การเลี้ยงลูกในปัจจุบันมีค่าใช้จ่ายมากมาย ทั้งค่ากินอยู่ และการดูแลสุขภาพ พ่อแม่หลาย ๆ คน รวมถึงสามีมักจะชอบซื้อของเล่นให้กับลูกเสมอ บางทีก็แทบล้นบ้าน ตามความเห็นควรจะซื้อแต่ของที่จำเป็น ไม่ต้องเยอะมากเกินไป ควรซื้อของที่เสริมพัฒนาเพียงจำเป็นก็พอ เช่นของเล่นพัฒนการให้รู้เรื่องตัวอักษร สี คำศัพท์ เพราะการซื้อของเยอะเข้าบ้านมากเกินไปก็จะทำให้บ้านรก มีข้อมูลทางวิชาการว่าถ้าบ้านรก จะทำให้เด็กสมาธิสั้น เพราะไม่มีสมาธิจดจ่อกับของเล่นชิ้นใดชิ้นหนึ่งนาน ๆ ดังนั้นควรให้เขาเล่นของเล่นไม่เยอะเกินไป
กฎ 7 ประการของ ยีน ชาทสกี นักเขียนชื่อดัง และ บรรณาธิการสาวงานเงินประจำรายการ NBC’s Today Shows ที่สอนให้ลูกรู้จักพอเพียงมีดังนี้ (ที่มา thairath.co.th)
- สอนให้ลูกเลือกสิ่งที่ดีที่สุด และเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อเป็นการสอนให้รู้ว่าไม่ใช่ว่าอยากได้อะไรแล้วต้องได้ไปทุกอย่าง ผู้ใหญ่ห้ามตามใจซื้อของเล่น 2 ชิ้น ควรให้เลือกเพียงแค่ชิ้นเดียว
- กติกาต้องเป็นกติกา เข้มงวดอย่างมีเหตุผล เลิกตามใจลูก
- กำหนดเงินค่าขนมตายตัว เพื่อให้ลูกบริหารเงินด้วยตัวเอง
- สอนให้ลูกรู้จักการรอคอย ปลูกฝังว่าการได้อะไรมายากทำให้เกิดความภูมิใจ
- สนับสนุนให้ลูกทำงานพิเศษ ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีทำให้ลูกมีความรับผิดชอบ เช่นรับจ๊อบล้างจานให้คุณแม่ ทำให้เขาเห็นคุณค่าของเงิน ถ้าอยากได้เงินซื้อของเพิ่มก็ต้องทำงานให้มากขึ้น ถ้าเขาโตก็ค่อยไปทำงานพิเศษนอกบ้าน แม้จะเป็นการเสิร์ฟอาหารในร้านแม็คโดนัลด์ก็ตาม
- สอนให้รู้จักคุณค่าของเงิน โดยมี tip ง่าย ๆ เช่น เมื่อลูกต้องการอยากได้ของ ลองทดสอบว่าเขาอยากได้ระดับไหน 1-5 และทิ้งเวลาไว้ 1 อาทิตย์และค่อยถามลูกใหม่
- เป็นตัวอย่างที่ดีของลูก ทั้งเรื่องการใช้เงินและการใช้ชีวิต เพราะลูกจะเชื่อในสิ่งที่เห็นมากกว่าสิ่งที่พูด
การเลี้ยงลูกให้รู้จักพอเพียง อดทน รู้จักรอ จะทำให้เขาเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในอนาคต เวลาที่ให้กับลูกสำคัญมาก บางครั้งผู้เขียนเองก็รู้สึกผิดเหมือนกัน ว่าการเป็นแม่ควรอยู่บ้านเลี้ยงลูกหรือไม่ แต่เราก็มีความจำเป็นที่ต้องออกมาทำงานนอกบ้าง จึงพยายามเตือนตัวเองเสมอ ว่าเราไม่ผิดนะการทำงานนอกบ้านก็เป็นการทำให้ลูกน้อยได้รู้ว่าเราไปหาเงินมาเพื่อเขา และก่อนออกจากบ้านทุกครั้งก็จะบอกลา และบอกว่าแม่ไปทำงานนะ ทำให้เขารู้ว่าเห็นค่าของเงิน
หลักการในการเลี้ยงลูกตามหลักพอเพียงในมุมมองคือ ให้ลูกได้รู้จักการใช้เงินอย่างถูกต้อง เราควรทำตัวอย่างให้เขาเห็น เช่นไม่ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย ซื้อของเล่นให้ตามความเหมาะสม เอาแบบที่จำเป็นจริง ๆ ในมุมมองแล้ว ของเล่นที่เหมาะกับการพัฒนาการเด็กคือ พวกรถยนต์เล็ก แฟลชการ์ดสีหรือตัวเลขตัวอักษร ลูกบอลสี รูปทรงสามเหลี่ยมสี่เหลี่ยมวงกลม บล็อกไม้แบบห่วงหรือให้ตั้งขึ้นเอง ที่สำคัญเราควรจัดเก็บบ้านให้เป็นระเบียบเสมอ
เราไม่ควรซื้อของเล่นจำนวนมากมาเล่นที่บ้าน เพราะจะทำให้เด็กรู้สึกว่าตัวเองมีสิ่งต่าง ๆ เยอะเกินไป ทำให้เขารู้ว่าเขาควรจะได้ในสิ่งที่จำเป็นเท่านั้น เพราะถ้าให้เขาทุกอย่างจะกลายเป็นว่าเขามีความพร้อมมากเกินไป อาจจะไม่มีความตื่นเต้นเมื่อเจอสิ่งใหม่ ๆ หรือออกไปข้างนอกแล้วจะรู้สึกว่าที่บ้านมีครบหมดแล้ว ดังนั้นจึงควรที่จะให้ในสิ่งที่พอดี
สิ่งที่สำคัญคือเราต้องประมาณตัวเองว่ารายได้เรามีแค่ไหน อย่าใช้จ่ายซื้อของให้ลูกเกินตัวเอาที่เราจำเป็น เพราะบางบ้านมักจะเปรียบเทียบว่าทำไมลูกเพื่อนมี แต่ลูกเราไม่มี หรือทำไมเขามีของเล่น หรือเสื้อผ้าเยอะจัง แต่ในความเป็นจริงแล้วเราไม่ควรเปรียบเทียบ เพราะแต่ละบ้านก็ไม่เหมือนกัน ความพอเพียงของแต่ละบ้านก็อาจจะไม่เท่ากันเช่นกัน เพราะบางคนมีรายได้มากเขาก็สามารถซื้อของแพง ๆ ให้ลูกได้ โดยที่ขนหน้าแข้งไม่ร่วง ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรดูเงินในกระเป๋าตังค์หรือสภาพเศรษฐกิจของแต่ละบ้านเพื่อการพิจารณาความเหมาะสมและความพอเพียง