การ ทำงานประจำ ให้ประสบความสำเร็จ ให้เติบโตในหน้าที่การงาน และที่สำคัญคือ เราเองก็มีความสุขในการทำงานนั้นทำได้อย่างไร นี่น่าจะเป็นคำถามที่มนุษย์เงินเดือนหรือหนุ่มสาวชาวออฟฟิศหลาย ๆ คนเฝ้าใฝ่หามาตลอดชีวิตการทำงาน ซึ่งหลายคนก็เจอคำตอบ แต่อีกหลายคนก็ไม่เจอ วันนี้เราจึงมีเคล็ดไม่ลับ 5 ข้อ สำหรับหนุ่มสาวชาวออฟฟิศที่อยากประสบความสำเร็จ อยากเติบโตในหน้าที่การงานและที่สำคัญคือ มีความสุขในการทำงานทุก ๆ วันมาฝากกัน
1.เริ่มต้นจากงานที่ใช่
การได้ทำในสิ่งที่ชอบหรือสิ่งที่รัก ถือเป็นบันไดก้าวแรกที่จะนำคุณไปสู่การประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ดังนั้น หากงานที่คุณกำลังทำอยู่ ทำให้คุณรู้สึกเหนื่อย เฉื่อย เฉา นั่นแปลว่าคุณไม่ได้ชอบหรือรักในเนื้องานที่ทำอยู่เท่าไหร่หรอก ลองทดสอบจากตัวเองก็ได้ว่า ทุก ๆ เช้าที่ต้องตื่นไปทำงาน คุณมีแรงผลักดันที่จะลุกขึ้นจากที่นอนไปทำงานมากน้อยแค่ไหน หากว่าคุณรู้สึกหดหู่ ถอนหายใจ หรือเบื่อหน่ายในทุก ๆ เช้าที่ต้องไปทำงาน นั่นแปลว่าคุณกำลังเสียเวลาอยู่กับงานที่ไม่ใช่ ดังนั้น หากอยากประสบความสำเร็จในการทำงาน น่าจะถึงเวลาแล้วที่คุณจะมองหางานใหม่ ๆ ที่ใช่และชอบมากกว่า เพราะระหว่างการได้ทำในสิ่งที่ชอบหรือรัก กับการต้องทำในสิ่งที่ไม่ได้รักหรือชอบ มันให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันมากมายอยู่ทีเดียว
2.สร้างเป้าหมาย 3 ระยะ เพื่อนำทางชีวิต
การจะเป็นมนุษย์เงินเดือน กับการจะเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จในการทำงานนั้น มีรูปแบบวิธีการที่แตกต่างกันเหลือแสน แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้ที่คาดหวังจะประสบความสำเร็จในชีวิตการทำงานจำเป็นต้องมีและต้องทำ!!! นั่นก็คือ การวางเป้าหมายชีวิตอย่างชัดเจน การมีเป้าหมายในชีวิตนั้นเหมือนกับเรือที่มีเข็มทิศคอยชี้ทาง ชีวิตการทำงานที่มีเป้าหมายจะทำให้เรามีความชัดเจนในการทำงานแต่ละวัน แต่ละเดือน และแต่ละปี ทำให้เรารู้ว่าการจะไปให้ถึงความสำเร็จนั้นต้องไปทางไหน โดยไม่ต้องเสียเวลาหลงทิศหลงทาง โดยเป้าหมายชีวิตที่ควรวางนั้น สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ระยะ คือ เป้าหมายระยะสั้น เป้าหมายระยะกลาง และเป้าหมายระยะไกล
- เป้าหมายระยะสั้น คือ เป้าหมายที่วางไว้ในระดับวัน สัปดาห์ และเดือน เช่น วันนี้ฉันต้องทำอะไรให้เสร็จบ้าง ภายในสัปดาห์นี้ ฉันต้องการที่จะฝึกฝนอะไรตัวเอง หรือภายใน 3 เดือนนี้ งานที่ฉันรับผิดชอบจะต้องแล้วเสร็จ
- เป้าหมายระยะกลาง คือ เป้าหมายที่วางไว้ในระดับปี เช่น ภายใน 2 ปีนี้ ฉันจะต้องได้เลื่อนตำแหน่ง ดังนั้น ฉันต้องทำอย่างนี้ ๆ
- เป้าหมายระยะไกล คือ เป้าหมายที่วางไว้ในระดับ 5-10 ปี ขึ้นไป เป็นเป้าหมายระยะยาวที่เป็นการกำหนดถึงสถานะ สภาวะ หรือสภาพการณ์ที่เราต้องการจะเป็น หรือจะไปให้ถึง
