เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา หมายความว่าทุก ๆ การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวของเราจะมีเพียงแค่ประะกันภาคบังคับอย่าง พ.ร.บ.รถยนต์คงไม่เพียงพอ เพราะพ.ร.บ.นั้นดูแลเพียงค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งพ.ร.บ.นั้นคุ้มครองแค่ซ่อมคน แต่ไม่คุ้มครองค่าซ่อมรถยนต์ รวมทั้งไม่คุ้มครองกรณีเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนเหมือนกับประกันภาคสมัครใจ หรือประกันรถยนต์
1. ประกันรถยนต์จะช่วยคุ้มครองเมื่อเกิดอุบัติเหตุรถชน
แน่นอนว่า ประกันรถยนต์ทุกประเภทมีไว้ดูแลเหตุการณ์รถชนรถเป็นหลักซึ่งคุ้มครองทั้งรถเรา และรถคู่กรณี โดยให้ความคุ้มครองตามกรมธรรม์ ได้แก่
- ประกันรถยนต์ชั้น 1 ให้ความคุ้มครองมากที่สุด ราคาแพงที่สุด คุ้มครองทุกกรณีไม่ว่าจะชนรถ หรือชนสิ่งของอื่น ๆ ที่ไม่ใช่รถยนต์ก็คุ้มครอง พูดง่าย ๆ ว่า เคลมได้ทุกการชน
- ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ให้ความคุ้มครองเทียบเท่าประกันชั้น 1 แต่มีเงื่อนไขคือต้องระบุคู่กรณีได้ หมายความว่า ต้องบอกป้ายทะเบียนได้ว่าคู่กรณีเป็นใคร
- ประกันรถยนต์ชั้น 3+ ให้ความคุ้มครองซ่อมรถเราให้เฉพาะกรณีที่ระบุคู่กรณีได้ เหมาะกับรถที่ไม่ค่อยใช้งาน หรือรถยนต์อายุตั้งแต่ 4-15 ปีขึ้นไป
2.หากซื้อประกันรถยนต์จะมีเจ้าหน้าที่เคลมช่วยเจรจาหากเกิดอุบัติเหตุ
อุ่นใจทุกเหตุการณ์หากเกิดอุบัติเหตุขึ้น ! คุณสามารถโทรหาเจ้าหน้าที่ประกันภัยมาที่เกิดเหตุ และช่วยเจรจากับคู่กรณี ซึ่งจะช่วยให้เราต่อรองได้ง่ายขึ้น เพียงบอกรายละเอียดข้อมูลอุบัติเหตุ ว่าเกิดเหตุอย่างไร ที่ไหน เมื่อไหร่ ความเสียหายเป็นอย่างไร และมีคนบาดเจ็บจากเหตุการณ์หรือไม่ (ตรงนี้สำคัญต้องรีบบอก) พร้อมกับระบุข้อมูลส่วนตัว เลขที่กรมธรรม์ พร้อมกับใบบันทึกประจำวันถ้ามีการแจ้งความนะครับ ซึ่งเจ้าหน้าที่ผู้รู้จริงจะมาดูแลคุณเอง
3. ประกันรถยนต์ดูแลค่ารักษาเมื่อเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์
อย่างที่บอกว่าประกันรถยนต์ช่วยดูแลครอบคลุมความรับผิดชอบต่อคู่กรณี ทั้งชีวิตและทรัพย์สิน เราและคู่กรณี เช่น ช่วยจ่ายรักษาพยาบาล นอกเหนือจากความคุ้มครองของพ.ร.บ. หรือสูญเสียชีวิตที่เกินจากความคุ้มครองของพ.ร.บ.จากการรักษาแบบต่อเนื่องที่ต้องใช้ระยะเวลา และค่าซ่อมแซมรถยนต์ตามทุนประกัน
4. ประกันรถยนต์จะช่วยประกันตัวผู้ขับขี่หากเกิดคดี
ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุรถชนและมีผู้เสียชีวิตนที่เกิดเหตุ ถือเป็นคดีอาญาที่จะต้องส่งฟ้องศาล หากคุณไม่มีประกันรถยนต์คุณจะต้องดำเนินการตามกฎหมายด้วยตัวเองและจำต้องควักเงินของคุณเพื่อประกันตัวสู้คดี แต่ถ้าคุณมีประกันรถยนต์บริษัทประกันที่ดูแลคุณจะช่วยเรื่องการประกันตัวผู้ขับขี่ตามทุนประกันที่เลือกไว้
และทั้งหมดนี้เป็นเหตุผลดี ๆ ที่เราต้องมีประกันรถยนต์ติดรถไว้ ถึงแม้ว่าจะเคลมหรือไม่ ? ประกันรถยนต์ก็ช่วยดูแลรถยนต์ ดูแลค่ารักษาพยาบาล และดูแลคู่กรณีของเราได้เป็นอย่างดี พร้อมกับเทคแคร์คุณทุกเหตุการณ์ล่ะครับ
ขอบคุณข้อมูล Frank.co.th