ไม่น่าเชื่อว่าสถิติผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนในประเทศไทยติดอันดับ 2 ของโลก แต่ก็เป็นเรื่องจริง (ข้อมูล องค์การอนามัยโลก ปี 2015) ส่วนเรื่องของการจราจรติดขัดและหนาแน่นนั้น กรุงเทพมหานครถูกจัดให้อยู่อันดับที่ 1 ของโลกเลยทีเดียว
เคยไหมคะที่เมื่อเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนขึ้น ในบางกรณีหาคนผิดยากเพราะต่างฝ่ายต่างก็ไม่ยอมรับผิด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็มักจะเป็นชั่วเสี้ยววินาที บางครั้งก็อยู่ในจังหวะที่ไม่มีคนเห็นเหตุการณ์ จึงยากที่จะพยานมาเห็นดีเห็นงามเข้าข้างให้เราเป็นฝ่ายถูก ตกลงกันก็ไม่ได้ เป็นที่น่าปวดหัวจริง ๆ หรือในบางกรณีที่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีฝ่ายที่ยอมรับผิด แต่เมื่อมีการขยับรถไปจอดในที่ไม่เกะกะขวางทาง พอเรียกประกันมา ฝ่ายผิดกลับลำไม่ยอมรับผิดเสียก็มีเหมือนกัน รถยนต์ส่วนใหญ่ที่เมื่อเกิดอุบัติเหตุจึงมักไม่ค่อยอยากจะขยับเขยื้อนรถจนกว่าเจ้าหน้าที่ประกันจะเดินทางมาถึง หรือในกรณีที่รถยนต์กีดขวางทางจราจร เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้ามาสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และสามารถเป็นพยานให้กับเจ้าหน้าที่ประกันได้ รวมไปถึงกรณีที่ชนแล้วหนี หากจะมีเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่สามารถบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐานได้ ก็คงจะดีไม่น้อย
ล่าสุด สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือ คปภ. จึงได้ออกกฎหมายให้บริษัทประกันภัยลดค่าเบี้ยประกันให้กับรถยนต์ที่ติดตั้งกล้องหน้ารถยนต์ โดยอาจเป็นกล้อง Dashcam หรือกล้องวงจรปิด CCTV ก็ได้ โดยส่วนลดที่ลูกค้าซื้อประกันภาคสมัครใจจะได้รับอยู่ที่ 5-10% โดยวัตถุประสงค์ของกฎหมายฉบับนี้ก็เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ที่มีมากขึ้นในปัจจุบัน
คปภ. ได้ทำหนังสือคำสั่งนายทะเบียนที่ 8/2560 เรื่องอัตราค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์สำหรับรถยนต์ที่มีการติดตั้งกล้องหน้ารถยนต์ระบบกล้องวงจรปิด CCTV (รวมทั้งแบบ Dashcam) มีผลใช้บังคับเริ่มตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมา โดยให้ครอบคลุมกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ทั้งที่เป็นรายใหม่ และกรมธรรม์ต่ออายุสัญญาก็จะได้รับส่วนลดนี้ด้วยเช่นกัน
ขั้นตอนในการขอลดค่าเบี้ยประกันภัยเนื่องจากมีการติดตั้งกล้องหน้ารถยนต์นั้นก็ไม่ยาก แค่เพียงใช้หลักฐานที่เป็นภาพถ่ายของการติดตั้งระบบกล้องวงจรปิดขณะที่ทำสัญญาประกันภัย เพื่อเป็นการยืนยันว่ารถยนต์ของเราได้มีการติดตั้งกล้องหน้ารถยนต์จริง ๆ และต้องติดไว้ตลอดระยะเวลาเอาประกัน ส่วนลดค่าเบี้ยประกันจากการติดตั้งกล้องหน้ารถยนต์จะอยู่ในหน้าตารางกรมธรรม์ตรงช่องส่วนลดอื่น ๆ
