มีการมองกันว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อยู่ในภาวะของโอเวอร์ซัพพลาย ซึ่งอาจมีผลทำให้เกิดภาวะฟองสบู่เหมือนที่เคยเกิดขึ้นเป็นวิกฤตต้มยำกุ้ง เมื่อปี 2540 หรือไม่นั้น ทางธนาคารแห่งประเทศไทยเองก็ออกมายอมรับว่าในปัจจุบันมีภาวะของฟองสบู่เกิดขึ้นจริง แต่เป็นฟองสบู่เล็ก ๆ เท่านั้น และเป็นสถานการณ์ที่ไม่น่าห่วงอะไร เพราะหลังจากที่เศรษฐกิจฟื้นตัวเต็มที่ ภาวะโอเวอร์ซัพพลายนี้ก็จะถูกดูดซับออกไปจากกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นเอง ส่วนสถานะทางการเงินของผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ก็ไม่ได้อิงเงินกู้จากธนาคารพาณิชย์เพียงแหล่งเดียวเท่านั้น มีแหล่งเงินทุนที่หลากหลาย หากจะเกิดปัญหาขึ้น ผลกระทบที่มีกับธนาคารพาณิชย์ก็จะไม่รุนแรงเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในอดีต
ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งก็มองว่าภาวะโอเวอร์ซัพพลายในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ก็เป็นแต่เพียงแค่บางพื้นที่หรือบางเซกเมนท์เท่านั้น เช่น คอนโดมิเนียมที่อยู่ห่างออกไป หรือคอนโดมิเนียมที่มีราคาต่ำ ส่วนที่อยู่อาศัยระดับกลางถึงบน คอนโดมิเนียมหรู รวมไปถึงบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ยังขายดีอยู่ จึงมีการวิเคราะห์กันว่าภาวะโอเวอร์ซัพพลายไม่ได้เกิดจากไม่มีกำลังซื้อ แต่เกิดจากการที่ผู้ประกอบการคอนโดราคาต่ำหรือที่อยู่ชานเมืองเร่งสร้างออกมามากเกินความต้องการมากกว่า อีกทั้งสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่มีการปล่อยโดยธนาคารพาณิชย์ก็มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ปรับคาดการณ์เป้าสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ปี 2560 จากโต 7% เหลือ 5.5%
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย โดยผู้บริหารงานวิจัย น.ส.กาญจนา โชคไพศาลศิลป์ ได้ออกมาเปิดเผยถึงผลการวิจัยแนวโน้มสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยว่ามีการเติบโตในอัตราที่ชะลอตัวลง สำหรับปี 2560 นี้เดิมมีการตั้งเป้าหมายว่าสินเชื่อที่อยู่อาศัยจะเติบโตได้ถึง 7% แต่ล่าสุดก็ได้มีการปรับคาดการณ์สินเชื่อลงเหลือเพียงแค่ 5.5% เท่านั้น เหตุผลก็เป็นเพราะยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยมีการหดตัวอย่างต่อเนื่อง เปรียบเทียบตัวเลขตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันยอดโอนลดลงไปกว่า 11-14% แล้ว การเติบโตในปีที่ผ่านมาถือว่าดีเพราะมีมาตรการจากภาครัฐช่วยกระตุ้นด้วย ส่วนปีนี้การเติบโตลดลงเป็นผลจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ยังไม่เต็มที่ทำให้มีผลกับกำลังการซื้อบ้านของผู้บริโภคด้วย อีกทั้งหนี้เอ็นพีแอลยังมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นทำให้ธนาคารพาณิชย์ยังคงต้องระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยด้วย แม้ว่าสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยจะมีการเติบโตในอัตราที่ชะลอตัวลงก็ตาม แต่ก็ยังนับว่าเป็นสินเชื่อที่มีการเติบโตดีกว่าสินเชื่อประเภทอื่น ๆ เป็นสินเชื่อหลักที่ทำให้ตัวเลขสินเชื่อรายย่อยของธนาคารพาณิชย์มีการเติบโตได้ในปีปัจจุบัน
ธ.ซีไอเอ็มบีไทย วางเป้าปล่อยสินเชื่อโต 10% ปีนี้ ขยายโปรโมชั่นดอกเบี้ย 3.3% ต่อถึงสิ้นปี
ด้านธนาคารซีไอเอ็มบี โดยนายอดิศร เสริมชัยวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจรายย่อย ได้ออกมาเปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า ครึ่งปีแรกสินเชื่อที่อยู่อาศัยถือว่าเติบโตได้ดี ดีที่สุดในสินเชื่อรายย่อยทุกประเภท เชื่อว่าเป้าการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยของปีนี้น่าจะทำได้ตามที่วางไว้คือที่ 10% แต่ก็ยอมรับว่าการแข่งขันปล่อยสินเชื่อบ้านในช่วงครึ่งปีหลังจะดุเดือดรุนแรงมากขึ้น กลยุทธ์ครึ่งปีหลังของแบงก์จะขยายเวลาโปรโมชั่นดอกเบี้ยพิเศษ 3.3% ออกไปจนถึงสิ้นปี ลูกค้าที่มีฐานรายได้สูงจะมีการแข่งขันลดดอกเบี้ยให้มาก มีหลายรายที่ได้รับดอกเบี้ยต่ำกว่า 3% ต่อปีเลยทีเดียว แม้จะไม่มีการออกเป็นโปรโมชั่นรวม แต่ก็มีการเจรจาให้กับลูกค้าเป็นกรณีพิเศษ
นับว่าความต้องการที่อยู่อาศัยยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าที่มีฐานรายได้สูง ทำให้แต่ละธนาคารต้องงัดกลยุทธ์มาแข่งขันกันอย่างเต็มที่มากขึ้นแน่นอนในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ดังนั้นเราน่าจะได้เห็นอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่น่าดึงดูดใจมากขึ้น แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยที่แบงก์ประกาศกันจะสูงกว่า 3% ต่อปีก็ตาม แต่ในเบื้องลึกเบื้องหลังสำหรับลูกค้าชั้นดี ธนาคารบางแห่งยอมให้มีการลดดอกเบี้ยลงมาในระดับต่ำกว่า 3% ต่อปีเลยทีเดียว
แหล่งอ้างอิงข้อมูล