มีคนมากมายที่มักจะนั่งนึกอยู่เสมอว่าเมื่อไหร่เราจะมีเงินหรือเมื่อไหร่เราจะรวยกับเขาเสียที หันไปมองทางไหนก็เห็นมีแต่คนมีเงินกันทั้งนั้น เพื่อนร่วมงานนั่งโต๊ะข้าง ๆ ใส่ชุดใหม่ตลอด นัดทานกลางวันกับเพื่อนต่างแผนกเธอใส่รองเท้าคู่ใหม่มาอวดอีกแล้ว ครอบครัวเจ้านายก็ไปทานแต่ร้านอาหารดีๆ บ่อย ๆ ถามว่ารู้ได้อย่างไร ก็เจ้านายไปไหนมาไหนเธอจะอัพเฟซตลอดสิ หาทางบำบัดจิตไปหาของอร่อยทานคลายเครียดดีกว่า
อ่านเพิ่มเติม : 8 พฤติกรรมที่ทำให้มนุษย์เงินเดือน เก็บเงินไม่ได้
ถ้าเราทำงานมาได้สักพักแต่ก็ยังรู้สึกว่าไม่ได้มีเงินเก็บหรือร่ำรวยขึ้นมากับเขาบ้างเลย ชีวิตกับเงินก็เหมือนเดิมเมื่อตอนเพิ่งเริ่มทำงานใหม่ ๆ ไม่เห็นจะแตกต่างกัน ถ้าเป็นแบบนั้นอยากให้เราลองหันมามองพฤติกรรมในการใช้เงินของตัวเราเองก่อนเลยว่า พฤติกรรมนั้นนำพาความจนมาสู่ชีวิตเราหรือไม่ ลองมองดูแล้วทบทวนแบบไม่หลอกตัวเองนะ
- ซื้อของ…เดี๋ยวนี้ ออมเงิน…เดี๋ยวก่อน
นี่เป็นพฤติกรรมที่จะนำพาเราไปสู่ความจนอย่างแท้จริงหากเราไม่รีบเปลี่ยน เมื่อไหร่ที่เราเห็นอะไรที่เราอยากได้ เราไม่เคยรู้จักยับยั้งชั่งใจหรืออาจทำไม่ได้เพราะไม่เคยฝึก จะต้องซื้อเดี๋ยวนี้เท่านั้น ไม่อย่างนั้นไม่สบายใจ นอนไม่หลับ เงินเดือนยังไม่ออกก็เอาบัตรเครดิตรูดก่อน คิดซะว่าอีกไม่กี่วันเงินเดือนก็ออกแล้ว แต่พอพูดถึงเรื่องการออมเงินแล้วล่ะก็ เราไม่เคยรู้สึกว่าพร้อมสักที อ้างเรื่องเงินเดือนน้อยไม่พอใช้ อ้างเรื่องต้องให้เงินพ่อแม่ อ้างเรื่องค่าใช้จ่ายที่มากมาย และใช้คำว่าเดี๋ยวก่อนตั้งแต่เริ่มทำงานจนตอนนี้ทำงานปาเข้าไปเกือบ 10 ปีแล้ว ยังไม่เริ่มออมเงินกันเลย
- ไม่เคยตกเทรนด์เทคโนโลยี
คนเราจำเป็นต้องก้าวให้ทันกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ นี่ก็ใช่ไม่มีใครเถียง แต่ที่ต้องเปลี่ยนสมาร์ทโฟนทุกรุ่นที่ออกมาใหม่แบบนี้ก็เรียกว่าไม่ไหว มันเกินไปหรือเปล่า ราคามือถือสมาร์ทโฟนสมัยนี้ยังแพงกว่าคอมพิวเตอร์ บางรุ่นแพงกว่าทีวีจอใหญ่เสียอีก บางคนซื้อสมาร์ทโฟนในราคาเท่ากับเงินเดือนของตัวเองทั้งเดือนได้แบบง่าย ๆ ทั้งที่เครื่องเก่าก็ใช้ได้ดีอยู่ เพียงแต่ไม่ใช่รุ่นใหม่ล่าสุดเท่านั้น ที่จริงแล้วสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊กมีอายุการใช้งานที่ยาวนานคุ้มค่า หากเราใช้ด้วยความใส่ใจระมัดระวังบางคนใช้ได้เกือบสิบปีก็มี แต่ของเราไม่ต้องให้ถึงขนาดนั้น เอาแค่ไม่ต้องเปลี่ยนทุกครั้งที่มีรุ่นใหม่ออกมา เพราะหากทำแบบนั้นความจนก็จะถามหาอย่างแน่นอน
- ใช้ชีวิตเหมือนวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายของชีวิต
หลายคนไม่เคยนึกถึงอนาคตเพราะคิดว่าอนาคตไม่แน่นอน อย่างไรก็ขอหาความสุขในวันนี้ไว้ก่อนจะดีกว่า บางคนคิดว่าถ้าเราไม่กินไม่ใช้วันนี้ ถ้าวันข้างหน้าตกงานหรือจนขึ้นมาแล้วเราคงหมดโอกาสที่จะได้กินได้ใช้แน่ แบบนี้ไม่ได้เรียกว่าเป็นพฤติกรรมที่จะนำพาชีวิตไปสู่ความจนเท่านั้น แต่มันมีรากเหง้ามาตั้งแต่ความคิดเลยทีเดียว เป็นความคิดที่ไม่มองเผื่อไปยังอนาคต ไม่รู้จักเฉลี่ยความทุกข์ เฉลี่ยความสุขให้มันเสมอกันตลอดชีวิตของเรา วันนี้เราอาจมีความสุขแบบสุดขั้วเพราะเรามี แต่ถ้าเราไม่รู้จักเก็บวันหน้าเราก็อาจจะมีความทุกข์แบบสุดขั้วก็ได้ ถ้าเรารู้จักเก็บออมก็จึงเป็นเหมือนกับการเฉลี่ยความสุขของเราในวันนี้ไปในวันข้างหน้า หากอนาคตเราดีขึ้นก็ยิ่งดี แต่หากอนาคตเรามีปัญหาเราก็ยังเหลือความสุขที่เราเฉลี่ยมาในตอนที่เรามี
- เดือนหนึ่งจ่ายอะไรไปบ้างไม่เคยรู้
พฤติกรรมแบบที่เรียกว่าไม่มีการวางแผนทางการเงิน ไม่เคยมีบัญชีรายรับรายจ่ายเป็นพฤติกรรมที่จะทำให้เรามีโอกาสรวยได้ยาก เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่าเราใช้จ่ายอะไรออกไปบ้าง จำเป็นหรือไม่เป็นจำเป็นอย่างไร รู้แค่อย่างเดียวคือรายได้เราไม่เคยพอ ต้องชักของเดือนหน้ามาใช้ก่อนตลอดเวลา การจดบันทึกรายจ่ายจะทำให้เราได้มีโอกาสทบทวนว่าเราใช้เงินกับอะไรมากเกินจำเป็นหรือไม่ ถ้าไม่จดก็ไม่มีให้ดูและก็ไม่เคยจะรู้ว่าเงินของเรามันหายไปไหนจนหมดทุกเดือน
- คลายเครียดตลอด
ลองทบทวนดูว่าเรามักจะหาเรื่องคลายเครียดตลอดเวลาเลยหรือไม่ อะไรจะต้องเครียดกันทุกวันขนาดนั้น เอะอะเครียดก็ต้องบำบัดหาของอร่อยทาน เอะอะเครียดก็ต้องบำบัดหาซื้อของชิ้นใหม่เพื่อให้หายเครียด ถ้าเราเป็นคนเครียดง่ายก็จำเป็นที่เราจะต้องหาวิธีคลายเครียดที่ไม่สิ้นเปลือง อย่างการทานอาหารตามภัตตาคารหรูหรือซื้อของสวยงามเพื่อให้ตัวเองหายเครียดถ้าทำแบบนั้นตลอดก็รับรองลุ้นรวยไม่ขึ้น ลองหาเวลาไปเดินหรือวิ่งที่สวนสาธารณะ การออกกำลังกายช่วยให้ร่างกายเกิดการกระตุ้นและหลั่งสารเอ็นโดรฟิน หรือสารแห่งความสุขออกมา ช่วยให้เราหายเครียดได้เหมือนกันค่ะ หรือเลือกอยู่บ้านหาซื้อกับข้าวมานั่งทานในบ้าน เปิดซีรี่ส์เรื่องโปรดดูไปด้วย หายเครียดได้เหมือนกันค่ะ ในเมื่อห้ามไม่ให้เครียดไม่ได้ ก็ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการจัดการกับความเครียดใหม่ ๆ แบบประหยัดดีกว่านะ
- คิดแต่อยากรวย แต่ไม่เคยลงมือทำอะไร
บางคนมีความคิดดีนะที่อยากจะทำอะไรต่อมิอะไรมากมายเพื่อให้ตัวเองมีรายได้เพิ่มขึ้น แต่ก็ได้แต่คิดไม่เคยลองหรือลงมือทำเสียทีจนเพื่อนคนอื่น ๆ เขาลงมือทำมีเงินมีทองร่ำรวยกันไปหมดแล้ว เราก็ยังนั่งคิดอยู่ว่าเราจะทำอะไรดีเพื่อให้หลีกหนีจากความจน
ถ้าเรามั่นใจในความคิดของเราก็ขอให้ลองลงมือทำดู ไม่มีใครที่ประสบความสำเร็จหรือร่ำรวยขึ้นมาโดยที่ไม่เคยล้มเหลวมาก่อน
หลังจากลองมองและทบทวนตัวเองแล้วว่าเราอาจจะเป็นผู้หนึ่งที่มีพฤติกรรมตามที่ว่ามาข้างต้น ก็แสดงว่าเหตุผลที่เรายังไม่ก้าวไปถึงจุดไหนก็เป็นเพราะพฤติกรรมเหล่านี้ของเรานั่นแหละที่ทำให้เราหยุดอยู่กับที่หรือถอยหลังไปเข้าใกล้กับความจนทุกขณะ ลองคิด ทบทวนและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเราดู เราอาจมีเงินเหลือเก็บออมและนำไปลงทุนได้มากขึ้น ถือเป็นการเฉลี่ยทุกข์เฉลี่ยสุขเพื่อให้วันข้างหน้าชีวิตของเราไม่ต้องลำบาก