โดยเป้าหมายทั้ง 3 ระยะนี้ ผู้ที่คาดหวังจะประสบความสำเร็จในการทำงาน จำเป็นต้องกำหนดไว้ให้ชัดเจน โดยตั้งต้นที่เป้าหมายระยะไกลหรือระยะยาวก่อน ว่าในอีก 10 ปี ข้างหน้า ฉันต้องการเป็นอะไร ประสบความสำเร็จอย่างไร จากนั้นจึงค่อยมาวางเป้าหมายชีวิตระยะกลาง ว่าถ้าฉันต้องการจะประสบความสำเร็จ ไปถึงเป้าหมายระยะไกลนั้น ระหว่างทางฉันจำเป็นต้องทำอะไรบ้าง ค่อย ๆ คลี่แผนการออกมาเพื่อกำหนดหมุดหมายชีวิตของตัวเอง จากนั้นจึงย่อยออกมาเป็นเป้าหมายระยะสั้น ที่จะเป็นการจำแนกแยกแยะเป้าหมายระยะกลางออกมาอีกที ว่าถ้าฉันต้องการจะไปถึงเป้าหมายระยะกลางนั้น ในระหว่างนี้ฉันต้องทำอะไร ต้องฝึกฝนตนเองอย่างไร เป็นต้น
3.ความรับผิดชอบคือสิ่งสำคัญ
ความรับผิดชอบในที่นี้แบ่งออกเป็น 2 มิติ มิติที่ 1 คือ ความรับผิดชอบต่อเป้าหมายที่ตนเองตั้งไว้ (สืบเนื่องจากข้อ 2.) กล่าวคือเมื่อวางเป้าหมายอย่างชัดเจนแล้ว ก็จำเป็นที่เราจะต้องรับผิดชอบที่จะทำให้ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ เป็นการเคร่งครัดต่อตนเอง และเพื่อพาตนเองไปยังเป้าหมายได้อย่างไม่ออกนอกลู่นอกทาง กับมิติที่ 2 คือ ความรับผิดชอบต่องานในความรับผิดชอบ ซึ่งถือเป็นคุณสมบัติที่ผู้ที่จะประสบความสำเร็จจำเป็นต้องมีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะงานที่รับมาจากหัวหน้างานโดยตรง ถ้าคุณไม่รับผิดชอบทำให้เสร็จตามกรอบเวลาหรือกรอบงานที่กำหนดไว้ การจะก้าวไปประสบความสำเร็จได้นั้นก็คงยากแน่ ๆ
4.แสวงหาความรู้และทักษะใหม่อยู่เสมอ
เพราะโลกใบนี้มีเรื่องราวใหม่ ๆ และนวัตกรรมแปลกใหม่เกิดขึ้นอยู่ทุกนาที การปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับความรู้เก่า ๆ ทักษะเดิม ๆ หรือโลกใบเก่านั้น ย่อมทำให้ชีวิตการทำงานของเราหยุดอยู่กับที่ คือทำดีแค่ไหนก็เสมอตัว ไม่สามารถดีไปกว่านี้ได้อีกในโลกที่เคลื่อนไปข้างหน้าทุกนาที การเปิดรับข่าวสารใหม่ ๆ การฝึกฝนทักษะที่จำเป็นต่อการทำงาน และการขวนขวายหาเครื่องมือหรือนวัตกรรมร่วมสมัยมาใช้ประโยชน์ต่อการทำงาน จึงเป็นแนวทางหนึ่งที่จะช่วยทำให้คุณประสบความสำเร็จในการทำงานได้
5.ปรับทัศนคติ ทำงานอย่างเป็นสุข
เหนืออื่นใดแล้ว หากเราทำงานด้วยใจที่ไม่เบิกบาน ไม่รู้สึกสนุกกับการทำงาน การที่จะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานนั้นก็คงเป็นไปได้ยาก การที่จะทำงานให้ประสบความสำเร็จและด้วยหัวใจที่เป็นสุข สนุกกับงาน หลักใหญ่ใจความจึงอยู่ที่การปรับทัศนคติให้มีความสุขกับการทำงาน ไม่มองว่าภาระที่เข้ามาคือภาระ แต่จะเป็นแบบฝึกหัดที่จะทำให้เราเก่งขึ้น ฉลาดขึ้น เติบโตขึ้น พยายามมองหาข้อดีหรือแง่มุมบวกในการทำงาน เพื่อสร้างแรงกระตุ้นและแรงบันดาลใจในการทำงานของเรา เมื่อสามารถปรับเปลี่ยนทัศนคติได้แล้ว เราก็จะสามารถทำงานได้อย่างมีความสุข สนุกกับการทำงาน ซึ่งจะนำไปสู่การประสบความสำเร็จ สามารถเติบโตได้ในหน้าที่การงาน และมีความสุขที่ได้ทำงานนั่นเอง
สุดท้ายนี้ ทุกคนสามารถประสบความสำเร็จในการทำงานได้ ขอเพียงแค่มองหางานที่ชอบ สนุกที่จะทำ มีการวางเป้าหมาย 3 ระยะ เพื่อเป็นเข็มทิศให้ชีวิตการทำงาน มีความรับผิดชอบต่องานในหน้าที่และเป้าหมายของตน หมั่นเรียนรู้ ฝึกปรือทักษะใหม่ ๆ อยู่เสมอ และอย่าลืมปรับทัศนคติให้เป็นบวกต่องาน เพียงเท่านี้ คุณก็จะประสบความสำเร็จในการทำงานอย่างแน่นอน