คนเราก็มีโอกาสที่จะอยู่ในภาวะของการเบื่องานหรือรู้สึกว่าตัวเองหมดไฟ ไม่มีความกระตือรือร้นที่อยากจะทำงาน รู้สึกล่องล่อย ไม่มีจุดหมาย ไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำอยู่นี้ทำไปเพื่ออะไรหรือเพื่อใครกันแน่ อาการแบบนี้จะไม่เกิดกับคนที่เพิ่งเรียนจบทำงานใหม่ ๆ เพราะคนในวัยนั้นถือว่ายังมีไฟ ไฟแรงด้วย เมื่อเริ่มต้นทำงานก็จะสนุก รู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างใหม่ ท้าทายความสามารถของตัวเอง อายุก็ยังน้อยในที่ทำงานจึงมีแต่คนพร้อมสอนงานและให้โอกาสอยู่เสมอ แต่พอทำไปสักพักหลายปี อายุ 30 ทำงานมาแล้วเกือบ 10 ปี หากงานหรือหน้าที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง งานซ้ำซากจำเจ เพื่อนร่วมงานก็กลุ่มเดิม เจ้านายก็คนเดิม ไม่มีอะไรใหม่ ๆ เข้ามา ปัญหาเรื่องงานบางอย่างที่มีก็ไม่เคยได้รับการแก้ไข สถานการณ์แบบนี้เป็นใครก็มีโอกาสที่จะเบื่อ หมดแรง หมดกำลังใจ ไม่มีไฟ อยากจะทำงานอีกต่อไป
อาการเบื่องานหรือหมดไฟที่ว่านี้ที่จริงแล้วเกิดขึ้นได้กับทุกคน เพียงแต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วทุกคนจะหาทางออกอย่างไรกับมันเท่านั้น เพื่อให้เป็นทางออกที่ดีกับชีวิตของเรามากที่สุด ก่อนอื่นเราต้องยอมรับก่อนว่าเรามีอาการอย่างที่ว่าจริง ๆ โดยให้สังเกตตัวเองว่าเราเหนื่อยล้ามากกว่าปกติหรือไม่ ตอนเช้าหากตื่นมาแล้วมีความรู้สึกไม่อยากไปทำงาน อารมณ์ไม่แจ่มใส หงุดหงิดง่าย อ่อนเพลียง่าย เริ่มมองโลกในแง่ร้าย มีทัศนคติที่ไม่ดีต่องานที่ทำอยู่หรือต่อบริษัท ขี้ลืม ขาดสมาธิในการทำงาน ทำงานผิดพลาดบ่อย ๆ รวมถึงความสัมพันธ์กับบุคคลรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นเจ้านาย เพื่อนร่วมงานหรือแม้แต่คนในครอบครัวก็ตาม หากเราเริ่มรู้สึกอยากอยู่คนเดียว ไม่อยากคุยกับใครหรือมีอาการนอนไม่หลับ เครียด กังวลกับงาน แม้ว่าจะเหนื่อยล้า แต่ก็นอนไม่เต็มตา เริ่มรู้สึกว่าชีวิตไม่มีความสุข ไม่มีแรงจูงใจ ไม่มีเป้าหมาย มองไปทางไหนก็เบื่อไปหมด หากมีอาการเหล่านี้ก็แสดงว่าเราน่าจะต้องปรับเปลี่ยนอะไรบางอย่างกับชีวิตของเราแล้ว หากปล่อยให้เกิดอาการเหล่านี้ไปนาน ๆ น่าจะไม่ดีแน่
ความเหนื่อยหรือความเครียดที่สั่งสมกันมามากเกินไปนี้มีผลทำให้คนส่วนใหญ่มีอาการอย่างที่ว่ามาได้ คนทำงานส่วนใหญ่ก็หลีกหนีอาการเครียดจากงานไม่ค่อยพ้น มันต้องมีกันบ้างความเหนื่อยหรือความเครียดนี้ เพียงแต่เราต้องไม่ควรเก็บหรือสั่งสมมันไว้จนมันพอกพูนแล้วทำให้วันหนึ่งเราต้องรู้สึกแย่มาก ๆ ไป เรามาลองดูวิธีที่จะช่วยบรรเทาความเหนื่อยและเครียดจากการทำงาน รวมถึงการสร้างแรงจูงใจใหม่ ๆ เพื่อให้การทำงานนั้นมีชีวิตชีวาและดูมีเป้าหมายขึ้นด้วย
