กองทุนน่าลงทุน ผลตอบแทนดีประจำปี 2567
ทางออกสำหรับผู้ที่ไม่มีทุนมาก และไม่รู้ว่าจะลงทุนกับอะไร เชื่อเลยว่าการลงทุนที่ว่ายากแล้ว การมีเงินสำหรับการลงทุนนั้นยากกว่า เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจในปัจจุบัน ประชาชนต้องแบบรับรายจ่ายที่มากกว่ารายรับ ดังนั้นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ผู้ที่ไม่กล้ารับมือความเสี่ยงในการลงทุน กองทุน จึงถือได้ว่าเป็นทางออกสำคัญ สำหรับผู้ที่ต้องการการลงทุนที่มีความเสี่ยงน้อย การเลือกลงทุนในกองทุนรวม สิ่งหนึ่งที่นักลงทุนต้องให้ความสำคัญนั่นคือการศึกษาสภาวะตลาดควบคู่กับการคัดเลือกกองทุนที่ให้โอกาสทำกำไร โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจโลกอยู่ท่ามกลางความผันผวน
วันนี้เราจึงขอแนะนำ กองทุนน่าลงทุน ผลตอบแทนดีประจำปี 2567 เพื่อเป็นทางออกของใครหลาย ๆ คนที่ต้องการการลงทุน ลดความเสี่ยงต่างๆ จากปัญหาเศรษฐกิจ โดยจะมีด้วยกันดังนี้
KT-VIETNAM-A
กองทุนรวมตราสารทุน ลงทุนในหน่วยลงทุน และ/ หรือหุ้นเวียดนามที่มีศักยภาพในการเติบโต ครอบคลุมหุ้นในตลาดทุนเวียดนาม และหุ้นเวียดนามในตลาดทุนต่างประเทศ
KT-HEALTHCARE-A
กองทุนรวมหมวดอุตสาหกรรม เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทที่เกี่ยข้องกับวิทยาศาสตร์สุขภาพ
KT-CHINA-A
กองทุนรวมตราสารทุน เน้นลงทุนในหุ้นจีน เพื่อโอกาสทำกำไรจากเศรษฐกิจจีน ซึ่งเป็นหนึ่งในมหาอำนาจของโลก
KT-mai
กองทุนรวมตราสารทุน เน้นลงทุนหุ้นไทยในตลาด MAI ประกอบด้วยหุ้นของธุรกิจขนาดกลางและเล็ก ที่โอกาสเติบโตสูง
KT-ENERGY
กองทุนรวมหมวดอุตสาหกรรม เน้นลงทุนในหุ้นของธุรกิจสำรวจและจัดจำหน่ายพลังงาน รวมทั้งพลังงานทดแทนต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งมีโอกาสเติบโตจากความต้องการใช้งานพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น
KT-OIL
กองทุนทรัพย์สินทางเลือก ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ West Texas Intermediate (WTI) ที่สะท้อนการเปลี่ยนแปลงมูลค่าของน้ำมันดิบ
KTAM SET Banking ETF Tracker (EBANK)
กองทุนรวมอีทีเอฟ กองทุนรวมที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มธนาคาร (SET banking Sector Index)
KTAM SET Energy ETF Tracker (ENY)
กองทุนรวมอีทีเอฟ กองทุนรวมที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค (SET Energy & Utilities Sector Index)
KTMSEQ
กองทุนรวมตราสารทุน เน้นคัดสรรหุ้นไทยไซส์เล็ก ที่มีแนวโน้มเติบโตสูงทั้งจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และตลาด MAI
บอกได้เลยว่า จากความผันผวนทางเศรษฐกิจในปี 2022 และความไม่แน่นอนของปี 2023 การกระจายความเสี่ยงในหลายสินทรัพย์ถือเป็นกลยุทธ์สุดคลาสสิกที่นักลงทุนทั้งหลายเลือกใช้เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนกองทุนรวม และปั้นพอร์ตให้เติบโตในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นการเลือกลงทุนในประเทศมหาอำนาจ ควบคู่กับประเทศตลาดเกิดใหม่มาแรง หุ้นในกลุ่มเมกะเทรนด์ที่แนวโน้มทำกำไรดี สินค้าโภคภัณฑ์
ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต กองทุนอาจลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรมและประเทศที่ลงทุน จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย