หลายคนที่มีหนี้อยู่มีคำถามว่า อยากจะออมเงินทั้งที่มีหนี้อยู่แบบนี้ จะทำได้หรือไม่ ที่จริงแล้วก็ไม่ได้มีกฎอะไรตายตัวที่บอกว่าคนเป็นหนี้จะออมเงินไม่ได้ มันเป็นเรื่องของการวางแผนการเงินและการบริหารเงินของเราเพื่อใช้ในเรื่องต่าง ๆ อย่างเหมาะสม ว่าจะใช้กี่ส่วน จะเก็บกี่ส่วน และจะใช้หนี้กี่ส่วน …คนที่มีหนี้อยู่ แต่อยากออมเงิน อยากให้ลองถามคำถามต่อไปนี้กับตัวเองดูก่อนว่า…
เรามีเงินออมอยู่บ้างหรือยัง
ถ้ามีเงินเท่าไหร่ก็เอาไปจ่ายคืนหนี้หมด ก็คงไม่เหลือเงินไว้ทำอย่างอื่นแน่ ๆ คนเราบางครั้งก็มีเรื่องฉุกเฉินให้ต้องใช้เงิน อาจมีวันใดที่มีใครในครอบครัวเจ็บป่วย หรือ อยู่ดีๆบริษัทอาจเลิกจ้างเราขึ้นมา ถ้าไม่มีเงินเหลือไว้ใช้บ้างเลย ก็ลำบากแน่ ๆ ตามตำราเขาบอกไว้ว่าคนเราควรมีเงินออมไว้เผื่อใช้ในยามฉุกเฉินแบบนี้ ประมาณ 6 เท่าของรายได้ปัจจุบันของเรา สูตรนี้ก็มีที่มาจากว่าถ้าเราตกงานไม่มีงานทำ อย่างน้อยเงินจำนวนนี้ก็จะช่วยให้เราอยู่ได้อีกอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เราน่าจะหางานใหม่ได้ ถ้าเก็บมากขนาด 6 เท่าของเงินเดือนไม่ได้ อย่างน้อยก็ต้องมี 1-2 เท่าของเงินเดือนไว้ให้อุ่นใจ
หนี้ที่มีเป็นหนี้ระยะสั้นหรือหนี้ระยะยาว
ก่อนที่เราจะอยากเก็บออมเงิน ทั้ง ๆ ที่ยังมีหนี้อยู่ เราต้องหันมาดูก่อนว่าหนี้ของเราเป็นหนี้ระยะสั้น ที่เหลือเวลาจ่ายอีกแค่ไม่นานนักก็จะหมดแล้วหรือเป็นหนี้ระยะยาวที่มีระยะเวลาอีกยาวไกลกว่าจะจ่ายหนี้ได้หมด เช่น ถ้าเป็นหนี้บ้านที่ต้องผ่อนอีก 30 ปีกว่าหมด กว่าจะรอให้หนี้หมดค่อยออมเงิน คงไม่ต้องมีเงินเก็บกับเขาเสียทีแน่ๆ เราก็ออมเงินไปพร้อม ๆ กับการจ่ายคืนหนี้บ้านไปด้วยก็ได้ ก่อนเลือกโปรแกรมผ่อนบ้าน ควรเลือกผ่อนค่างวดที่เราสามารถผ่อนแบบสบาย ๆ ไม่หนักจนเกินไป ให้เรามีเงินเหลือพอที่จะใช้จ่ายหรือทำอะไรอย่างอื่นได้ด้วย แต่ถ้าเป็นหนี้ระยะสั้นหรือหนี้ที่เหลือเวลาผ่อนไม่นานนัก ก็คงไม่ได้ผลอะไรกับเรื่องว่าเราจะเริ่มออมทันทีหรือจะรออีกสักหน่อย
หนี้ที่มีดอกเบี้ยเท่าไหร่
หลักการง่าย ๆ ก็คือหนี้คิดดอกเบี้ย 10% ต่อปี แต่เงินออมให้ดอกเบี้ย 2% ต่อปี เราควรเอาเงินไปจ่ายหนี้ก่อน ยิ่งถ้าหนี้ที่มีเป็นหนี้บัตรเครดิต หนี้บัตรกดเงินสดหรือหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลที่มีอัตราดอกเบี้ยต่อปีสูงเกินกว่า 20% แล้วล่ะก็ อย่าเพิ่งคิดถึงเรื่องการออมเงิน แต่ควรที่จะชำระคืนหนี้พวกนี้หมดให้เร็วที่สุดจะดีกว่าค่ะ ดอกเบี้ยหรือผลตอบแทนที่เราจะได้จากการออมเงิน ฝากเงิน หรือลงทุนในอะไรก็ตาม คงจะหายากมากที่จะได้ดอกเบี้ยสูงเท่ากับดอกเบี้ยของบัตรเครดิตหรือบัตรกดเงินสดพวกนี้แน่ ๆ การเอาเงินไปออมแทนที่จะรีบมาคืนหนี้จึงเป็นเรื่องที่ดูจะไม่คุ้มกันเลย
คำถามเหล่านี้จะทำให้เรารู้ได้เองว่าเราควรรีบจ่ายหนี้ให้หมดก่อน หรือว่าเราออมเงินไปด้วยได้เลย หลายคนเมื่อหันมาสำรวจตัวเองแล้วพบว่าหนี้ที่ตนมีอยู่นั้นคิดดอกเบี้ยสูงมาก แล้วลำพังแต่ละเดือนจะหาเงินมาใช้หนี้ก็แทบจะไม่พออยู่แล้ว แต่ก็ยังแอบอยากมีเงินออมกับเขาบ้าง ที่จริงก็ไม่ได้ผิด คนเราก็มีสิทธิ์จะคิดได้ ถ้าเราอยากมีเงินออมเร็ว ๆ สิ่งที่พอจะทำได้ก็คือ
หาแหล่งเงินกู้ใหม่ที่ดอกเบี้ยถูกลง หรือ รีไฟแนนซ์นั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นเงินกู้บ้าน หรือเงินกู้ประเภทอื่น ๆ ถ้ามีแหล่งเงินที่ให้ดอกเบี้ยถูกกว่า ค่าใช้จ่ายในการปิดหนี้ไม่ได้สูงจนไม่คุ้มที่จะรีไฟแนนซ์ ก็ลองพิจารณาดูได้ เมื่อเงินที่ต้องผ่อนต่อเดือนลดลง เราก็จะเหลือเงินที่จะไปเก็บออมเพิ่มขึ้นได้
ออม/ลงทุน พร้อมกับลดหย่อนภาษี ถ้าเราดูเฉพาะผลตอบแทนที่ได้จากการลงทุน LTF/RMF หรือซื้อประกันชีวิต เราอาจรู้สึกว่ามันก็ไม่ได้เยอะพอ แต่เราอาจลืมนึกถึงการประหยัดภาษีเงินได้ เมื่อนำมารวมกันแล้ว ผลตอบแทนอาจดูคุ้มค่าที่จะเลือกออมหรือลงทุนก็ได้ บางคนก็ใช้สูตรเลือกนำยอดรายได้ที่ต้องเสียภาษีเงินได้ในอัตราสูงสุดไปลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษี เช่น สมมติขั้นบันไดสูงสุดที่เราต้องเสียภาษีอยู่ที่ 20% มียอดรายได้ที่ต้องเสียที่ 50,000 บาท ก็เลือกซื้อ LTF หรือประกันชีวิต เพื่อให้ประหยัดภาษีไปได้ 10,000 บาท
หารายได้เพิ่ม อีกวิธีที่จะทำให้ออมเงินได้ไปพร้อม ๆ กับการมีหนี้ ก็คือเราต้องหาเงินมาเพิ่มให้ได้ ด้วยการทำงานให้มากขึ้น หาช่องทางที่เป็นอาชีพเสริมหลังเลิกงาน หรือวันหยุด ก็จะช่วยให้เรามีเงินเพื่อไปออมโดยที่ยังสามารถใช้หนี้ไปด้วยได้
ใช้สูตร 1:2:7 จากรายได้ 10 ส่วนให้เราจัดสรร โดยเก็บออม 1 ส่วน อีก 2 ส่วนนำไปใช้หนี้ 7 ส่วนสุดท้ายเก็บไว้ใช้จ่าย ถ้าอยากออมทั้งที่มีหนี้ก็ต้องบริหารรายได้เป็นส่วน ๆ ให้ได้ตามนี้ สัดส่วนนี้เปลี่ยนแปลงให้เหมาะสมได้ เช่น บางคนอาจอยากจ่ายหนี้มากหน่อยจะได้หมดเร็ว ก็เลือกวิธีประหยัดค่าใช้จ่าย สูตรก็จะเป็น 1:4:5 แบบนี้ก็ปลอดหนี้ไวขึ้น
เห็นไหมคะ เราไม่จำเป็นต้องเอาเงินทุกบาททุกสตางค์ไปจ่ายหนี้จนหมดไม่เหลือที่จะทำอะไร ชีวิตต้องดำเนินต่อไป ต้องมีค่าใช้จ่าย ต้องมีการลงทุน ต้องมีการออมเงิน เลือกวางแผนบริหารจัดสรรเงินรายได้ให้ดี แล้วชีวิตก็จะมีความสุข สำคัญที่เป็นหนี้แล้วต้องไม่ก่อหนี้เพิ่มจนดอกเบี้ยทบเป็นหนี้ก้อนใหญ่ที่จ่ายไม่ไหว เพราะถ้าต้องเจอกับสถานการณ์แบบนั้นเมื่อไหร่ ก็แทบไม่ต้องคิดถึงคำว่าออมเงินเลยค่ะ