การเล่นหุ้น เป็นการลงทุนที่หลายคนเลือกในปัจจุบัน เพราะเป็นหนึ่งในหนทางที่สามารถทำกำไรได้อย่างรวดเร็วที่สุดนั่นเอง
แต่การ เล่นหุ้น นั้นก็มีอยู่หลากหลายรูปแบบทั้งผู้เล่นที่ต้องการเก็งกำไรในระยะสั้นเป็นหลัก หรือที่เราเรียกกันว่านักลงทุนรายวัน กับผู้เล่นที่ต้องการถือหุ้นในระยะยาวที่คาดหวังผลกำไรจากการเติบโตของกิจการและเงินปันผล ซึ่งนักลงทุนในแบบที่ 2 ที่เรียกว่านักลงทุนระยะยาวนี้เอง ที่มักจะทำให้เราสับสนกับนักลงทุนประเภทที่เรียกว่า นักลงทุนแบบเน้นคุณค่า
ความคล้ายคลึงกันของนักลงทุนแบบเน้นคุณค่าและนักลงทุนระยะยาว
นักลงทุนในหุ้นที่เน้นคุณค่าและนักลงทุนระยะยาวมีสิ่งที่คล้ายคลึงกัน นั่นคือ มูลค่าของหุ้นที่เลือกลงทุน ซึ่งนักลงทุนทั้ง 2 แบบนี้มักจะลงทุนในหุ้นที่มีคุณค่าในตัวเองสูง แต่สิ่งที่ทำให้คนทั่วไปเกิดความสับสนได้นั่นคือ ระยะเวลาในการลงทุนนั่นเอง เพราะคำว่าหุ้นที่มีคุณค่านี่เอง ที่ทำให้คนเข้าใจไปว่าคือหุ้นที่นักลงทุนได้ถือครองมาเป็นระยะเวลานาน ทั้งที่ ในความเป็นจริงแล้ว หุ้นคุณค่านั้นไม่จำเป็นต้องซื้อและถือครองมาเป็นระยะเวลานานก็ได้ ดังนั้น เพื่อความเข้าใจที่ตรงกันก่อนที่จะไปเรื่องอื่น ต้องบอกก่อนว่านักลงทุนในหุ้นที่เน้นคุณค่านั้นไม่จำเป็นต้องถือครองหุ้นมาเป็นระยะเวลานาน และอย่านำระยะเวลาในการถือครองหุ้นมาแบ่งประเภทนักลงทุน เพราะยังมีกฎเกณฑ์อื่นที่ใช้แบ่งประเภทนักลงทุน
การที่เราเรียกนักลงทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นคุณค่าว่า Value Investor (VI) นั้นเพราะหุ้นที่นักลงทุนเหล่านี้เลือก มีมูลค่าสูงเมื่อเทียบราคาหุ้นกับมูลค่าที่แท้จริงของกิจการนั้นๆ ซึ่งอาจจะดูได้จากค่าอัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E) หรือมูลค่าทางบัญชี (P/B) ก็ได้ และไม่ได้เกี่ยวข้องกับระยะเวลาในการถือครองหุ้นแต่อย่างใด แม้ว่าระยะเวลาจะมีส่วนทำให้ราคาซื้อขายของหุ้นเพิ่มขึ้นได้จริงก็ตาม หุ้นประเภทนี้ส่วนใหญ่จะเป็นหุ้นที่เคยมีราคาต่ำมาก่อน
ดังนั้น หลักการสำคัญของการเป็นนักลงทุนแบบเน้นคุณค่านั้น คือการลงทุนในหุ้นที่มีราคาต่ำกว่ามูลค่าที่ประเมินออกมา และการตัดสินใจซื้อหรือขายจะพิจารณาจากมูลค่าที่แท้จริงของหุ้นนั้นกับราคาตลาด ถ้าหากราคาตลาดต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงมาก นักลงทุนแบบเน้นคุณค่าก็มีแนวโน้มที่จะซื้อหุ้นตัวดังกล่าว โดยพิจารณาปัจจัยอื่นๆประกอบด้วย เช่น ทิศทางของตลาดหุ้น แนวโน้มของกิจการ ความมั่นคงของการเมือง เงินลงทุน หรือโอกาสในการลงทุนในหุ้นตัวอื่นๆ เป็นต้น ในภายหลังหากราคาหุ้นปรับตัวขึ้นสูงกว่ามูลค่าที่แท้จริงของหุ้นมาก นักลงทุนแบบเน้นมูลค่ามักเลือกที่จะถือหุ้นต่อ ซึ่งมักจะพิจารณาปัจจัยอื่นๆข้างต้นร่วมด้วยนั่นเอง
อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า คือ การวางแผนกลยุทธ์ในการลงทุน ถ้าลงทุนจะลงทุนเป็นจำนวนเท่าไร และจะทำกำไรเมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้นไปที่ระดับใด หากเริ่มลงทุนในหุ้นตัวนั้นเป็นครั้งแรก นักลงทุนอาจติดตามราคาหุ้นในแต่ละวันเพื่อดูแนวโน้มของราคา เมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่งที่ราคาหุ้นเริ่มมีแนวโน้มที่ดีแล้วก็ไม่จำเป็นต้องติดตามการเคลื่อนไหวของราคาเหมือนระยะแรก อาจใช้เวลาศึกษาและลงทุนในหุ้นตัวอื่นที่น่าสนใจต่อไป นี่คือการลงทุนในแบบของนักลงทุนแบบเน้นคุณค่าที่หลายคนอาจจะเคยสับสนมาก่อนนั่นเอง
การลงทุนในหุ้นแบบเน้นคุณค่านี้เหมาะกับผู้ที่มีเงินทุน และต้องการให้เงินลงทุนงอกเงยขึ้น แต่ก็มีปัจจัยเสี่ยงหลายอย่างที่อาจทำให้ขาดทุนได้ ดังนั้นนักลงทุนแบบเน้นคุณค่าจึงต้องวิเคราะห์สถานการณ์ของหุ้นให้ดีก่อนเข้าซื้อ
สุดท้ายนี้เราขอแนะนำให้นักลงทุนทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนแบบเน้นคุณค่า นักลงทุนระยะสั้นหรือนักลงทุนระยะยาวก็ตามว่า
ควรพิจารณาให้ดีก่อนลงทุน และต้องพยายามวิเคราะห์ตลาด ที่สำคัญคืออย่าสร้างหนี้โดยการกู้ยืมเงินมาลงทุนเป็นอันขาด
เพราะหากตลาดผันผวน และผลการลงทุนไม่เป็นไปตามที่คาดคิดขึ้นมา จะทำให้เกิดปัญหาหนี้สินตามมาในภายหลัง ดังนั้นหากไม่มีเงินลงทุน ควรรอให้พร้อมแล้วค่อยลงทุนดีกว่า เพื่อที่จะได้ไม่ก่อปัญหาหนี้สินตามมาในภายหลังนั่นเอง