หากิจกรรมอย่างอื่นทำ
เมื่อเสร็จจากงานควรหากิจกรรมอย่างอื่นทำบ้าง เช่น ออกกำลังกาย สังสรรค์กับเพื่อนฝูงบ้าง พาครอบครัวไปทานข้าวนอกบ้าน พาลูกไปสวนสัตว์หรือสวนสนุก ฯลฯ กิจกรรมเหล่านี้จะทำให้เราได้พักจากเรื่องงาน สมองเราจะได้ไม่ต้องคิดวนเวียนอยู่กับเรื่องงาน การร่วมกิจกรรมในงานที่เป็นจิตอาสาของชุมชนก็ช่วยในเรื่องความเครียดได้เช่นกัน เพราะกิจกรรมจิตอาสาจะทำให้เรามีได้ไปเห็นคนที่ด้อยโอกาสหรือมีโอกาสน้อยกว่าเรา เช่น ร่วมกิจกรรมบ้านพักคนชราหรือ ศูนย์ฝึกอาชีพคนตาบอด ฯลฯ ทำให้เรารู้สึกว่าชีวิตของเรามีคุณค่ามากขึ้น ชีวิตของเรานั้นยังดีกว่าอีกหลายคน ถือเป็นแรงจูงใจในอีกทางหนึ่งด้วย
พักผ่อนให้เต็มที่
การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอนั้นมีส่วนอย่างมากในการทำให้ทั้งร่างกายและจิตใจของเราอ่อนเพลีย ไม่สดชื่น ส่งผลทำให้เครียดได้ง่าย หงุดหงิด ทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง ดังนั้น ก่อนที่จะรับมือกับปัญหาอะไรก็ตามที่จะเกิดขึ้น ควรพยายามนอนหลับพักผ่อนให้เต็มที่ เพื่อที่ตื่นเช้าขึ้นมา อารมณ์แจ่มใส สมองปลอดโปร่ง พร้อมจะรับมือกับสิ่งต่าง ๆ ที่เข้ามาในชีวิตในวันใหม่ของเรา บางคนบอกว่าเวลาเครียดแล้วทำให้นอนไม่หลับ การสร้างบรรยากาศในการนอนช่วยได้ ในห้องนอนต้องไม่เปิดโทรทัศน์หรือมีอุปกรณ์จำพวกโทรศัพท์มือถือไว้ ก่อนนอนอาจนั่งสมาธิสัก 5-10 นาที ทำจิตใจให้สงบก่อน เมื่อจะเข้านอนก็ให้ปิดไฟนอน หลับตาเลิกคิดถึงเรื่องทุกอย่าง ลองฝึกแบบนี้ไปเรื่อย ๆ สุดท้ายการนอนหลับก็จะง่ายขึ้น
เลือกงานที่ชอบและใช่
การทำงานที่เราไม่ชอบหรือไม่เหมาะก็มีผลทำให้ขาดแรงจูงใจหรือหมดไฟได้เช่นกัน เพราะเราต้องทนทำสิ่งที่เราไม่ชอบทุกวัน แทนที่จะรู้สึกมีความสุขในการทำงาน กลับรู้สึกเหมือนถูกบังคับเหมือนเป็นหน้าที่ที่ต้องเสียอย่างนั้นหรือบางคนก็ต้องทนทำเพราะเงินหรือรายได้ดี ทำให้เกิดความเครียดพาลกลายเป็นเบื่องานไปได้เช่นกัน คนที่ได้ทำงานที่ตัวเองรักและยังหารายได้จากงานนั้นได้ด้วยก็ถือว่าโชคดีมาก เพราะทุกวันจะเป็นวันที่เรามีความสุข การทำงานก็จะไม่เหมือนกับการทำงานเหมือนเราทำงานอดิเรกอยู่มากกว่า ทุกเช้าตื่นมาเราจะกระตือรือร้นอยากไปทำงาน ถือว่าน่าอิจฉามากเลย หากใครได้เจองานที่ชอบหรือใช่แบบนี้ ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้ทำงานที่ตัวเองถนัดหรือชอบ ก่อนอื่นอยากให้เรามองข้อดีของงานที่เรากำลังทำอยู่ก่อน เชื่อว่าทุกงานก็ต้องมีข้อดีกันอยู่บ้าง หาให้เจอ เช่น งานบางอย่างแม้เราจะไม่ชอบแต่เพื่อนร่วมงานและเจ้านายดีจังเลย ชีวิตนี้ไม่น่าจะได้เจอเจ้านายดี ๆ แบบนี้อีก หรืองานที่ไม่ตรงกับที่เราเรียนมา เราอาจมองว่าเป็นประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่จะได้เรียนรู้หรือต่อยอดหากเรามีโอกาสเปลี่ยนที่ทำงานในอนาคต
