ลูกจ้างชั่วคราว หมายถึงลูกจ้างที่บริษัทหรือองค์กรจ้างไว้เพื่อปฏิบัติงานเป็นการชั่วคราว มีทั้งที่เป็นการจ้างงานแบบรายชั่วโมง รายวัน รายเดือน รายปี หรือทำสัญญาจ้างภายในช่วงระยะเวลาหนึ่งๆ
ทั้งนี้ ในปัจจุบันองค์กรภาครัฐ ตลอดจนถึงภาคเอกชนต่างก็มีอัตราการจ้างงานประเภทลูกจ้างชั่วคราวแทบทั้งสิ้น ซึ่งต่างก็ล้วนมีเงื่อนไขหรือสัญญาการจ้างที่แตกต่างกันไป วันนี้ ข้อมูลดีๆที่นำมาแบ่งปันได้แก่เรื่องของสวัสดิการที่ลูกจ้างชั่วคราวจากแต่ละองค์กรจะได้รับ โดยจะแบ่งเป็นออกเป็นลูกจ้างชั่วคราวในหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อเปรียบเทียบให้เห็นถึงความแตกต่างของสวัสดิการอย่างชัดเจน สำหรับท่านที่สนใจหรือกำลังสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับลูกจ้างชั่วคราวอยู่ละก็ ขอเชิญไปติดตามรับชมกันเลยครับ
สวัสดิการของลูกจ้างชั่วคราวในหน่วยงานภาครัฐ
ก่อนจะกล่าวถึงสวัสดิการของลูกจ้างชั่วคราวในหน่วยงานภาครัฐ เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน คงจะต้องชี้แจงให้เข้าใจในเบื้องต้นก่อนว่าการจ้างงานของหน่วยงานภาครัฐนั้นจะแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ ลูกจ้างประจำ ลูกจ้างชั่วคราว และพนักงานราชการ ทั้งนี้ ในแต่ละประเภทก็ย่อมจะมีสวัสดิการที่แตกต่างกันไป สำหรับในที่นี้จะกล่าวถึงเฉพาะลูกจ้างชั่วคราว เพื่อเปรียบเทียบให้เห็นว่าการจ้างงานชั่วคราวระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนนั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร
ลูกจ้างชั่วคราวในหน่วยงานภาครัฐ โดยปกติจะได้รับเงินเดือนประมาณ 10000 ไปจนถึง 15000 ในเบื้องต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตั้งงบประมาณของแต่ละหน่วยงาน รวมตลอดจนถึงภาระหน้าที่ซึ่งตัวผู้รับจ้างจะต้องรับผิดชอบ ส่วนสวัสดิการอื่นๆ นั้น แม้จะมีไม่เทียบเท่ากับพนักงานราชการ แต่ก็จัดว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ไม่ว่าจะเป็นสิทธิในการลาป่วย การลาเพื่อคลอดบุตร การลาเพื่อปฏิบัติกิจธุระส่วนตัว การลาเพื่อพักผ่อน เพื่อประกอบพิธีทางศาสนา เพื่อการฝึกอบรม หรือแม้กระทั่งการลาเพื่อไปตรวจเลือกหรือเข้ารับการเตรียมพล (เกณฑ์ทหาร) แต่ทั้งนี้ การอนุมัติจะต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของหัวหน้างาน เพื่อความเหมาะสมโดยไม่ก่อให้เกิดความบกพร่องในหน้าที่ ทั้งยังมีเงื่อนไขเพิ่มเติมบางประการ เช่น จะต้องทำงานมาไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือในกรณีการลาอุปสมบท จะไม่ได้รับค่าแรงเหมือนอย่างพนักงานประจำ เป็นต้น
สวัสดิการของลูกจ้างชั่วคราวในหน่วยงานภาคเอกชน
หากจะถามถึงสวัสดิการของลูกจ้างชั่วคราวในหน่วยงานภาคเอกชน คงจะระบุออกมาอย่างชัดเจนไม่ได้ทีเดียวนัก เนื่องจากองค์กรภาคเอกชน เป็นองค์กรที่มีความหลากหลาย ซึ่งแต่ละองค์กรก็ไม่ได้มีระบบระเบียบในการจ้างงานที่เป็นมาตรฐานเดียวกันเหมือนอย่างหน่วยงานภาครัฐ ข้อมูลต่อจากนี้จึงเป็นเพียงการกล่าวโดยภาพรวมเท่านั้น ส่วนในทางปฏิบัติ แต่ละบริษัทหรือองค์กรจะมีเงื่อนไขรายละเอียดในสัญญาการจ้างงานอย่างไร คงจะเป็นเรื่องที่ต้องศึกษากันไปเป็นรายกรณี
