หลายคู่รักกันมาเนิ่นนาน ก็ไม่ยอมแต่งงานซักที จนมีคำกล่าวที่ว่า เมื่อคบกันเลย 5 ปี 7 ปี จะเป็นเลขอาถรรพ์ หากไม่แต่งก็จะไม่ได้แต่งแน่นอน หรือาจจะต้องเลิกกันแน่ ๆ ในปัจจุบันมีสาวโสดสตรองมากมาย ที่ถูกเทอย่างไม่เหลือเยื่อใย ทั้ง ๆ ที่บางคนกำลังจะเตรียมตัวเป็นว่าที่เจ้าสาวด้วยซ้ำ เพราะการแต่งงาน’ เปรียบเสมือนจุดเริ่มต้นของการใช้ชีวิตคู่ เมื่อคนสองคนวางแผนที่จะใช้ชีวิตร่วมกัน ว่าที่เจ้าบ่าว-เจ้าสาวก็ต้องมีการวางแผน เพื่อเตรียมอะไรหลายอย่างไว้สำหรับอนาคต ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องแปลกหากหญิงสาวจะเลือกฝากชีวิตไว้กับคนที่เธอรักต่อจากนี้
การเตรียมความพร้อมไว้รับมือกับทุกสถานการณ์ จึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะว่าที่เจ้าสาว ที่กำลังเตรียมตัวเป็นเจ้าสาว และมีคู่ชีวิตรออยู่ข้างหน้า … มาดูกันดีกว่าว่ามีเรื่องใดในชีวิตบ้างที่คุณควรเตรียมแผนเพื่อจัดสรรชีวิตไว้ให้พร้อม
1.แต่ความแน่นอน คือ ความไม่แน่นอน
เพราะคงไม่มีใครสามารถคาดเดาได้ว่าวันพรุ่งนี้ชีวิตจะเป็นอย่างไร ใจคนเปลี่ยนได้เสมอ ยิ่งโลกออนไลน์ที่มีการรักกันแบบหายใจยังไม่ทั่วท้องด้วยซ้ำ กลับบอกรักกันไวกว่าคนที่เป็นแฟนซะอีกแม้หลายคนจะบอกว่าความรักบนโลกออนไลน์ไม่มีอยู่จริง แต่ก็มีอีกหลายคู่ที่คิดอยากจะลอง ซึ่งหากโชคดีคือเจอคนดีก็ถือว่าได้รับสิ่งดี ๆ ไป แต่สำหรับบางคนที่เจอคนไม่ดี แม้จะบอกรักกันสายฟ้าแลบ แต่สุดท้ายก็แยกทางกันแบบฟ้าผ่าเช่นกัน
2.สร้างรายได้ให้ตัวเอง
หากคุณสามารถสร้างรายได้ได้ด้วยตัวเองย่อมเป็นผลดีกว่า นอกเหนือจากงานประจำแล้วอาจจะหาทางหาอาชีพเสริม เพื่อสร้างรายได้ทางการเงิน แม้มีชีวิตคู่ที่ยาวนาน ก็ยังได้เอาเงินส่วนนี้ไว้ใช้จ่ายเรื่องลูกได้ หรือแม้เลิกกันก็ยังมีเงินสำหรับตั้งตัวได้ เพราะมีสาวๆ บางคนที่แต่งงานแล้วแฟนให้อยู่บ้านเฉยๆ ก็มี เพราะเหตุนี้จึงต้องอาศัยความว่างนี้หารายได้เสริมให้กับตัวเองเป็นอีกวิธีที่ช่วยสร้างรายได้เช่นกัน อย่างการขายของออนไลน์ที่กำลังฮิตกันทั่วบ้านทั่วเมืองนั่นเอง นอกจากสาวๆ จะดูเป็นภรรยาที่สวย เก่ง ครบเครื่องแล้ว ยังสามารถใช้เงินส่วนที่หามาได้นี้มาช่วยเหลือครอบครัวในยามเกิดเหตุฉุกเฉินได้อีกด้วย
แม้ว่าสถานภาพทางการเงินของว่าที่สามี จะดูมั่นคงดูแล้วน่าจะเลี้ยงดูปูเสื่อคุณและว่าที่เจ้าตัวเล็กได้อย่างสบาย ก็อย่าเพิ่งชะล่าใจไป หากสาวๆ ยังมีหน้าที่การงานของตัวเองอยู่ ก็อย่ารีบร้อนลาออกจากงาน เพื่อมาทำหน้าที่ มอ-สระ-เอีย… เลย …เพราะการแต่งงานมีครอบครัว ไม่ได้เป็นตัวการันตีได้ว่า สภาพการเงินของคุณจะราบรื่นตลอดไปนะจ๊ะ การเตรียมตัวให้พร้อมกับชีวิตหลังแต่งงาน หรือกำลังจะแต่งงานมีความสำคัญสำหรับสาวๆ อย่างมาก ที่จะต้องเตรียมตัวให้พร้อม…
