Sales กับ Marketing ต่างกันอย่างไร ?

บทความนี้เราจะมาพูดถึงการทำงานในตำแหน่งงาน  Sales และ Marketing กัน เนื่องจากมีหลายคนที่สงสัยว่า Sales กับ Marketing นั้นแตกต่างกันอย่างไร เพราะบางบริษัทประกาศรับพนักงานในตำแหน่ง Marketing บางบริษัทก็ประกาศรับสมัครพนักงานในตำแหน่ง Sales แต่บางบริษัทมีตำแหน่ง Sales&Marketing เรามาทำความรู้จักกันเถอะว่า ตำแหน่งนี้มีลักษณะการทำงานแบบใด และเหมาะสมกับเราหรือไม่

Sales ขายของ

หลายคนก็สงสัยเหมือนกันว่าใช่พนักงานขายที่เราเห็นตามห้าง ตามบูธในงานอีเว้นท์ทั่วไปหรือไม่? และเขาทำงานกันอย่างไร?

ตำแหน่งงาน Sales หรือพนักงานขายก็มีหลากหลาย ขึ้นอยู่กับว่า บริษัทนั้นต้องการพนักงานขายในลักษณะใด แต่ขึ้นชื่อว่าการขายก็คือตัวแทนในการขายสินค้า โฆษณาสินค้า ประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รู้จัก อาจจะรวมไปถึงการแนะนำสินค้า หาลูกค้า เป็นต้น ซึ่งประเภทของงานขายนั้นมีคร่าวๆดังนี้

1. การขายแบบค้าปลีก Retail Selling  เป็นการขายแบบที่เราพบเห็นกันทั่วไป พนักงานขายมีหน้าที่ในการแนะนำสินค้าว่ามีคุณสมบัติอย่างไร ? เหมาะกับลูกค้าหรือไม่ ส่วนใหญ่สินค้าจะอยู่ในรูปของผลิตภัณฑ์ พนักงานต้องมีจิตวิทยาในการขาย และมีทักษะในการโฆษณาสินค้า งานขายแบบนี้จะเป็นการขายในแบบบริการลูกค้าไปในตัวด้วย เพราะต้องให้คำแนะนำปรึกษาเป็นรายๆไป
2. การขายเพื่อธุรกิจใหม่ New-Business Selling เป็นการขายที่เน้นการบริการลูกค้าเดิม เช่น ลูกค้าสั่งสินค้าไปแล้ว แต่ทางบริษัทผลิตสินค้าใหม่ออกมาจำหน่าย พนักงานก็ต้องแนะนำสินค้าตัวใหม่นี้ให้ทั้งลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ต่อๆไป จะคล้ายๆกับการขายในแบบแรก ต่างตรงที่ แบบสองนั้นเป็นการแนะนำสินค้าใหม่ของบริษัทให้แก่ลูกค้าด้วย
3. การขายผ่านทางโทรศัพท์ Telemarketing  การขายในรูปแบบนี้จะมาพร้อมกับการโฆษณา อย่างเช่น บริการทางด้านการเงิน ประกันชีวิต โปรโมชั่นจากผู้ให้บริการด้านการสื่อสาร เป็นต้น  เป็นการแนะนำผลิตภัณฑ์และบริการทางโทรศัพท์ โดยผู้ซื้อและผู้ขายไม่ต้องพบปะกันอย่างการขายในรูปแบบอื่น
4. การขายทางเทคนิค  Technical Selling  การขายในรูปแบบนี้จะเป็นการขายในกลุ่มของสินค้าที่เป็นเครื่องจักร หรือสินค้าอุตสาหกรรมเชิงเทคนิคต่างๆ ที่ต้องมีการแนะนำอุปกรณ์นั้นๆ เพื่อให้ลูกค้าได้เข้าถึงรูปแบบของการทำงาน ราคา ไปจนถึง การรับประกันสินค้าต่างๆ หรือแม้แต่บริการทางเงินและประกันชีวิตเป็นต้น พนักงานขายต้องผ่านการอบรมงานเพื่อที่จะสามารถแนะนำให้คำปรึกษากับลูกค้าในเชิงลึก และจะต้องมีความรู้และทักษะการขายเป็นอย่างดี
5. การขายเพื่อเผยแพร่  Missionary Selling ส่วนใหญ่งานขายนี้จะอยู่ในกลุ่มของยารักษาโรค
   ที่เรียกว่าเป็น รีเทลเลอร์ หรือผู้แทนยา จะมีหน้าที่ในการแนะนำตัวยาหรือสินค้าประเภทต่างๆของบริษัท ให้กับแพทย์หรือเภสัชกร/คลีนิกต่างๆ เพื่อให้ผู้ค้าสามารถเลือกผลิตภัณฑ์ นำไปจำหน่ายหรือให้บริการกับลูกค้าที่เป็นคนไข้อีกที  เพราะฉะนั้นแล้ว การขายแบบนี้รีเทลเลอร์จึงต้องรู้ทั้งข้อดี และข้อเสีย รายละเอียดของสินค้าแต่ละตัว  เพื่อที่จะแสดงให้เห็นว่าสินค้าของบริษัทนั้นมีจุดแข็งที่ดีกว่าสินค้าบริษัทอื่นอย่างไร
6. การขายเพื่อการค้า  Trade Selling  เป็นการขายให้กับผู้ค้าปลีกที่มารับช่วงขายสินค้าอีกที โดยหน้าที่หลักๆก็คือ การโฆษณาสินค้า สร้างความน่าเชื่อถือ ขยายฐานลูกค้ารายย่อยต่อไป

