รวยต้น ในที่นี้หมายถึง รวยต้นเดือน เพราะเงินเดือนออกพอดี หลายคนมีรายได้หลายหมื่น บางทีก็เป็นแสนต่อเดือน จนปลาย ในที่นี้หมายถึง จนตอนปลายเดือน เพราะว่า เงินเดือนที่ได้มา ใช้ไปหมดแล้ว หรืออาจเหลืออยู่นิดหน่อย หากใครกำลังตกอยู่ในวังวนแบบนี้ตั้งแต่ต้นปียัน ปลายปี เชื่อได้เลยว่า ปีหน้าฟ้าใหม่ ก็จะยังคงรวยต้น จนปลายอยู่เหมือนเดิม บางทีการที่ไม่อาจหนีจากวังวนนี้ได้เป็นเพราะ อุปนิสัยและความเคยชินเกี่ยวกับการใช้จ่ายเงิน บทความนี้จะชี้ให้เห็นถึงคนที่มีนิสัย 7 อย่างที่บ่งบอกว่า เขามีโอกาสที่จะเป็นคนประเภทรวยต้นเดือน แล้วจนตอนปลายเดือน ดังนี้
1 คิดว่างานประจำทำแล้วมั่นคง
คนที่มีความคิดแบบนี้ มักจะคิดว่า บริษัทหรือนายจ้างของตัวเอง เป็นบริษัทใหญ่ มีชื่อเสียง ไม่มีวันที่จะล้ม หรือปิดกิจการลง เขาจะทำงานไปเรื่อยๆ สิ้นเดือนก็มีเงินเดือน ต้นเดือนก็ใช้จ่ายมือเติบ ไม่ต้องกลัวอะไร เพราะเงินจะมาใหม่ทุกสิ้นเดือนเสมอ เขาจึงไม่มีอาชีพเสริม รอเงินเดือนจากนายจ้างเพียงอย่างเดียว
2 เงินเดือนมาก ก็หาภาระมากมาใส่ตัว
พอเงินเดือนยิ่งสูง เขาก็จะคิดว่า ต้องยกระดับคุณภาพชีวิตและฐานะความเป็นอยู่ให้สูงขึ้นไปด้วย จึงหาซื้อบ้านหลังใหม่ รถยนต์คันใหญ่ ใช้ของที่ดูดีมีราคาแพงขึ้น เงินเดือนที่เพิ่มขึ้น จึงไม่เหลือเก็บ เพราะต้องเอาไปจ่ายในสิ่งที่ใหญ่ขึ้นนั่นเอง
3 คิดแค่วันนี้ ไม่มีเผื่อถึงอนาคต
เป็นคนที่คิดอะไรสั้นๆ อยู่ไปวันๆ ทำงานแล้วกิน แล้วก็ทำงาน แล้วก็เที่ยว โดยไม่ได้คิดถึงตอนที่ตัวเองแก่ตัว ทำงานไม่ได้แล้ว จะเอาเงินที่ไหนมาใช้ หรือถ้าเกิดการถูกเลิกจ้างกะทันหัน ก็จะเดือดร้อน หรือคนชอบผ่อนสินค้า ชอบเป็นหนี้ เอาเงินในอนาคตมาใช้ ก็จะไม่สามารถร่ำรวยขึ้นมาได้
4 จะออมทำไม ยังไม่แก่เลย
เขาคิดว่าเรื่องการออมเงินเป็นเรื่องไกลตัว ตอนนี้อายุยังน้อย กินเที่ยว ใช้ชีวิตให้คุ้มก่อน ออมเงินเอาไว้วันหลัง แต่หารู้ไม่ว่า การออมเงินหากออมเร็วขึ้นกว่าเดิม 5 ปี ผลของการออมเมื่อถึงปลายทางจะต่างกันมาก
5 ไม่มีเป้าหมายหมายทางการเงิน
