เมื่อก่อนคนมีเงินนิยมนำเงินไปฝากธนาคารกินดอกเบี้ย ซึ่งไม่ได้มากมายอะไร แต่ก็ต้องทำเพราะไม่มีทางเลือก ไม่มีความรู้ และความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ แต่ตอนนี้ความรู้เรื่องการเงินการลงทุนกระจายออกไปมาก การเข้าถึงแหล่งความรู้ก็ง่ายและรวดเร็วจริงๆ เรื่องการเงินการลงทุนจึงเป็นเรื่องที่ใครๆก็สามารถรับรู้และเรียนรู้ได้ การลงทุนมีหลายรูปแบบแตกต่างกันไปทั้งในแง่ของเม็ดเงินและความเสี่ยง
ถ้าถามว่ามีอะไรที่ลงเงินไปแล้วได้ผลตอบแทนดีกว่าเอาเงินไปฝากธนาคารบ้าง ตอบว่ามี และมีหลายช่องทางด้วย เช่น การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ การลงทุนในตราสารการเงิน การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น การลงทุนที่กล่าวมานี้ ต้องใช้เงินทุน และเวลาค่อนข้างมาก ดูแล้วอาจไม่เหมาะกับคนส่วนใหญ่ที่ต้องทำงานประจำ วันนี้จึงหยิบเอาเรื่องของการลงทุนที่ใช้เงินและเวลาไม่มากมาฝาก นั่นคือ การลงทุนในกองทุนรวม ลองพิจารณาดูว่า น่าสนใจกว่าฝากแบงค์หรือไม่
กองทุนรวม คืออะไร
ก็คือโครงการลงทุนที่จัดตั้งและบริหารโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม วัตถุประสงค์เพื่อระดมทุนจากนักลงทุนรายย่อย แล้วนำเงินที่ได้ไปบริหารจัดการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ตามเงื่อนไขและนโยบายของการจัดตั้งกองทุนนั้น สิ่งที่นักลงทุนรายย่อยจะได้รับคือ เงินปันผล และเงินกำไรส่วนเกินทุน ในกรณีที่กองทุนนั้นมีกำไร
เราลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ด้วยตนเองก็ได้ ทำไมต้องไปลงทุนผ่านกองทุนรวมด้วย
โดยปกติการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ในระยะยาวๆ ที่เกินกว่า 10 ปี มักจะได้รับผลตอบแทนดีกว่าการฝากเงินในธนาคาร แต่ถ้ามองในระยะสั้นๆ เช่น 1 ปี 2 ปี หรือบางที 5 ปี ผลตอบแทนจากการฝากเงินอาจได้ดีกว่า เพราะการลงทุนในตลาดหุ้นในระยะสั้นนั้นมีความผันผวนสูงมาก หากไม่ชำนาญมีโอกาสเจ็บตัวสูง การลงทุนผ่านกองทุนรวม เป็นตัวช่วยหรือเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการลงทุนด้วยตัวเองในหลายๆด้าน ดังนี้
- กองทุนรวมสามารถกระจายความเสี่ยงได้ดีกว่า เพราะในกองทุนมีเม็ดเงินมากกว่านักลงทุนรายย่อยหลายร้อยเท่า ทำให้สามารถซื้อหุ้นได้กระจายไปทุกภาคส่วนอุตสาหกรรม ถือเป็นการกระจายความเสี่ยง ไม่ลงทุนไปกับหุ้นตัวใดตัวหนึ่ง หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ที่หากกลุ่มอุตสาหกรรมนั้นมีปัญหา ก็ยังเอาผลตอบแทนของกลุ่มอื่นมาชดเชยเฉลี่ยกำไรกันไปได้
- กองทุนรวมมีผู้บริหารมืออาชีพเป็นผู้บริหารจัดการให้ หากเรายอมรับว่าไม่ได้เชี่ยวชาญการลงทุน หรือไม่มีความรู้เกี่ยวกับการลงทุนที่หลากหลาย ก็ต้องอาศัยผู้บริหารมืออาชีพเหล่านี้ดูแลให้จะดีกว่า แต่ไม่ได้เป็นการรับประกันว่า ผู้บริหารกองทุนนี้จะทำกำไรได้ทุกครั้ง เพราะมีหลายครั้งที่ขาดทุน ต้องเตรียมใจยอมรับในส่วนนี้ไว้ด้วย
- กองทุนได้รับการยกเว้นภาษี ทำให้ผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุนผ่านกองทุนรวมไม่ต้องเสียภาษีและวงเงินที่ใช้ในการซื้อกองทุนยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย
- หน่วยลงทุนที่ตราไว้มูลค่าต่ำ ทำให้นักลงทุนรายย่อยสามารถซื้อหน่วยลงทุนได้ง่าย หน่วยลงทุนก็คล้ายๆกับราคาหุ้น ถ้าต่ำ เราก็ใช้เงินน้อยๆในการซื้อได้ เช่น ถ้าเราอยากซื้อหุ้นของบริษัทขายน้ำมันที่ตอนนี้ราคา 400 บาท ต่อหุ้น ตามกฎต้องซื้อขั้นต่ำ 100 หุ้น ก็ต้องใช้เงินถึง 40000 บาท แต่ถ้าเราซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงาน อาจมีราคาหน่วยละ 10 บาท ถ้าซื้อ 1000 หน่วย ก็จะใช้เงินเพียง 10000 บาท ก็สามารถลงทุนในหุ้นน้ำมันตัวนั้นได้แล้ว
จะเห็นว่าการลงทุนกับกองทุนรวมมีข้อดีและข้อได้เปรียบหลายข้อ ในกรณีที่เป็นนักลงทุนรายย่อยและมือใหม่ ไม่มีเวลาในการหาข้อมูล ก็สามารถเริ่มเรียนรู้การลงทุนโดยลงทุนผ่านกองทุนรวมได้ เมื่อมีความรู้ความชำนาญมากขึ้น ค่อยก้าวขึ้นมาลงทุนด้วยตนเองผ่านตลาดหลักทรัพย์โดยตรง ซึ่งถ้าถูกทางก็จะได้กำไรเต็มเม็ดเต็มหน่วยกว่า แต่ถ้าผิดทางก็รับผลการขาดทุนนั้นไปเต็มๆ เช่นกัน แต่ไม่ว่าจะลงทุนผ่านกองทุนรวมหรือลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ด้วยตนเอง ล้วนมีความเสี่ยงทั้งนั้น และต้องจำไว้ว่าไม่มีวิธีลงทุนใดๆที่ปลอดภัย 100%
อ่านเพิ่มเติม : 9 กองทุนรวมที่น่าลงทุน ฉบับมนุษย์เงินเดือน