอื่นๆอีกมากมายที่ทำให้เรารู้สึกว่าไม่อยากจะทำงานอยู่ต่อ อยากจะ ออกจากงานประจำ อยากจะทำอะไรใหม่ๆเป็นของตัวเองไม่ต้องพึ่งคนอื่น ไม่ต้องมีเจ้านายคอยกดดัน และสิ่งนั้นก็คือธุรกิจส่วนตัวหรือการค้าขายนั้นเอง
อ่านเพิ่มเติม : รวมเหตุผลที่ มนุษย์เงินเดือนอยากลาออก
การทำการค้าขายนั้น อาจจะดูเป็นเรื่องง่ายๆทุกครั้งที่เราไปซื้อข้าว ซื้อน้ำปั่น ซื้อผลไม้จากร้านค้าต่างๆที่ขาย และการที่เราเห็นร้านค้าเหล่านั้นยังสามารถขายให้เราในทุกวันนี้ได้ แปลว่าพวกเขาต้องได้กำไรไม่น้อยและก็มีกำไรมากพอจนสามารถส่งลูกของตัวเองเรียน แต่ทำไมพอเราหันมาทำบ้างกลับไม่เห็นรู้สึกว่าตัวเองได้กำไร รู้สึกว่าไม่รุ่งสักนิดเลยล่ะ ซึ่งเรามีวิธีง่ายๆในการเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจหรือร้านค้าของตัวเองดังนี้
-
วิเคราะห์เกี่ยวกับที่ทำเลหรือสถานที่ที่เราทำการค้าขายอยู่
สถานที่ค้าขาย นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักที่มีความสำคัญอย่างมากเลยล่ะและการที่เราค้าขายไม่ดี ค้าขายไม่รุ่งหรือมีคนเข้ามาซื้อสินค้าของเราน้อย ส่วนหนึ่งก็อาจจะเป็นเพราะสถานที่ทำเลของเรานะ ถ้าหากว่าสถานที่ทำเลหรือแหล่งบริเวณขายของที่เรากำลังขายอยู่ ไม่ค่อยมีคนผ่านไปผ่านมาอย่างเช่นไม่ได้ขายอยู่ในบริเวณที่เป็นแหล่งย่านชุมชน หรืออาจจะขายบริเวณที่มีคนผ่านไปผ่านมาก็จริงแต่ไม่ใช่สิ่งของที่คนเหล่านั้นต้องการ ก็ทำให้สินค้าที่เราขายอยู่ไม่สามารถขายออกได้นะ ทางที่ดีเราควรเลือกสถานที่ทำเลที่มีคนพลุกพล่านและต้องการสินค้าจากเราดีกว่า หากใครที่นึกไม่ออก ลองนึกถึงร้านขายน้ำ เครื่องดื่มต่างๆ แบบเคลื่อนที่แล้วก็ขายบริเวณที่ต้องมีการใช้แรงหรือออกกำลังดูสิ ไม่ว่าใครเหนื่อยๆหรืออยากกินน้ำ ก็พากกันมาซื้อทั้งนั้นนะ
-
สร้างสิ่งที่แตกต่างให้กับร้านค้าของตัวเอง
เราทุกคนรู้ดีว่า การขายสินค้าที่มีความเหมือนๆกัน อยู่ในบริเวณเดียวกัน นั่นจะหมายถึงการแย่งลูกค้าและหารรายได้ซึ่งกันและกัน ถึงแม้ว่าร้านของเราจะมีความอร่อยมากกว่าร้านอื่นๆก็จริง แต่ด้วยความเหมือนกันของร้านค้าแถวๆบริเวณนั้น ทำให้คนมักจะเลือกที่ร้านตัวเองถูกใจที่สุดหรือร้านที่ใกล้ที่สุดสำหรับตัวเองนะ ฉะนั้นแล้วการสร้างสิ่งที่แตกต่างให้กับร้านของตัวเอง จะเป็นสิ่งหนึ่งที่สามารถดึงดูดลูกค้าได้อย่างมากเลยล่ะ
ลองนึกถึงร้านอาหารสองร้านที่อยู่ใกล้กันดูสิ ถ้าหากว่าร้านที่หนึ่งมีเครื่องดื่มขายให้ด้วยโดยที่อีกร้านหนึ่งไม่มี คิดว่าคนส่วนใหญ่นั้นเลือกที่จะเข้าซื้ออาหารร้านไหนกันล่ะ
-
ปรับแต่งสินค้า เพิ่มมูลค่าให้กับอาหารของเรา
