ในช่วงปีหลัง ๆ มานี้ โดยเฉพาะในปีปัจจุบัน พ.ศ. 2559 คงจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า สภาพเศรษฐกิจของประเทศไทยกำลังเข้าสู่สภาวะทิ้งตัว สาเหตุนั้นคงไม่ต้องพูดถึง กว่า 60% เกิดจากสภาพทางการเมืองที่ไม่มั่นคง
สภาพทางเศรษฐกิจของไทย ยังอยู่ในสภาพที่เป็นลูกผีลูกคนอยู่ คือ จะเจริญรุ่งเรืองก็ไม่ใช่ พังพินาศจนเจ๊งกันเป็นแถบ ๆ ก็ไม่เชิง เพียงแต่สิ่งที่เกิดขึ้น ก็คือ ความเงียบงัน กราฟทางเศรษฐกิจมีลักษณะเป็นเส้นตรง ค่อนไปทางค่อย ๆ ลง สักประเดี๋ยวก็ค่อย ๆ ขึ้น ด้วยเหตุนี้ ใครหลายคนจึงเริ่มออกมาบ่นกัน ว่าช่วงนี้เศรษฐกิจของไทยเงียบมาก ตลาดแรงงานก็ซบเซา จนเรียกได้ว่า อย่าหวังจะลาออกจากงานเดิม แล้วมาแสวงหางานใหม่ที่ดีกว่า ให้เงินเยอะกว่าในช่วงนี้เลย เพราะมันมีน้อยมาก จนเกือบจะหาไม่ได้เลย
ตัวอย่างเสียงโอดครวญจากสมาชิกในเว็บไซต์ที่เราสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรม ก็อย่างเช่นในเว็บไซต์ www.pantip.com มีกระทู้ที่เกี่ยวกับสภาพทางเศรษฐกิจที่ซบเบาผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด ดังเช่นกระทู้นี้ ที่ถูกตั้งโดยสมาชิกของเว็บที่มีนามแฝงว่า neopaint2005 มีเนื้อหาว่า
เศรษฐกิจของไทยนั้นซบเบามาตั้งแต่ราวปีที่แล้ว และยังไม่มีสัญญาณใด ๆ ที่จะบ่งชี้ได้ว่า สภาพทางเศรษฐกิจในปี 2559 นี้ จะดีขึ้น เพราะฉะนั้นเราต้องหาทางพยุงตัวเองเอาไว้ให้ได้มากที่สุด หากมีงานอยู่แล้ว ก็อย่าตกงานและควรใช้จ่ายอย่างประมาณตน อย่ากินอย่างพระราชา อยู่อย่างพระราชา ซึ่งในกระทู้นี้ก็มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย นอกจากจะมาขอบคุณเจ้าของกระทู้แล้ว ก็ยังลงความเห็นต่อไปว่า เศรษฐกิจในปีนี้ ดูมีแนวโน้มที่จะค่อย ๆ กระเตื้องขึ้น ที่ดินเริ่มมีราคาสูงขึ้น แต่ก็คงต้องใช้เวลาพอสมควรจึงจะกลับมาดีเหมือนกับตอนปี 2556
กระทู้ต่อมาที่เกี่ยวกับเรื่องภาวะทางเศรษฐกิจในปี 2559 เป็นกระทู้ที่ตั้งโดยผู้ใช้ชื่อว่า สมาชิกหมายเลข 722774 โดยเจ้าของกระทู้ได้มาตั้งถามสมาชิกคนอื่น ๆ ว่า
เศรษฐกิจมีแนวโน้มจะกระเตื้องขึ้นบ้างหรือไม่ พร้อมกับโอดครวญว่า ตอนนี้การค้าขายของเธอซบเซาอย่างหนัก ไหนจะค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่พร้อมจะดึงเงินออกไปจากกระเป๋าได้ทุกเมื่อ ทุกวันนี้แทบจะต้องเฉือนเนื้อของตัวเองออกมากินแล้ว ซึ่งก็มีผู้มาแสดงความเห็นใจและให้กำลังใจเจ้าของกระทู้กันเป็นจำนวนมาก รวมทั้งยังกล่าวถึงเศรษฐกิจในปีก่อน ๆ ว่ามันก็แย่มานานพอสมควรแล้ว ไม่ใช่แค่ในเมืองไทย ที่ต่างประเทศเองก็แย่ไม่ต่างกัน คงจะต้องใช้เวลาสัก 3-5 ปี จึงจะทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวและกลับมาดีดังเดิมได้
อีกกระทู้หนึ่งซึ่งเป็นเสียงโอดครวญจากพ่อค้าที่ได้รับผลจากภาวะทางเศรษฐกิจ เป็นกระทู้ที่ตั้งโดยผู้ใช้ชื่อว่า สมาชิกหมายเลข 3038529 ว่า
ตนเองเปิดร้านขายเครื่องดื่มอยู่ ปีก่อน ๆ เคยขายได้วันละเกือบหมื่น แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเศรษฐกิจจะซบเบาลง ขายของไม่ค่อยได้เหมือนเดิม แม้จะใช้มาตรการลด แลก แจก แถม ก็ยังไม่ช่วยมากนัก ซึ่งก็มีผู้เข้ามาตอบเป็นจำนวนมาก บางคนก็เข้ามาให้กำลังใจ แต่ผู้เข้ามาตอบกระทู้ไม่น้อย ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ตอนนี้เศรษฐกิจของไทยก็เริ่มกระเตื้องขึ้นมาบ้างแล้ว ไม่ได้ซบเซามากเหมือนปีก่อน ๆ ที่เห็นได้ชัดเลยก็คือ ปัญหารถติดที่มีมากในปี 2559 นี้ บ่งบอกว่าผู้คนในตอนนี้มีกำลังที่จะขับรถอันใช้พลังงานสิ้นเปลืองไปไหนมาไหนได้ ต่างจากสมัยก่อนที่เศรษฐกิจแย่กว่านี้ แทบจะไม่มีรถยนต์ไปไหนมาไหนเลย เนื่องจากคนในตอนนั้นไม่มีเงินที่จะเอามาเติมน้ำมัน และชี้แจงปัญหาให้เจ้าของกระทู้อ่านว่า บางทีปัญหาการขายซบเซานี้อาจจะมาจากตัวเจ้าของกระทู้เอง ที่ค้าขายแบบไม่ปรับตัวเข้าหาสภาพเศรษฐกิจ เมื่อที่ขายเดิมมีปัญหา เช่น ไม่มีคนเดิน ค่าเช่าแพง ก็ไม่ไปหาที่ใหม่ที่มันดีกว่าเดิมและแนะนำว่า เจ้าของกระทู้ควรจะปรับตัวด้วย อย่าค้าขายแบบเดิม ใช้วิธีเดิม ๆ เพราะอาจจะเจ๊งได้
ทั้ง 3 กระทู้ที่ยกตัวอย่างมานี้ เป็นตัวอย่างกระทู้ที่ตั้งขึ้นโดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับสภาพทางเศรษฐกิจในปี 2559 ว่ามีแนวโน้มอย่างไร หลังจากที่ได้อ่านกระทู้เหล่านี้แล้ว จึงสรุปได้ว่า สภาพทางเศรษฐกิจในปี 2559 นี้ ยังนับว่าซบเซาอยู่ โดยสืบเนื่องมาจากปีก่อน ๆ ที่เศรษฐกิจเข้าขั้นแย่ อย่างไรก็ตาม แนวโน้มทางเศรษฐกิจของไทยในปี 2559 ก็กำลังค่อย ๆ ฟื้นตัวและดีขึ้นเรื่อย ๆ เริ่มมีการลงทุนเพิ่มขึ้น กำลังซื้อและกำลังขายจากปีก่อน ๆ ที่เกือบจะหยุดนิ่ง ก็ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อีกทั้งในปี 2559 นี้ ยังไม่มีปัญหาใดที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนและความเชื่อมั่นมากนัก หากเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อย ๆ เชื่อว่าสภาพทางเศรษฐกิจของไทยในปี 2559-2560 จะต้องอยู่ในระดับที่ดีไม่พังพินาศเหมือนกับช่วงหลาย ๆ ปีที่ผ่านมาอย่างแน่นอน ทั้งนี้ นักลงทุนและประชาชนทุกคนก็ไม่ควรประมาท ขอให้หมั่นเก็บหอม รอมริบเงินของตนเองเอาไว้บ้าง เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเจ็บตัวหากเศรษฐกิจเกิดล้มขึ้นมาอีก เพราะอะไร ๆ ก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น