ในปัจจุบันการลงทุนในหุ้นนับว่าได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก แต่สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่เคยซื้อหุ้นมาก่อนนั้นย่อมประสบปัญหากันทุกคน ในการเลือกซื้อหุ้นที่ดีให้เป็นผลสำเร็จนั่นเอง ถือเป็นทั้งความท้าทายและความยากลำบากของนักเล่นหุ้นมือใหม่เป็นอย่างมาก เพราะหุ้นก็เปรียบเหมือนสินค้าที่มีอยู่อย่างหลากหลายและแน่นอนว่ามีมากมายหลายราคา ทั้งยังมีผลตอบแทนที่แตกต่างกันอีกด้วย ซึ่งหลักในการเลือกซื้อหุ้นนั้นก็ขึ้นอยู่กับการรับความเสี่ยงของผู้ซื้อแต่ละคน ซึ่งอาจแบ่งลักษณะของหุ้นที่ให้ผลประโยชน์ที่ดีได้ 2 ประเภท คือ หุ้นที่มีปันผล และหุ้นที่มีอัตราเติบโตดีเพื่อเพิ่มมูลค่าของตัวหุ้น
-
หุ้นเติบโต
คือหุ้นของบริษัทที่มีแนวโน้มราคาเพิ่มสูงขึ้นไปพร้อม ๆ กับการเจริญเติบโตของสถานประกอบการ โดยมากมักเป็นบริษัทที่กำลังเป็นที่สนใจ หรือกลุ่มสถานประกอบการที่อิงตามสถานการณ์โลกหรือสถานการณ์บ้านเมือง อาทิเช่น กลุ่มธุรกิจด้านไอที หรือกลุ่มธุรกิจด้านสุขภาพ จุดเด่นของหุ้นที่อยู่ในกลุ่มนี้คือมักเป็นกิจการที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง กระแสเงินสดมักมีเกณฑ์ที่ดี กำไรสุทธิมีลักษณะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ข้อควรระวังในการซื้อหุ้นประเภทนี้คืออัตราการเติบโตที่จะต่อเนื่องยาวนานจนสามารถทำกำไรให้กับผู้ซื้อได้นั่นเอง ซึ่งเบื้องต้นสามารถสังเกตได้จากลักษณะของการขยายฐานลูกค้า หรือสาขายิ่งมากยิ่งแสดงถึงกำลังทางทุนทรัพย์ที่ดี ยอดขายมีลักษณะเพิ่มอย่างต่อเนื่องหรือไม่ หรือมีอัตราการขยายตัวมากน้อยเพียงใด มีฐานหรือกลุ่มของคู่ค้ามากน้อยเพียงใด ลักษณะของสินค้าได้รับความนิยมหรือมีเอกลักษณ์เป็นที่สนใจหรือไม่ เพื่อให้มั่นใจว่าหุ้นที่ซื้อมาจะทำมูลค่าสูงได้จริงนั่นเอง อย่างไรก็ดีหากเป็นหุ้นในกระแสก็มักมีข้อด้อยเพราะมักมีราคาต่อกำไรต่อหุ้นหรือค่า Price/Earnings Ratio หรือ P/E ที่ค่อนข้างสูง แต่ก็มักจ่ายเงินปันผลน้อยเพื่อนำเงินทุนไปขยายตัวแทน ดังนั้น หุ้นเติบโตจึงเหมาะกับนักลงทุนที่หวังผลตอบแทนจากราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นและรับความเสี่ยงได้สูง เพราะความเสี่ยงของหุ้นประเภทนี้คือความสามารถในการขยายสินทรัพย์ รายได้ หรือกำไรได้ต่ำกว่าความคาดหวัง ส่งผลให้ราคาของหุ้นที่เคยสูง เกิดแรงด้านลบจนลดลงได้
-
หุ้นปันผล
คือหุ้นที่มีการปันผลกำไร ซึ่งถือเป็นกำไรที่ช่วยจูงใจให้นักลงทุนเข้ามาเลือกลงทุนกับบริษัท ซึ่งการปันผลนี้มักมีกำหนดเป็นรอบปี หรือไตรมาสตามแต่เงื่อนไขของแต่ละบริษัท โดยเงินปันผลคือเงินกำไรที่มาจากผลประกอบการของบริษัทหรือองค์กร ตามอัตราภายใต้เงื่อนไขที่ทางบริษัทกำหนด ในบางครั้งการปันผลอาจอยู่ในรูปแบบการเพิ่มทุน โดยให้ผลตอบแทนเป็นตัวหุ้นหรือที่เรียกกันว่าหุ้นปันผล ข้อมูลในการจ่ายปันผลเหล่านี้จะมีแสดงเอาไว้ในเว็บไซต์ของตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งจะมีข้อมูลสิทธิประโยชน์ย้อนหลังให้ผู้ที่สนใจได้ทราบว่าหุ้นตัวที่สนใจมีนโยบายการจ่ายปันผลอย่างไร มีจำนวนเท่าใดและมีรอบในการจ่ายช่วงใดบ้าง ซึ่งโดยมากหุ้นที่ให้ผลตอบแทนเป็นการปันผลนั้นจะมีอัตราการขยายตัวทางธุรกิจที่ช้ากว่าหุ้นเติบโต เพราะได้นำอัตราผลประโยชน์มาจ่ายเป็นผลตอบแทนทดแทนการนำไปขยายธุรกิจ ส่งผลให้อัตราการขยายตัวทางธุรกิจช้าลงและมีข้อควรระวังในการซื้อ เพราะโดยปรกติราคาหุ้นจะมีการปรับตัวลดลงหลังจากวันที่ทำการปันผลเพราะนักลงทุนขายหุ้นเพื่อทำกำไรหลังได้รับการปันผลแล้ว