3.อย่าทิ้งชีวิตโสด
การที่คุณมีคนสำคัญในชีวิตเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคน ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องเลิกเป็นตัวเองไปซะทั้งหมดนะ เพราะคุณสามารถใช้ชีวิตในแบบที่ชอบไปพร้อมกับคนที่คุณรักได้ เพราะหลังแต่งงานหลายคนอาจคิดว่า ต่อจากนี้คงต้องทำอะไรเป็นคู่บ่อยๆ ไปไหนเป็นคู่ หรือทำตัวติดกันเป็นปาท่องโก๋ ทั้งที่ความจริงแล้วคุณยังสามารถใช้ชีวิตของตัวเองให้สนุกเหมือนเดิม และยังคงทำตัวให้เป็นตัวของตัวเองได้ เรียกว่าก่อนแต่งงานเป็นอย่างไร หลังแต่งงานก็เต็มที่กับชีวิตได้ เพราะยังไงคนเราก็ยังต้องการพื้นที่ส่วนตัวอยู่ดี เพียงแต่ว่ามีอะไรให้บอกกัน อย่าโกหก และหากสาว ๆเป็นนักแฮงค์เอาท์ ก็อาจจะเบา ๆ ลงบ้าง เพราะอย่าลืมว่าจะต้องเก็บเงินไว้ยามฉุกเฉินบ้าง เพราะไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวเหมือนเดิมแล้ว ซึ่งตราบใดที่คุณไม่ลืมสถานะของความสัมพันธ์ของคำว่า สามี-ภรรยา และสามารถสร้างขอบเขตให้กับความต้องการของตัวเองได้ การใช้ชีวิตคู่จะกลายเป็นสิ่งสวยงามและไม่เกิดปัญหาต่าง ตามมาแน่นอน เพียงแค่อาจจะมีการจับเข่าคุยกันตั้งแต่ก่อนคบกัน เพื่อให้รับนิสัยกันและปรับจูนความคิดบางอย่างให้ตรงกันให้ได้ ซึ่งเมื่อทำได้ รับรองว่าชีวิตคู่จะยาวจนถึงไม้เท้ายอดทองเลยทีเดียว
4.เก็บออมเพื่ออนาคต
หลังจากเตรียมการทุกอย่างเกี่ยวกับงานแต่งแล้ว ไม่ว่าจะมีงานประจำหรือรายได้เสริม ยังไงก็อย่าลืมวางแผนการเงินไว้สำหรับอนาคต ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่มองข้ามไปไม่ได้ หากคุณสามารถทำงาน เพื่อดูแลสถานะทางการเงินของตัวเองได้ การออมเงินไม่ใช่เรื่องยากสำหรับคุณแน่นอน ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม ผลประโยชน์ที่ตามมาล้วนอยู่กับคุณและครอบครัว คงจะดีไม่น้อยถ้าการออมทรัพย์จะสามารถมาพร้อมกับความคุ้มครองชีวิตในทุกกรณี แถมยังนำไปลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย และไม่ว่าชีวิตคู่ของคุณจะมีความสุขมากน้อยเพียงใด หรือจะต้องโดนเทแบบน่าใจหาย อย่างน้อยๆ คุณก็ยังอุ่นใจได้ว่า คุณไม่ประสบปัญหาในเรื่องของการเงินที่ขาดสภาพคล่องในภายภาคหน้าอย่างแน่นอน
ไม่ว่า ‘ว่าที่เจ้าสาว’ จะเลือกเตรียมการ หรือจัดสรรชีวิตอย่างไร?? ก็จะต้องอยู่และรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น ณ ปัจจุบัน คือต้องอยู่กับตัวเองให้ได้ เพราะทุกอย่างบนโลกใบนี้ไม่มีอะไรแน่นอน การเตรียมความพร้อมในหลายๆ ด้าน จึงดูจะเป็นการวางแผนที่ครอบคลุมที่สุด
