สำหรับวันนี้เรื่องราวดีๆที่เรานั้นจะหยิบมาอัพเดตกันเราจะมาพูดถึงเรื่องราวเกี่ยวกับ การเงิน กับ การเรียน และสภาพความเป็นอยู่ของเด็กนักเรียนสมัยนี้การเรียนในสมัยนี้ ซึ่งเชื่อว่าพ่อแม่หลายๆคนนั้นต้องพบกับปัญหาค่าเทอมแพงๆ ของลูก และต้องเข้าใจดีว่า ค่าเสื้อผ้าค่าเรียนพิเศษหรือค่าใช้จ่ายต่างๆเกี่ยวกับการเรียนลูกนั้นมันค่อนข้างแพงและก็เป็นปัญหากับพ่อแม่หลายๆท่าน
สำหรับวันนี้เราจะมาแนะนำเทคนิคการสอนลูกของท่านใหม่ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วท่านไม่จำเป็นจะต้องมานั่งเครียดเลย เพียงแค่บริหารจัดการชีวิตตัวเอง และบริหารเงินตัวเองให้เป็นสอนลูกให้เป็นก็พอ อย่างเช่น เรื่องการเรียนพิเศษจริงๆแล้วนั้นมันอาจจะไม่จำเป็นกับชีวิตด้วยซ้ำ คุณครูบางท่านพยายามให้เด็กๆนั้นต้องเรียนพิเศษเพื่ออะไร?? ค่าเรียนก็แพง พ่อแม่บางท่านต้องให้ลูกไปติวเตอร์ เพื่ออะไร?
ซึ่งจริงๆแล้ว หลักสูตรที่เราอยากจะให้ท่านสอนลูก คือ หลักสูตรเดียวเลยค่ะที่รวบรวมเอาทุกๆวิชาเอาไว้ และใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน หลักสูตรการใช้ชีวิตวิชาเอาตัวรอดในสังคม หลักสูตรนี้ ต่อให้ค้นหาทั่วหล้า ใต้แผ่นดินไหนก็ไม่มีทางเจอโรงเรียนหรือมหาลัยไหนสอนแน่นอนเพราะเป็นหลักสูตรที่เรานั้นแนะนำให้กับท่านที่อ่านบทความนี้เท่านั้นนำไปใช้สอนลูก
บางที การใช้เงินไปกับการเรียนของลูกมากไป เสี่ยงต่อการเป็นปัญหาต่อสภาพการเงินอย่างมากเพราะทุกๆวันนี้ สถานภาพ ด้านค่าใช้จ่ายก็มีมากพอดูอยู่แล้วถ้าประหยัดได้ก็ควรจะประหยัด ถ้าพยายามเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง ถ้าหาเพิ่ม และเก็บออมได้ควรรีบทำ ถ้าหากจะให้ลูกเรียนพิเศษคุณสอนหนังสือลูกอยู่บ้านก็ได้ เพราะว่าลูกของคุณนั้นอาจจะอยากให้พ่อแม่ที่อยู่ในบ้านนั้นรับบทเป็นคุณครูที่แสนน่ารักคอยดูแลตัวเขาเองก็ได้ เด็กๆหลายๆคนนั้นมีความปรารถนาอยากจะให้พ่อแม่นั้นสอนการบ้านให้อย่างมาก ถึงแม้ว่าบางทีนั้นแทบจะไม่มีเวลาก็เถอะเพราะฉะนั้น เอาเวลามาให้ลูกๆบ้างโดยการสอนการบ้านเขา เรียนพิเศษก็จะประหยัดไปได้เยอะ
สอนเรื่องที่เขาควรรู้ สอนเรื่องที่เขาจำเป็นจะต้องเอาตัวรอดในสังคมใบนี้ เอาตัวรอดจากหน้ากากของสังคม จากสภาพของสังคม จากสิ่งไม่ดีของสังคม จากประเภทของคนในสังคมให้ได้ สมัยนี้คนที่หน้าไหว้หลังหลอกมีเยอะหรือคนที่พยายามเสแสร้งนั้นมีเยอะ คนที่พยายามหลอกลวงเองก็มีเยอะเช่นกันเพราะฉะนั้นถ้าสอนลูกให้เอาตัวรอดจากสังคมได้ก็เป็นเรื่องดี
ลูกต่อให้เรียนสูงๆจบมาพ่อแม่หลายๆคนนั้น มักจะเลือกเส้นทางให้ลูกโดยไม่ถามตัวของเด็กเองจบมาอยากเป็นอะไร อยากจะทำงานอะไร ซึ่งในความเป็นจริงแล้วนั้น คำถามนั้นในตอนเด็กไม่มีใครสามารถทำได้จริงหรอกในโลกของความเป็นจริง ในวัยเด็กเชื่อว่าทุกๆคนนั้นคงจะถูกครูอาจารย์ถามบ่อยๆครั้งว่าโตขึ้นหนูอยากเป็นอะไรจ๊ะ โตขึ้นอยากจะเป็นอะไร มันก็ได้แค่อยากในช่วงวัยเด็ก แต่พอโตมาก็เริ่มรู้ว่าจบมาจะทำอะไรได้นอกจากพนักงานบริษัท ทำงานเงินเดือน บอกว่าอยากเป็นแพทย์ %ของผู้ที่มุ่งไปสู้เป้าหมายวัยเด็กนั้นมีน้อยมาก เพราะว่าความสามารถไม่ถึงและด้วยตัวเองไม่มีปัญญาทำตามความฝันถึงขนาดนั้นต่อให้บางคนนั้นดิ้นรนเพื่อให้ได้เป็นก็เถอะ
ทุกวันนี้คนที่เรียนจบมาส่วนใหญ่ก็มักจะเลือกการทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนเพราะเรียกได้ว่าเป็นอาชีพที่ ทำเงินได้มั่นคง และ สามารถทำเงินได้ระยะยาว มีเงินทุกเดือน มั่นคงมีกินมีใช้ไม่ต้องดิ้นรน เหมือนกับการทำงานฟรีแลนด์ แต่เงินมันก็ตายตัวอย่างว่าไม่มีขึ้นไม่มีลงถึงจะมีขึ้นก็ต้องรอเงินเดือนโบนัสช่วงปลายปีหรือว่าจะต้องให้ตัวเองนั้นพยายามเอาหน้าและทำดีเพื่อให้ได้เลื่อนตำแหน่งเลื่อนขั้น มีเงินเดือนสูงขึ้น เป็นต้น
การทำงานและหาเงินในทุกๆวันนี้เต็มไปด้วยความยากลำบากกว่าจะหาเงินมาได้แต่ละบาทแต่ละสตางค์มันค่อนข้างเหนื่อย บางคนนั้นทำงานที่ตัวเองไม่อยากทำและไม่ได้รัก ก็ต้องฝืนใจยอมทำบนโลกใบนี้มีคนจำนวนมากที่ทำงานที่ตัวเองนั้นไมได้รัก และคิดอยากจะทำแต่เพราะว่ามันกำหนดไม่ได้หรือไม่ได้ลองกำหนดชะตาชีวิตของตัวเองมาตั้งแต่แรกแล้วต่างหาก เวลาจะมานั่งเริ่มรีชีวิตของตัวเองใหม่ให้ตรงตามเป้าหมายมันก็ค่อนข้างยาก
เพราะฉะนั้น ควรจะรู้จักรีเป้าหมายของตัวเอง รีชีวิตตังเองซะใหม่ อยากจะเป็นอะไรในชีวิตนี้จริงๆแล้ว อยากจะทำงานอะไร อยากจะเป็นเจ้าของธุรกิจ อยากจะเปิดร้านขายยา ขายอาหารของตัวเอง อยากจะเป็นเจ้าของธุรกิจพันล้าน อยากจะมีเงินใช้สบายๆ อยากจะเป็นนักเขียน นักวาดการ์ตูนศิลปิน นักวิทยาศาสตร์ เดินตามความฝันของตัวเองให้ได้ค่ะ ถึงแม้ว่ามันจะยากก็ต้องฉีกกฎความฝันของตัวเองด้วย ไม่ใช่เดินตามทางเลือกแบบคนอื่นแบบที่คนอื่นนั้นสร้างมาต้องทำแบบนั้นแบบนี้ เดินไปตามทางข้างหน้า
ลองคิดดูว่าถ้าเราเดินตามคนอื่น ตามเพื่อนตามฝูง และเกิดทางข้างหน้ามีตะปูโรยเอาไว้เป็นทางยาว การที่เดินตามกันมาต้องเดินเหยียบตะปูไปด้วยกันทั้งหมดเลยหรอ ถ้าเป็นไปได้เลือกทางเดินของเราเองเสียดีกว่าอย่างน้อยๆถ้าเจ็บก็เจ็บคนเดียว และก็ได้บทเรียนแบบตัวเราเองคนเดียว เรียนรู้มากกว่าคนอื่น รู้มากกว่าคนอื่น และมีอนาคตเร็วกว่าคนอื่นๆ