มีคำถามว่าถ้ามีการติดตั้งกล้องหน้ารถยนต์แต่มีการทำประกันหรือต่อประกันภายหลังจากวันที่ 3 มีนาคม 2560 ที่กฎหมายนี้มีผลบังคับใช้จะต้องรอจนถึงปีหน้าเลยหรือไม่ กว่าจะได้ส่วนลดค่าเบี้ยประกัน คำตอบก็คือไม่ต้องรอ เพราะสามารถขอส่วนลดค่าเบี้ยประกันเพิ่มเติมจากบริษัทประกันย้อนหลังได้
ผู้ขับขี่รถยนต์อย่าเพิ่งเฮ เพียงเพราะเข้าใจว่าการติดตั้งกล้องหน้ารถยนต์จะช่วยลดค่าเบี้ยประกันภัย ประหยัดเงินในกระเป๋าของเราได้เท่านั้น แต่เราต้องมองให้ลึกลงไปถึงประโยชน์ที่กล้องหน้ารถยนต์มีให้กับผู้ขับขี่ใช้รถใช้ถนนจริง ๆ ด้วย กล้องติดรถยนต์เป็นเครื่องมือที่จะเข้ามามีส่วนช่วยเป็นอย่างมาก ในกรณีที่มีการเกิดอุบัติเหตุขึ้น เพราะกล้องจะบันทึกเหตุการณ์ พฤติกรรมของรถยนต์คันเราและของคู่กรณีไว้ เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่ไว้ใช้อ้างอิงเมื่อเกิดอุบัติเหตุได้ ว่าฝ่ายได้เป็นฝ่ายถูกหรือผิด กล้องติดรถยนต์ยังมีส่วนช่วยในการเป็นหลักฐานให้กับรถยนต์คันอื่น ๆ ที่อยู่บนท้องถนนได้ด้วยเช่นกัน หากรถทุกคันติดกล้องหน้ารถยนต์ก็เหมือนกับมีกล้องวงจรปิดเป็นจำนวนมากอยู่ทั่วไปบนท้องถนน ทำให้คนมีวินัยในการใช้รถใช้ถนนมากขึ้น ไม่กล้าทำความผิด ไม่กล้าขับรถซิ่ง ขับเร็ว หรือชนแล้วหนี นอกจากเรื่องของอุบัติเหตุแล้ว กล้องติดรถยนต์ยังมีประโยชน์ในเรื่องของการถ่ายภาพหรือคลิปเส้นทางการท่องเที่ยวทางรถยนต์ที่เราประทับใจไว้ได้ด้วย ทั้งยังใช้เพื่อตรวจสอบเส้นทางขากลับเพื่อไม่ให้เกิดหลงทางขึ้นได้เช่นกัน อ่านจบถึงบรรทัดนี้แล้วก็สามารถเฮดัง ๆ ได้แล้วล่ะค่ะ
สำหรับบริษัทประกันภัยนั้น การที่ผู้ขับขี่รถยนต์ติดตั้งกล้องหน้ารถยนต์ไว้ จะมีส่วนช่วยให้การจัดการเรื่องอุบัติเหตุรถยนต์นั้นง่ายและสะดวกขึ้นในขั้นตอนของการเคลมสินไหมทดแทนให้กับลูกค้า ทำให้มีหลักฐานว่าใครเป็นฝ่ายถูกหรือผิด การลดค่าเบี้ยประกันให้กับลูกค้า 5-10% เพื่อแลกกับการทำงานที่ง่ายและเคลียร์ขึ้นก็ถือว่าคุ้มค่ามาก จึงเป็นที่มาของคำสั่งจาก คปภ.
สำหรับคำถามเรื่องสเปคของกล้องติดหน้ารถยนต์ว่าจะต้องเป็นรุ่นไหน มีฟังก์ชันแบบไหน จึงจะเข้าข่ายได้รับส่วนลดค่าเบี้ยประกันนั้น นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยหรือ คปภ. ได้กำหนดเรื่องสเปคของกล้องติดรถยนต์ไว้เพียงว่าสามารถบันทึกภาพได้ก็เข้าข่ายเงื่อนไขรับส่วนลดค่าเบี้ยประกันแล้ว แต่ต้องเป็นกล้องที่ผลิตขึ้นมาสำหรับการเป็นกล้องติดรถยนต์เท่านั้น จะต้องไม่ใช่เป็นอุปกรณ์ที่มีการดัดแปลงเพื่อนำมาทำเป็นกล้องติดรถยนต์ เช่น ใช้มือถือ สมาร์ทโฟน หรือไอแพดมาติดตั้ง
ในฐานะที่เป็นผู้ที่มีส่วนร่วมในการใช้รถและใช้ถนนในกรุงเทพมหานคร ก็หวังว่าการออกกฎหมายเพื่อรณรงค์ให้คนหันมาติดกล้องวงจรปิดหน้ารถยนต์กันมากขึ้น จะมีส่วนช่วยลดอุบัติเหตุ รวมถึงลดความขัดแย้งที่เกิดขึ้นบนท้องถนนได้จริง อีกทั้งยังช่วยให้ผู้ใช้รถใช้ถนนต่างมีวินัยมากขึ้นด้วยค่ะ แถมคนที่ติดกล้องยังได้ลดค่าเบี้ยประกันด้วย เหมือนมีคนช่วยออกเงินซื้อความปลอดภัยให้กับเราเลย จริงไหมคะ
ขอบคุณข้อมูล