บัตรเครดิต ใช้เป็นย่อมเกิดประโยชน์กับผู้ถือบัตรเครดิต ใช้ไม่เป็นย่อมนำความเดือดร้อนมาสู่ตนเอง ทุกคนเข้าใจดีถึงข้อผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นจากการใช้บัตรเครดิตอย่างขาดวินัยหรือขาดสติ แต่ปล่อยปะละเลยจนกลายเป็นหนี้ก้อนโต จึงค่อยมารู้สึกว่าตนเองกำลังตกหลุมพรางจากการใช้บัตรเครดิตอย่างไม่ระมัดระวัง
ในหลายๆบทความที่ทาง moneyhub.in.th ได้กล่าวถึงเทคนิคการใช้บัตรเครดิตอย่างไรไม่ให้เป็นหนี้ แต่สิ่งที่จะนำเสนอต่อไปในเนื้อหานี้จะเป็นการกล่าวเสริมในแง่มุมของสัญญาณที่กำลังเตือนว่าคุณกำลังจะก่อหนี้ก้อนโตจากการใช้บัตรเครดิต
การใช้บัตรเครดิต ทุกคนนั้นทราบถึงวิธีการใช้เป็นอย่างดี แต่ยังขาดความเข้าใจถึงวิธีการใช้อย่างไรให้ปลอดภัยจากการเป็นหนี้ ซึ่ง 4 สัญญาณต่อไปนี้ จะมาเตือนคุณ ถ้าคุณกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ต่อไปนี้ให้ทำการหักบัตรเครดิตทิ้งซะ หรือยกเลิกการใช้บัตรเครดิตไปเลย
หักบัตรเครดิตทิ้งถ้ามี 4 สัญญาณเตือนต่อไปนี้
- เริ่มชำระค่าบัตรเครดิตแบบขั้นตํ่า สัญญาณแรกที่กำลังแสดงว่าคุณกำลังจะก่อหนี้บัตรเครดิต คือ คุณเริ่มที่จะชำระค่าบัตรเครดิตแบบขั้นตํ่าติดต่อกันหลายเดือน แม้ว่าสถาบันการเงินจะอนุญาตให้คุณสามารถทำการชำระขั้นตํ่าได้ แต่ถ้าคุณเริ่มต้นชำระขั้นตํ่าดอกเบี้ยจากเงินต้นที่คุณค้างชำระจะถูกนำมารวมในรอบบิลถัดไปและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเมื่อคุณทำการชำระแบบขั้นตํ่าติดต่อกันหลายเดือน แน่นอนว่ายิ่งปล่อยไว้นานเท่าไหร่ดอกเบี้ยก็จะเพิ่มขึ้น แม้ว่าในเดือนถัดไปคุณจะสามารถชำระได้แบบเต็มจำนวนแต่ก็ยังคงมีดอกเบี้ยที่ต้องชำระเพิ่มเข้าไปอีก สัญญาณแรกถือเป็นการเตือนว่าคุณกำลังใช้บัตรเครดิตอย่างประมาท
- กดเงินสดจากบัตรเครดิต
เมื่อเงินสดคุณมีไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในเดือนๆนั้น หรือมีค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้ แต่คุณไม่มีเงินสดเลย ทางออกคือ การกดเงินสดจากบัตรเครดิต แน่นอนว่าสถาบันการเงินผู้ออกบัตรเครดิตจะยินดีให้คุณกดเงินสดจากบัตรเครดิตได้ แต่คุณกำลังใช้บัตรเครดิตผิดวัตถุประสงค์ เพราะเมื่อคุณทำการกดเงินสดจากบัตรเครดิตออกมา จะมีการคิดค่าธรรมเนียมทันทีจากการกดเงินสดออกมา และหนําซํ้าดอกเบี้ยจากการกดเงินสดจะสูงถึง 28% ต่อปี จะถูกทำการคิดตั้งแต่วันแรกที่ได้กดเงินสดออกมา