ถึงแม้ว่าเราจะมีฝีมือในการทำอาหาร มีฝีมือในการทำขนมอยู่มาก สามารถทำอาหารและขนมต่างๆได้อร่อยเลิศเหมือนกับกุ๊กมือโปร และก็เลือกบริเวณทำเลหรือเลือกสถานที่ขายที่มีคนพลุกพล่าน แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าสินค้าของเราจะสามารถขายได้
หากใครที่นึกภาพไม่ออก ลองนึกถึงร้านขนมวุ้นธรรมดาๆที่ตั้งอยู่ในตลาดนัดดูสิ แน่นอนว่ามันดูธรรมดามากใช่รึเปล่าล่ะ
สิ่งหนึ่งที่เราลืมไม่ได้เลยก็คือการปรับแต่งสินค้า ตกแต่งและเพิ่มมูลค่าให้กับอาหารหรือขนมของเรา เราจะเห็นได้ว่าตามร้านกาแฟต่างๆได้มีการเล่นฟอง มีการตกแต่งหน้ากาแฟเป็นรูปต่างๆเพื่อที่จะให้เป็นจุดสนใจของคนต่างๆ ขนมวุ้นก็เช่นกัน ที่ในตอนนี้ได้มีการตกแต่งและเพิ่มลวดลายต่างๆให้กับขนมวุ้นให้มีความสวยงามน่ารับประทาน เป็นที่เตะตาของคนที่พบเห็น รับรองได้ว่าสินค้าของเราจะขายออกได้แน่นอน
-
รู้จักใช้สื่อให้เป็นประโยชน์
ด้วยความทันสมัยของเทคโนโลยีต่างๆในยุคปัจจุบัน ทำให้สื่อนั้นเป็นสิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญอย่างมากเลยล่ะ และคนจำนวนไม่น้อยเลย ก็เลือกที่จะใช้สื่อในการเพิ่มยอดขายให้กับตัวเอง
การที่สินค้าของเราขายไม่ออกหรือขายไม่ได้กำไร ไม่ค่อยมีลูกค้า เห็นได้ชัดว่าคนส่วนใหญ่อาจจะไม่ค่อยรู้จักว่ามีร้านของเราอยู่หรือไม่รู้ว่าในร้านของเรามีอะไรบ้าง ครั้นจะเดินเข้าไปลองกินก็ไม่กล้าเพราะไม่รู้ว่าจะมีสิ่งที่ถูกใจรึเปล่า ฉะนั้นแล้วการเลือกที่จะใช้สื่อในการโปรโมทร้านของเรา จะช่วยให้คนรู้จักร้านของเราและยิ่งมีการทำสื่อออกมาให้มีความน่าสนใจด้วยแล้ว รับรองได้เลยว่าจะสามารถดึงดูดเหล่าผู้คนที่อยากลองของใหม่ได้อย่างมากเลยล่ะ
-
ทำให้ลูกค้ารู้สึกได้กำไรจากสินค้าของเรา
การค้าขายนั้น สิ่งที่ทำให้ร้านค้าหรือเปล่าพ่อค้าแม่ขายอยู่ได้ก็คือกำไร และกำไรก็มาจากเงินที่ได้จากการขายสินค้าหักออกจากเงินต้นทุน ยิ่งเรามีสินค้าราคาต้นทุนมากเท่าไหร่ราคาอาหารก็จะยิ่งแพงมากขึ้นเท่าไหร่ และเมื่อสินค้ามีราคาแพง ก็ทำให้คนส่วนใหญ่ไม่เลือกที่จะซื้อของจากเรา แต่ถ้าหากว่าเราตั้งราคาน้อย ก็ทำให้ตัวเราเองได้กำไรน้อย สิ่งที่เราควรทำก็คือพยายามทำให้ลูกค้ารู้สึกได้กำไรจากเรา
ลองนึกถึงเวลาตอนที่ตัวเองไปร้านอาหารราคา 30 บาท แต่ให้ปริมาณอาหารเยอะสิ แน่นอนว่าเราเองก็อยากจะไปกินบ่อยๆใช่หรือเปล่าล่ะ
โดยในส่วนนี้อาจจะใช้วิธีการตกแต่งให้มีความสวยงามเหมือนอย่างร้านอาหารอื่นๆ ซึ่งก็อาจจะใช้ฝีมือไม่น้อยเลยล่ะ หรืออาจจะเลือกใช้วัตถุดิบชนิดอื่นที่ถูกกว่าทดแทนกับสิ่งที่ใช้อยู่ แล้วก็เพิ่มปริมาณก็ได้นะ