โดยปกตินั้น การจ้างงานชั่วคราวของภาคเอกชนจะจ่ายเงินเดือนเริ่มตั้งแต่ 12000 ไปจนถึง 18000 หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับทักษะความสามารถที่แต่ละองค์กรต้องการ เช่น บางตำแหน่งจำเป็นต้องใช้ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ ทักษาทางด้านภาษา หรือคุณวุฒิทางด้านกฎหมาย ทักษะเฉพาะทางเหล่านี้จะเป็นดัชนีบ่งชี้ว่าค่าตอบแทนที่ได้รับจะมีมากน้อยเพียงใด
การจ้างงานในภาคเอกชนโดยมากจะมีเงื่อนไขที่ค่อนข้างเข้มงวด และเป็นการจ้างเพียงระยะสั้น จึงมีสวัสดิการค่อนข้างน้อย เช่น มีสิทธิลาป่วย หรือลากิจในกรณีจำเป็นเท่านั้น ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะระเบียบการรับสมัครขององค์กรภาคเอกชนไม่ได้ยุ่งยากเสมือนอย่างหน่วยงานภาครัฐ (ที่จะต้องจัดทำเป็นรอบงบประมาณ) จึงสามารถเปิดรับผู้ที่มีความพร้อมเข้ามาทำงานได้โดยอิสระ หากลูกจ้างคนก่อนไม่สามารถปฏิบัติงานตามเงื่อนไข หรือไม่สะดวกในบางช่วงขณะ
สรุปความแตกต่างของสวัสดิการระหว่างลูกจ้างชั่วคราวในหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน
จะเห็นได้ว่า หากนำสวัสดิการมาเปรียบเทียบกันนั้น ลูกจ้างชั่วคราวในหน่วยงานภาคเอกชนจะมีข้อโดดเด่นสูงกว่าในแง่ของรายได้ ซึ่งสามารถเทียบได้กับการเป็นพนักงานประจำของหน่วยงานภาครัฐ แต่ถ้าหากเปรียบเทียบสวัสดิการโดยภาพรวม ลูกจ้างชั่วคราวในหน่วยงานภาครัฐจะค่อนข้างได้รับสิทธิประโยชน์ที่สูงกว่า ด้วยข้อโดดเด่นที่แตกต่างกันนี้ ผู้ที่กำลังตัดสินใจเลือกหาตำแหน่งงานจึงควรใช้เป็นข้อมูลในการพิจารณาอย่างยิ่ง
เป็นลูกจ้างชั่วคราวภาครัฐ กับภาคเอกชน แบบใดดีกว่ากัน
สำหรับคำถามข้อนี้ คงจะต้องให้คำตอบอย่างเป็นกลางว่าขึ้นอยู่กับโอกาส ความสะดวก ความต้องการ และการวางแผนชีวิตในอนาคต การเป็นลูกจ้างชั่วคราวภาคเอกชน มีข้อดีในแง่ที่จะได้รับค่าตอบแทนสูง แต่ด้วยระยะเวลาการจ้างที่สั้นและไม่แน่นอน จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทำงานเพื่อหาประสบการณ์ ในการต่อยอดไปทำสิ่งอื่นๆ หรือสานต่อแผนที่วางไว้แล้วในอนาคต ตัวอย่างเช่น การทำงานระหว่างที่รอศึกษาต่อ หรือการทำงานเพื่อสะสมต้นทุนและประสบการณ์อันเป็นการเตรียมความพร้อมที่จะก้าวไปสู่การเปิดบริษัทหรือสร้างกิจการของตนเองในอนาคต เป็นต้น
ส่วนลูกจ้างชั่วคราวในหน่วยงานภาครัฐ แม้จะได้รับค่าตอบแทนที่ต่ำกว่า แต่ก็มีข้อโดดเด่นในแง่ที่จะได้รับสวัสดิการด้านอื่นๆ มากพอสมควร นอกจากนี้ การทำงานตำแหน่งลูกจ้างชั่วคราวในหน่วยงานภาครัฐ ยังนับเป็นการเพิ่มโอกาสในการบรรจุเข้าเป็นพนักงานหรือข้าราชการประจำภายในหน่วยงานนั้นๆ ให้มีมากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุดังกล่าว จึงนับได้ว่าการเป็นลูกจ้างชั่วคราวในหน่วยงานภาครัฐถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องการต่อยอดไปสู่การเป็นข้าราชการ หรือเติบโตในสายงานราชการ