วิธีการกดเงินสดจากบัตรเครดิตไม่ได้ช่วยให้ปัญหาที่เกิดขึ้นของคุณคลี่คลาย แต่คุณกำลังสร้างหนี้อีกก้อนหนึ่งโดยความประมาท ดังนั้นก่อนที่จะทำการกดเงินสดจากบัตรเครดิตควรไตร่ตรองถึงผลที่จะตามมาจากดอกเบี้ยที่เกิดขึ้น และคุณต้องตระหนักด้วยว่า การที่คุณกดเงินสดออกมาจากบัตรเครดิต คุณมีเงินที่จะไปชำระคืนหรือไม่ เพราะแค่เงินสดในตอนนี้คุณยังไม่มีเลย ดังนั้นอย่ากดเงินสดจากบัตรเครดิตเด็ดขาด
- ใช้บัตรชำระค่าสินค้าทุกครั้ง
บัตรเครดิตแม้ว่าจะถูกออกแบบมาให้ใช้สำหรับชำระค่าสินค้าและบริการได้ แต่หากการใช้บัตรเครดิตเพื่อชำระค่าสินค้าหรือบริการในยอดเงินที่น้อยก็เสี่ยงที่จะมียอดสะสมที่ต้องชำระสูง หลายคนมักจะใช้บัตรเครดิตชำระสินค้าเพียงแค่หลักร้อยบาทหรือสองร้อยบาท ดังนั้นการใช้บัตรเครดิตควรที่จะใช้เมื่อจำเป็น หรือใช้จ่ายบัตรเมื่อราคาสินค้านั้นมีราคาสูงเกินกว่าเงินสดที่มีอยู่ในกระเป๋าสตางค์
- ชำระค่าบัตรเครดิตล่าช้ากว่าที่กำหนด
สัญญาณสุดท้ายที่จะเตือนว่าคุณควรจะเลิกใช้บัตรเครดิต คือเมื่อคุณเริ่มที่จะชำระค่าบัตรเครดิตล่าช้ากว่าวันที่กำหนดชำระ จะด้วยเหตุใดก็ตาม เมื่อคุณเริ่มผิดนัดชำระ ดอกเบี้ยจากการผิดนัดชำระก็จะเริ่มต้นคำนวณ และคุณจะต้องชำระยอดคงค้างพร้อมกับดอกเบี้ย
จาก 4 สัญญาณที่กล่าวมานั้น เป็นสิ่งที่ผู้ถือบัตรเครดิตควรจะต้องตระหนักไว้ว่าหากเข้าข่ายข้อใดข้อหนึ่ง นั้นหมายความว่าคุณกำลังจะตกหลุมของหนี้บัตรเครดิตแบบเริ่มต้นและหากถลำลึกมากขึ้นหนี้ที่คุณก่อไว้ก็จะมีก้อนโตมากขึ้นๆ ดังนั้นก่อนที่คุณจะทำบัตรเครดิตหรือในขณะที่คุณมีบัตรเครดิตแล้วควรจะระมัดระวังในการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต ควรที่จะกำหนดวงเงินการใช้จ่ายในแต่ละเดือนว่าไม่ควรเกินเท่าไหร่ โดยตั้งวงเงินจากเงินเดือนที่คุณมี เช่น คุณมีเงินเดือน 1,000 บาท หักค่าใช้จ่ายทั้งหมดเหลือ 400 บาท ให้กำหนดวงเงินที่จะใช้จากเงินที่เหลือในแต่ละเดือน อาจจะทำการกำหนด 200 บาทสำหรับการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต และ 100 บาทเป็นค่าใช้จ่ายประจำวัน อีก 100 บาทที่เหลือเก็บไว้ออม เป็นต้น หากคุณสามารถบริหารจัดการด้านการเงินได้อย่างนี้ รับรองว่าการใช้บัตรเครดิตของคุณจะไม่มีปัญหาติดขัดเลย
>>>อย่าคลิ๊กถ้าคุณไม่อยากได้บัตรเครดิตคลิ๊ก>>>
สนใจสมัครบัตรเครดิต KTC สมัครโดยตรงกับธนาคาร