นักลงทุนที่สนใจหุ้นในลักษณะนี้จึงควรเพิ่มความระมัดระวังและกำหนดแผนในการลงทุนให้ดีว่าเงินปันผลที่ได้จะเหมาะสมกับราคาหุ้นที่ซื้อมาหรือไม่ หรือหากสนใจถือหุ้นเพื่อการลงทุนระยะยาว ก็อาจถือไว้เพื่อเก็งกำไรต่อไปหลังรับการปันผลแล้วได้ อย่างไรก็ตามควรศึกษาให้ดีว่าการปันผลที่ได้นั้นมาจากกำไรที่แท้จริงไม่ใช่การนำเงินกำไรในอดีตที่สะสมมานานมาใช้ เพื่อหลอกนักลงทุนที่ถือหุ้นอยู่เข้าใจว่าผลประกอบการยังดีอยู่ หรือใช้รายได้ที่มาจากการขายทรัพย์สินที่มีมาเปลี่ยนเป็นเงินปันผล ถือเป็นรายได้ที่ไม่ได้มาจากผลกำไร แต่มาจากการขายของเหล่าที่ถืออยู่มาใช้แทน หรือกู้ยืมเงินมาจ่ายเพราะทำให้หนี้ของบริษัทสูงเพิ่มเกินความจำเป็น และควรระวังการปันผลในลักษณะเพื่อเชิญชวนให้นักลงทุนเข้ามาร่วมหุ้นในลักษณะของแชร์ลูกโซ่ ซึ่งมักมาในลักษณะผลตอบแทนที่สูงเกินจริงกว่า 10-20% เพื่อนำเงินมาหมุนหลอกให้นักลงทุนลงทุนเพิ่ม จนเมื่อเงินขาดมือก็ประสบปัญหาไม่มีเงินจ่ายนักลงทุนคืนได้
ดังนั้นการเลือกซื้อหุ้นแต่ละประเภทก็ขึ้นกับความต้องการผลตอบแทน ร่วมถึงความต้องการรูปแบบของผลการตอบแทนของนักลงทุนเองนั้นเอง หุ้นแบบเติบโตนั้นเหมาะกับการลงทุนในระยะสั้น และผู้ลงทุนสามารถรองรับความเสี่ยงได้สูง เพราะไม่ต้องถือหุ้นนานก็สามารถปล่อยขายเพื่อทำกำไรได้ แต่ก็มีความเสี่ยงที่ราคาของหุ้นจะพลิกผันจากที่คาดการณ์ได้ ส่วนหุ้นปันผลเหมาะกับการลงทุนในระยะยาวพอสมควรเพื่อรอรอบของการปันผล แต่ความเสี่ยงค่อนข้างน้อยกว่าเพราะหุ้นลักษณะนี้ไม่เน้นการปั่นราคาเท่าหุ้นเติบโต
อ่านเพิ่มเติม : หุ้นปันผลดี ๆ ในตลาด มีวิธีหากันยังไง ?
แต่เพื่อให้การลงทุนไม่ส่งผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ในชีวิตประจำวัน ควรใช้เงินลงทุนจากส่วนที่เหลือเก็บ หรือกันไว้เพื่อการออมโดยเฉพาะ ควรเลือกซื้อหุ้นของกิจการที่มีความมั่นคง เติบโตอย่างต่อเนื่อง มีผลกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอและควรมีหนี้ต่ำ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ผู้ลงทุนสามารถศึกษาข้อมูลขององค์กรจากเว็บไซต์ของตลาดหุ้น เพื่อเลือกบริษัทที่มีความมั่นคงสูง มีความสม่ำเสมอของผลประกอบการ และควรเลือกลงทุนกับหุ้นที่ราคาไม่แกว่งมากเกินไป เพราะหากเกิดผลที่คลาดเคลื่อนจากความคาดหวังก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อนักลงทุนมากนัก หากเป็นไปได้ควรเลือกซื้อเมื่อราคาของหุ้นอยู่ในช่วงขาลงเพื่อให้ผลตอบแทนจากเงินลงทุนซื้อหุ้นสามารถทำกำไรได้เพิ่มสูงขึ้น
เพราะแม้ว่าการลงทุนด้วยหุ้นจะมีความเสี่ยงอยู่บ้าง แต่ก็ถือเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนดี และสูงกว่าการฝากเงินแบบปกติเหมาะแก่การแสวงหาผลกำไร จากส่วนต่างของราคาหุ้นหรือเงินปันผล โดยนักลงทุนควรจะตัดสินใจเลือกซื้อด้วยความละเอียดรอบคอบ ตรวจสอบข้อมูลของหุ้นหรือบริษัทที่สนใจอยู่เสมอเพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุน และเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดีตามที่คาดหวังให้สำเร็จตามต้องการ