หากงานที่ทำอยู่แทบไม่มีอะไรดีเลย ดีอย่างเดียวคือได้เงินดีมากและเราก็ชอบเงินด้วยแต่ไม่ชอบงาน แบบนี้เราต้องเปรียบเทียบแล้วล่ะว่าเราจะให้น้ำหนักกับอะไร ถ้าเราเลือกเงินเราก็ควรเปลี่ยนเงินนั้นให้เป็นแรงจูงใจในการทำงานที่ดีของเราด้วย มีพี่ที่รู้จักกันเขาทำงานมีเงินเดือนสูง แต่งานค่อนข้างหนักที่จริงเขาก็เบื่องานอยู่เหมือนกัน แต่เห็นทำมาได้นานและก็ดูมีความสุขดี เพราะพี่เขาเป็นชอบเที่ยวมาก เดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศทุกปี เขาตั้งเป้าหมายไว้เลยว่าปีนี้จะไปที่ไหน เมื่อได้ไปเที่ยวที่ต้องการแล้วกลับมาก็ต้องทำงานหาเงินเพื่อที่จะเที่ยวใหม่ในปีหน้า การเที่ยวของพี่เขานี่แหละที่เป็นแรงจูงใจให้เขามีไฟในการทำงานต่อไปได้
หากงานที่ทำอยู่ไม่มีอะไรดีเลยจริง ๆ เงินก็ไม่ดีด้วย ลาออกเปลี่ยนงานเถอะ เพราะโลกใบนี้ไม่ได้แคบอยู่แค่เพียงบริษัทที่เราทำงานอยู่เท่านั้น เปิดโลกออกมาเถอะ บางครั้งพอเราหางานทำใหม่ได้เราอาจจะคิดว่าเราไม่น่าทนทำอยู่กับที่เก่านานขนาดนั้น รู้แบบนี้ลาออกมาตั้งนานแล้ว แต่ก่อนที่จะลาออกควรหางานใหม่ให้ได้ก่อน ไม่อย่างนั้นคิดว่าความเครียดน่าจะเพิ่มขึ้น
อ่านเพิ่มเติม : ลอกเปลือก มนุษย์เงินเดือน ข้อคิดก่อนลาออก
ครอบครัวคือแรงจูงใจที่สำคัญที่สุด
ชีวิตของเราไม่ได้มีเพียงแค่เรื่องงานเท่านั้น อย่าให้ทุกวันที่กลับมาบ้านต้องพกงานหรือความเครียดกลับมาด้วย เมื่อเดินก้าวเข้าบ้านควรหยุดเรื่องงานทุกอย่างไว้ พอเปิดประตูให้ยิ้มรับกับคนในครอบครัวต้องอย่าลืมว่าพวกเขาไม่ได้รับรู้เรื่องงานหรือความเครียดไปกับเราด้วย การที่เราเครียดก็จะส่งผลไม่ดีกับบรรยากาศของคนในครอบครัวไปด้วย ในชีวิตของเรานอกจากงานแล้วก็ยังมีครอบครัวที่สุดท้ายแล้ว ก็เป็นครอบครัวนี่แหละที่จะคอยอยู่เคียงข้างเราเสมอ ใช้เวลาช่วงเย็นหรือวันหยุดสุดสัปดาห์กับครอบครัวอย่างมีความสุข หากมีลูกให้มองไปที่ลูก คิดถึงลูกให้มาก มองความสำเร็จของลูกแม้จะเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ก็เป็นแรงใจให้กับเราได้ สิ่งที่เรากำลังทำอยู่ทั้งหมดนั้นก็เพื่อครอบครัว เพื่อลูกของเรา สำหรับพ่อแม่เรา แน่นอนว่าไม่มีใครอยากเห็นลูกเป็นทุกข์ ดังนั้น การที่เราเป็นทุกข์ก็จะทำให้พ่อแม่ของเราไม่สบายใจไปด้วย เราต้องทำให้ชีวิตของเรามีความสุขเพราะคนในครอบครัวเราก็จะมีความสุขไปด้วย