เขามักใช้ชีวิตไปวันๆ อยากได้อะไรก็ซื้อ ไม่รู้ว่าอะไรจำเป็นมาก จำเป็นน้อย ถ้าเป็นของที่แพงหน่อยก็รอเงินเดือนออก ถ้าแพงมากๆก็รอโบนัสออก ในหัวมีแต่เรื่องอยากได้ของและการใช้เงิน ไม่มีเป้าหมายว่าจะมีเงินเก็บ หรือวางแผนการใช้เงินอย่างไรให้เงินนั้นงอกเงยและกลับมาทำงานให้เรา
6 สร้างหนี้ แต่ไม่รีบใช้หนี้
ทั้งชีวิตวนเวียนอยู่กับการผ่อน ผ่อนรถ ผ่อนบ้าน ผ่อนประกัน ผ่อนโทรศัพท์ ผ่อนบัตรเครดิต คิดว่าเสียดอกเบี้ยเล็กน้อย จ่ายได้ไม่มีปัญหา แต่ไม่ได้คิดว่า ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายหลายปีเข้า ดอกเบี้ยนั้นรวมกันแซงเงินต้นไปแล้ว ก็ยังผ่อนไม่จบไม่สิ้น
7 ไม่เคยทำบัญชีใช้จ่ายส่วนตัว
เมื่อไม่ทำบัญชี ก็ไม่เห็นว่าเงินออกไปในช่องทางไหนบ้าง ค่ากินที่เกินความจำเป็น ก็ไม่รู้ว่ากินบ่อยแค่ไหน ค่าดอกเบี้ยก็ไม่เห็นว่า มันแอบดูดเงินเราออกไปอย่างไร การไม่ได้บันทึก ก็จะทำเป็นลืมๆไป ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น เลยไม่รู้ว่าเงินรั่วไหลไปยังไงบ้าง ก็จะยังคงรั่วไปอย่างเช่นเดิม
ทั้ง 7 นิสัยนี้ ทำให้กลายเป็นคนไม่มีเงินเก็บ และเสพติดวัตถุ อยากได้อะไรก็จะเอาให้ได้ ไม่คิดว่าสิ่งไหนจำเป็น หรืออันไหนแค่อยากได้เฉยๆ ได้มาแล้วบางทียังไม่เคยแกะกล่องเลยด้วยซ้ำ พอเงินออกก็เฮฮา ปาร์ตี้ ตอนมีก็ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ใช้จนหมด ใกล้สิ้นเดือนชีวิตดูเหงาๆหน่อย เพราะเงินเหลือน้อย แต่ไม่เป็นไร ต้นเดือนก็เป็นเศรษฐีอีกรอบ วนเวียนอยู่แบบนี้ หากคิดว่าดี ก็ทำต่อไป แต่โลกนี้อะไรๆก็ไม่แน่นอน หากวันไหนถูกเลิกจ้าง หรือเจ้านายเจ๊งขึ้นมา จะต้องเดือดร้อนแน่ๆ
ทางที่ดี ต้องคิดหรือหาอะไรทำเผื่อไว้ด้วย แนวทางง่ายๆที่จะไม่ทำให้เดือนร้อนตอนถูกเลิกจ้างก็คือ ให้ทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับ 7 นิสัยที่กล่าวข้างต้น โดยหางานที่สองรองรับไว้ หารายได้เสริม เงินเดือนมากขึ้น ก็นำเงินส่วนที่เกินขึ้นมานั้นเก็บสะสมไว้ ไม่ต้องรีบหาภาระอะไรมาใส่ตัว คิดถึงอนาคต อย่าคิดสั้นๆแค่วันนี้ ออมเงินทันทีที่มีงานทำ ยิ่งออมเร็ว ยิ่งรวยเร็วตั้งเป้าหมายการเงินไว้แต่เนิ่นๆ มีหนี้ต้องรีบใช้ อย่าให้ดอกเบี้ยเบ่งบานนานเกินไป และทำบัญชีรายรับรายจ่ายส่วนตัว หากทำได้เช่นนี้ จะเป็นเศรษฐีในอนาคต