โดยภาพรวมแล้วการขายนั้น จะเน้นขายสินค้า โฆษณา ประชาสัมพันธ์ ติดต่อลูกค้า หาลูกค้า เรียนรู้สินค้าเสียส่วนใหญ่ ซึ่งผลตอบแทนนั้น บางบริษัทก็จะให้เป็นเงินเดือนไป หรือบางบริษัทก็มีให้ตามจำนวนสินค้าที่ขายไป ที่เรียกว่าเป็นค่าคอมมิชชั่น ขายมากได้มาก ขายน้อยได้น้อย ไม่แน่นอน งานขายจะเหมาะมากสำหรับคนที่มีทักษะในการติดต่อสื่อสาร และคนที่เก่งในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เพราะการขายนั้นต้องพบปะผู้คนอยู่ตลอดเวลา

Marketing ฝ่ายการตลาด

ส่วนตำแหน่งงานที่เรียกว่า Marketing นั้น จะซับซ้อนมากกว่าการเป็นพนักงานขาย เพราะ Marketing หรือที่เราคุ้นเคยกันก็คือ ฝ่ายการตลาด แต่ละบริษัทก็จะมีทีมงานที่ทำการตลาดโดยเฉพาะ แล้ว คนกลุ่มนี้มีหน้าที่ทำอะไร ?

ตำแหน่ง Marketing หรือที่เรียกว่า ฝ่ายการตลาดนั้น จะทำหน้าที่ในการวางระบบ ศึกษาตลาด ศึกษาลูกค้ากลุ่มผู้บริโภค เป็นงานที่ต้องใช้เวลาในการวางแผน เพราะสินค้าแต่ละอย่างก็จะมีคู่แข่งแต่ละบริษัทอยู่แล้ว เรียกได้ว่าต้องสำรวจตั้งแต่ความต้องการของลูกค้า สำรวจคู่แข่ง ดูโปรโมชั่น อันไหนที่จะดึงดูดใจลูกค้า วิเคราะห์ทั้งตัวเลข งบประมาณที่ต้องใช้ในการทำการตลาดด้วย ต้องใช้เท่าไร่ ค่าอะไรบ้าง และยอดขายหรือผลตอบแทนที่จะได้รับนั้นคุ้มค่ากับที่ลงทุนไปหรือไม่? เพราะฉะนั้นคนที่จะทำงานด้าน Marketing นี้จะไม่ใช่คนที่ต้องไปแนะนำสินค้าหรือขายสินค้าโดยตรง แต่จะต้องวางแผนการขายทั้งหมดและต้องมีความคิดสร้างสรรค์ เพื่อสร้างจุดแข็งให้กับสินค้าของบริษัทนั้นต่อไป ยอดขายจะร่วงหรือรุ่ง ส่วนใหญ่ก็มีผลจากการทำการตลาดนี่ล่ะ เพราะฉะนั้นตำแหน่งงานนี้จึงมีผลตอบแทนที่สูงและบริษัทใหญ่ๆก็จะมีโบนัสให้ตลอด

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ พอจะเห็นความแตกต่างของงานในตำแน่ง Sales กับ Marketing หรือยังเอ่ย ? สำหรับที่กำลังมองหางานอยู่นั้น และสนใจในตำแหน่งนี้ อันดับแรกเลยก็คือต้องสำรวจตัวเองก่อนค่ะว่า มีคุณสมบัติด้านใดบ้าง และตนเองเหมาะที่จะทำงาน แบบไหนมากกว่ากัน ระหว่าง Sales กับ Marketing

ถ้าชอบการทำงานที่ต้องติดต่อกับผู้คน ได้ออกไปหาประสบการณ์ใหม่ๆ ไม่ชอบหยุดนิ่ง ตำแหน่ง Sales เป็นตำแหน่งที่เหมาะกับคุณแน่นอน แต่สำหรับผู้ที่ชอบการวางแผน คิดวิเคราะห์ และใช้ความคิดสร้างสรรค์เป็นหลัก เห็นทีว่างานสาย Marketing น่าจะเหมาะกับคุณมากกว่า แต่ไม่ว่าจะเป็น Sales หรือ Marketing นั้นก็ล้วนแล้วแต่มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันไป ดังนั้นเลือกงานที่ตรงกับตัวเองจะดีกว่า จะได้ทำงานอย่างมีความสุข และสามารถใช้ความสามารถของตัวเองได้อย่างเต็มที่ ถ้าทำงานได้ดีก็มีโอกาสก้าวหน้าในหน้าที่การงานมากขึ้นนั่นเอง