ในหนึ่งวันของเราทุกคน แน่นอนว่ามันมีเวลาทั้งหมด 24 ชั่วโมงเท่านั้นเอง ซึ่งมันก็เท่าๆกันนะและไม่ว่าเราจะเป็นอย่างไร จะร่ำรวยหรือมีฐานะมากแค่ไหน เราก็ยังคงมีเวลาทั้งหมด 24 ชั่วโมงเท่าเดิม แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เราเคยสงสัยบ้างหรือเปล่าล่ะว่าสำหรับคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตนี้ พวกเขาจัดแจงเวลา 24 ชั่วโมงของตัวเองอย่างไร แล้วทำไมทั้งๆที่เราหรือคนอื่นๆก็มีเวลา 24 ชั่วโมงเท่าๆกัน และยิ่งไปกว่านั้น คนบางคนที่มีอายุน้อยกลับประสบความสำเร็จได้ก่อนคนที่มีอายุเยอะเสียอีก ซึ่งเรามีวิธี บริหารเวลาชีวิต 24 ชั่วโมงตามแบบฉบับคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตแล้วมาให้อ่านกันค่ะ
อ่านเพิ่มเติม : เคล็ดลับ บริหารเวลาให้ลงตัว สำหรับมนุษย์เงินเดือน
-
เลือกทำที่สิ่งสำคัญกับชีวิต
ในแต่ละวันของเรานั้น ล้วนมีสิ่งต่างๆมากมายที่เราต้องทำเต็มไปหมด แน่นอนว่าคนแต่ละคน ก็มีสิ่งที่ต้องทำแตกต่างกันไปในแต่ละวันตามฐานะ ตามต้นทุนชีวิตและตามสถานภาพที่ตัวเองเป็นอยู่ อีกทั้งวัยเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่มีผลกับการใช้ชีวิตในแต่ละวันของเราด้วยนะ โดยวัยเรียนนั้น ก็จะมีการใช้ชีวิตที่คล้ายๆกันนั่นก็คือใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเรียนหนังสือ ส่วนสำหรับวัยทำงานหรือวัยอื่นๆ ก็แตกต่างกันตามสิ่งที่ทำอยู่
แน่นอนว่าด้วยการใช้ชีวิตที่แตกต่างกัน สิ่งสำคัญของชีวิตก็แตกต่างกันไปด้วย โดยในแต่ละคนนั้นก็อาจจะใช้ความสำคัญในแต่ละสิ่งที่ต้องทำแตกต่างกันไป ซึ่งจะเห็นชัดที่สุดก็คือเด็กในวัยเรียนนะ เพราะเด็กบางคนเลือกที่จะให้ความสำคัญหับหนังสืออย่างมากเพื่อที่จะทำเกรดในโรงเรียนให้ได้ดีๆ แต่เด็กบางคนก็เลือกที่จะให้ความสำคัญกับสิ่งที่ตัวเองชอบมากกว่า
-
ต้องรู้เสมอว่าเราควรจะทำอะไรในแต่ละวัน
ก่อนที่เราจะรู้ว่าในวันนี้หรือว่าในวันพรุ่งนี้เราจะทำอะไร ก็ต้องผ่านการวางแผนมาก่อน การรู้ว่าตัวเองควรที่จะทำอะไรในแต่ละวันนั้น จะช่วยให้เวลาของเราในแต่ละวันมีค่าอย่างมากและไม่รู้สึกว่าสูญเปล่าเลย ซึ่งถ้าหากใครที่ไม่ค่อยเห็นความสำคัญของข้อนี้ ลองนึกถึงช่วงเวลาที่น่าเบื่อที่สุดของชีวิตดูสิ วันที่ตัวเราเองอยู่เฉยๆพร้อมกับบ่นหรือคิดในหัวตลอดว่า “อยากทำอะไรดี” แน่นอนว่าช่วงเวลานั้นเป็นการทิ้งเวลาที่มีอยู่ไปอย่างเปล่าประโยชน์อย่างมากเลยล่ะ ทางที่ดีเราควรจะวางแผนไว้นะว่าควรทำอะไรบ้างในวันนี้และวันพรุ่งนี้
-
ให้สมาธิกับงานที่กำลังทำ
การที่เราทำอะไรสักอย่างหนึ่ง สิ่งนั้นจะเสร็จช้าหรือไว ก็ขึ้นอยู่กับสมาธิของเราด้วยนะ ถ้าหากว่าเรามีสมาธิอยู่กับงาน จะสามารถทำให้เราทำงานนั้นได้เรื่อยๆโดยที่ไม่วอกแวกกับอย่างอื่นเลยล่ะ แต่ถ้าหากว่าเราทำงานนั้นพร้อมกับทำอย่างอื่นไปพร้อมๆกัน แน่นอนว่างานนั้นก็จะเสร็จช้าไม่น้อยเลยล่ะ
ถึงแม้ว่าบางครั้ง เราอาจจะไม่ค่อยเห็นความแตกต่างในเรื่องของเวลาระหว่างทำงานอย่างมีสมาธิกับทำงานอย่างไม่มีสมาธิสักเท่าไหร่เพราะว่ามันไม่ค่อยแตกต่างกันมาก แต่ใครจะไปรู้กันล่ะว่าเวลาเล็กๆตรงนี้ เมื่อรวมกันหลายๆวัน จะรู้ว่ามันมีค่าไม่น้อยเลย หากใครที่ยังจินตนาการไม่ออก ลองนึกถึงเวลาที่เราพิมพ์งานสักชิ้น แล้วก็แอบเล่น facebook วันละ 5 นาทีดูสิ ใน 1 วันที่เราพิมพ์งาน เราอาจจะแอบเล่น facebook เพียง 5 นาทีก็จริง แต่ถ้าหากว่าเรานั่งพิมพ์งาน 5 วันล่ะ แน่นอนว่าเราจะเสียเวลาไปกับการนั่งเล่น facebook ถึง 25 นาทีกันเลยทีเดียวนะ ซึ่งคนที่รู้คุณค่าของเวลาจะตระหนักในจุดนี้อย่างมากเลย
-
หาตัวช่วยในการใช้ชีวิต
ในวัยเรียนของใครหลายๆคน มั่นใจได้เลยว่ามีการใช้ตัวช่วยอย่างแน่นอนเพื่อให้ชีวิตในวัยเรียน สามารผ่านพ้นไปได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นขอคำปรึกษาจากรุ่นพี่ ขอยืมหนังสือรุ่นพี่อื่น ยืมสมุดการบ้าน ยืมรูปเล่มรายงานเอาไว้เป็นตัวอย่างในการทำการบ้านส่งและอื่นๆอีกมากมาย แต่พอเราผ่านชีวิตในวัยเรียนนั้นมาแล้วเราก็ควรที่จะเริ่มหาตัวช่วยในการใช้ชีวิตนะ
เราทุกคนตระหนักและรู้ดีว่าการใช้ชีวิตในแต่ละวัน มันไม่ง่ายสักเท่าไหร่เลยนะ แต่ก็ยังมีคนจำนวนไม่น้อยที่เลือกที่จะปล่อยชีวิตให้เป็นเรื่องของโชคชะตา โดยคิดเพียงว่าในแต่ละวันจะเจออะไรก็แล้วแต่ดวง ซึ่งสิ่งที่เราควรทำนั้นไม่ใช่การปล่อยชีวิตให้เป็นไปกับโชคชะตา แต่เราควรที่จะหาตัวช่วยในการใช้ชีวิตของเราให้มันง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรียนรู้จากคนมีประสบการณ์
เพียงเท่านี้ เวลาในหนึ่งวันของเราก็ถูกจัดให้มีความคุ้มค่า มีความเหมาะสม และก็ไม่เสียเปล่าแล้วนะ ถ้าหากว่าเราจัดเวลาดีๆให้กับชีวิตและก็ไม่เลือกที่จะใช้เวลาไปกับสิ่งที่ไร้สาระมากเกินไป รับรองว่าเราจะประสบความสำเร็จได้ในเวลาที่ไม่นานนะ และเมื่อเราประสบความสำเร็จในชีวิตแล้ว เราค่อยที่จะลดความสำคัญของเวลาบางส่วนลง เพื่อใช้ในสิ่งที่ไร้สาระก็ได้