ช่วงนี้เนื่องจากเป็นช่วงของการจบการศึกษาของบัณฑิตจากสถาบันต่างๆมากมาย หลากหลายสาขา ต่างคนต่างก็กำลังเริ่มต้นชีวิตการทำงาน บางคนเริ่มหาสมัครงานกันบ้างแล้ว หรือบางคนก็ได้รับการคัดเลือกให้เข้าทำงานเป็นที่เรียบร้อย คนที่ได้งานก็ใช้ชีวิตเป็นมนุษย์กินเงินเดือนกันไป จะมากจะน้อยก็ขึ้นอยู่กับความสามารถ คุณวุฒิ ประสบการณ์ และลักษณะของงานที่ทำ ใครที่มีงานทำมีรายได้ก็ขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ แต่สำหรับใครที่ยังหางานไม่ได้ ยังล่องลอยเตะฝุ่นอยู่ หรือใครที่เบื่องาน อยู่ในสภาวะอิ่มตัว ต้องการอยากที่จะมีความก้าวหน้าในหน้าที่การงานมากกว่านี้ หรือใครที่ไม่ชอบงานที่ตัวเองกำลังทำอยู่ อยากลาออก
วันนี้เราก็เลยมีบทความเกี่ยวกับงานที่เรียกได้ว่า ถึงแม้จะไม่ใช่งานประจำ ก็สามารถทำให้ชีวิตนั้นประสบความสำเร็จได้ เป็นอย่างไรมาดูกันค่ะ
ทุกวันนี้ แม้ว่าหน้าที่การงานมีหลากหลายและแตกแขนงออกเป็นสาขาต่างๆมากมายมากขึ้น เรียกได้ว่า แม้จะเรียนจบมาจากสายงานที่เป็นงานเฉพาะทางต่างๆ ก็ยังมีงานรองรับอยู่เสมอ เพราะโลกของเศรษฐกิจได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ผู้คนก็มีทางเลือกในการประกอบอาชีพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะสายงานด้านอุตสาหกรรมต่างๆ แต่ก่อนใครที่เรียนด้านนี้มักจะถูกตั้งคำถามว่า เรียนไปแล้ว จบแล้วจะไปทำอาชีพอะไร เพราะค่านิยมรุ่นพ่อแม่ที่ผ่านมาคือ ถ้าไม่ทำงานที่เป็นข้าราชการหรืองานในรัฐวิสาหกิจ ก็จะหางานยากและไม่มั่นคง แต่เมื่อกาลเวลาล่วงเลย มาจนถึง ศักราชใหม่ ค่านิยมแบบเดิมก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไป ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นข้าราชการหรือมีเงินเดือนก็สามารถทำงานเลี้ยงชีพและประสบความสำเร็จได้เช่นเดียวกัน
บางคนก็มีความคิดที่ว่า อะไรที่มั่นคงก็คือความมั่นคง เช่น ได้ทำงานในบริษัทชื่อดังมีตำแน่งงานที่ดี เจ้านายรัก เพื่อนร่วมงานเป็นกันเอง เงินเดือนและโบนัสตอบแทนเป็นที่น่าพอใจ คาดว่า นี่ล่ะ คืองานที่ฉันจะทำไปจนกว่าจะเกษียณ บางสิ่งบางอย่างมันอาจจะไม่แน่นอนเสมอไปหรอกค่ะ ถ้าสมมติว่าเปลี่ยนผู้บริหารใหม่ องค์กรวางระบบการทำงานใหม่ เราก็ต้องปรับตัวกันไปอีกเรื่อยๆ เดี๋ยวก็มีคนย้ายออกย้ายเข้าเสมอ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัญหาที่ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงไป ใครที่ปรับตัวได้ก็อยู่ต่อ ใครที่ปรับตัวยาก ก็อึดอัด ลำบากใจที่จะทำงานต่อไปได้ เพราะฉะนั้นแล้ว อะไรที่ว่ามันมั่นคง มันก็อาจจะไม่มั่นคงเลย แต่เราสามารถกำหนดทิศทางของชีวิตเราได้นะคะ ด้วยการออกแบบทางเดินของตัวเอง ใครที่คิดจะเกาะรายได้จากงานประจำอยู่อาจจะต้องคิดใหม่เสียแล้ว เดี๋ยวนี้ก็มีคนที่ทำงานประจำออกมาทำธุรกิจส่วนตัวแล้วประสบความสำเร็จกันก็มีเยอะแยะ
อย่างเช่น กรณีของ คุณกุ๊กและคุณจุ๊บ ที่ทำงานเป็นพนักงานบริษัทมาหลายปี จนวันหนึ่งคิดว่าอยากหางานเสริมทำ เผื่ออนาคตไม่แน่ไม่นอน คุณกุ๊กและคุณจุ๊บ จึงจับมือร่วมหุ้นลงทุนกันสองคน ทำฟาร์มเห็ด โดยให้ชื่อว่า Mushroom Cottage Farm โดยเริ่มต้นกิจการด้วยงบของตนเองทำโรงเรือนเพาะเห็ดเล็กๆ เพาะเห็ดทั้งหมดสามสายพันธุ์ด้วยกัน ก็คือ เห็ดนางนวลสีชมพู คุณกุ๊กบอกว่า จุดเด่นของมันก็คือ มีดอกสีชมพูนอกจากจะได้ในเรื่องของประโยชน์ คุณค่าทางอาหารแล้ว ยังมีความสวยงามตามธรรมชาติอีกด้วย และเห็ดนางรมฮังการี มีลักษณะดอกเป็นสีขาว มีรสชาติที่ดี และอีกสายพันธุ์หนึ่งก็คือ เห็ดนางฟ้าภูฐาน
เริ่มแรกของการออกมาทำธุรกิจส่วนตัวของคุณกุ๊กและคุณจุ๊บนั้น ก็ยังไม่เข้าที่เข้าทางซะเท่าไหร่ ยังติดขัดในเรื่องของการทำการตลาด การนำเห็ดไปจำหน่าย แต่ทั้งสองก็แก้ปัญหานี้ได้ ด้วยการนำเห็ดที่เพาะเลี้ยงได้นั้นไปขายในตลาดสด โดยทำบรรจุภัณฑ์หีบห่อที่มีความสวยงาม มีความน่าเชื่อถือ จึงได้รับการตอบรับจากลูกค้าที่พบเห็นเป็นอย่างดี อีกทั้งฟาร์มเห็ดของคุณกุ๊กและคุณจุ๊บยังเพาะเห็ดแบบไม่ใช้สารเคมี สะอาดและปลอดภัยต่อผู้บริโภค ยังไม่หมดแต่เพียงเท่านี้ค่ะ การทำการตลาดของคุณกุ๊กและคุณจุ๊บกยังมีการแจกนามบัตรเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคต่างๆมากขึ้น และผลผลิตที่ได้ อย่างเห็ดที่เพาะได้ส่วนหนึ่งนอกจากที่จะมาขายแบบสดๆแล้ว ยังสามารถนำไปแปรรูปเป็นการเพิ่มมูลค่าของสินค้าได้อีก
อย่างเช่น นำไปทำแหนมเห็ด น้ำเห็ดเพื่อสุขภาพ เห็ดอบกรอบตากแห้ง น้ำพริกเห็ด เป็นต้น ซึ่งได้รับความนิยมไม่แพ้กัน จนคุณกุ๊กและคุณจุ๊บสามารถขยายกิจการสร้างโรงเรือน และมีการซื้อเครื่องจักและอุปกรณ์ต่างๆรวมไปถึงจ้างคนงานมาทำงานในโรงเรือน เพื่อให้ผลผลิตนั้นเพียงพอต่อความต้องการของตลาด จนสามารถสร้างรายได้ถึงเดือนละ 1-2 แสนบาทต่อเดือน ยิ่งในช่วงหน้าร้อน คุณกุ๊กบอกว่า ทำกำไรได้ดีมากๆ
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่าง ของคนที่ไม่ยอมจำนนต่อหนทางเพียงหนทางเดียว คนเราย่อมมีการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ทั้งนี้ก็เพื่อปรับตัวให้อยู่รอดต่อไป สำหรับใครที่สนใจ ยังไม่รู้จะไปประกอบอาชีพอะไร ลองดูนะคะ บางทีสิ่งใกล้ตัวเรานั่นแหละที่สามารถทำเงินได้เช่นกัน เพียงแค่เราต้องคิดให้ถึง แล้วลงมือทำอย่างจริงจัง ค่อยๆทำค่อยๆขยายความสำเร็จให้ใหญ่ขึ้น เดี๋ยวนี้ความต้องการของคนมันเยอะมากค่ะ ถ้าเราอยากจะทำงานอะไรสักอย่างที่เป็นของตัวเอง ก็ต้องหาโจทย์เหล่านั้นให้เจอ คำตอบจะรุ่งหรือรอดก็ขึ้นอยู่กับตัวเราที่จะเลือกออกแบบแล้วล่ะ.