รวมธุรกิจที่น่าลงทุนปี 2566 ทำแนวไหนปังสุด ไปดูกัน
สำหรับคนที่ต้องการจะเริ่มต้นทำธุรกิจ หรือแตกไลน์ขยายธุรกิจใหม่ แต่ยังไม่รู้ว่าจะทำธุรกิจอะไรดี หรือคนที่ทำธุรกิจอยู่แล้ว จะปรับตัวอย่างไรกับธุรกิจเดิม ในวันนี้เราได้รวบรวมประเด็นที่น่าสนใจอย่าง แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2566 ในเบื้องต้น เพื่อที่จะได้ใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจลงทุน รวมถึง การคาดการณ์ธุรกิจดาวรุ่ง และธุรกิจที่อาจต้องเลี่ยงไปก่อน สำหรับในปี 2566 นี้วันนี้เราได้รวมธุรกิจที่น่าลงทุนปี 2566 มาไว้ให้แล้ว โดยมีด้วยกันดังนี้
ธุรกิจท่องเที่ยว
ความน่าสนใจอยู่ที่การเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกของไทย โดยเฉพาะการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีนซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก สำหรับการท่องเที่ยวเป็นธุรกิจที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลักของไทยมาโดยตลอด สำหรับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศในปี 2565 อยู่ที่ 10 ล้านคน ด้านศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้คาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะมาท่องเที่ยวไทยในปี 2566 ประมาณ 25.5 ล้านคน โดยคาดว่าอัตราการเข้าพักแรมเฉลี่ยปี 2566 จะมีการขยับเพิ่มขึ้นเป็น 52% – 60% ของจำนวนห้องพัก ส่วนรายได้จากร้านอาหารอาจจะเติบโตประมาณ 2.7% – 4.5% จากปีที่ผ่านมา
ธุรกิจบริการสุขภาพ
ความน่าสนใจมาจากกระแสการใส่ใจสุขภาพของคนรุ่นใหม่ ที่เน้นให้ความสำคัญในเชิงป้องกันมากขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายในการรักษาที่สูง ปัจจัยต่อมาจากจำนวนผู้สูงอายุที่เพิ่มมากขึ้น ปัจจุบันไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ และปัจจัยสุดท้ายมาจากการที่ไทยได้ชื่อว่าเป็น “ศูนย์บริการด้านสุขภาพ” (Medical Service Hub) คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติหลั่งไหลมาใช้บริการด้านสุขภาพเป็นจำนวนมาก มีอัตราการขยายตัวประมาณ 6.5% จากปีที่ผ่านมา
ธุรกิจรักษ์โลก
ความน่าสนใจของธุรกิจนี้มาจากกระแสรักษ์โลกในปัจจุบัน อีกทั้ง ยังได้รับการส่งเสริมจากภาครัฐที่มุ่งเน้น “การส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนและเศรษฐกิจสีเขียว” โดยการออกมาเป็นแผนยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG พ.ศ.2564 – 2569 สำหรับธุรกิจที่น่าสนใจ เช่น รถยนต์พลักงานไฟฟ้า, พลังงานแสงอาทิตย์ (โซล่าร์รูปท็อป), กิจการตรวจสอบและให้คำปรึกษาด้านการปล่อยก๊าซเรือนกระจก, พลาสติกรีไซเคิลหรือชีวภาพ, อุปกรณ์เครื่องใช้ประหยัดพลังงาน เป็นต้น ด้านศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่ายอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่ล้วนจะเพิ่มจาก 12,000 คันในปี 2565 เป็น 20,000 – 25,000 คันในปี 2566
ธุรกิจ Social Media และ Online Entertainment
ประชาชนรับชมภาพยนตร์และรายการต่างๆ ผ่าน Streaming Platform มากขึ้น การเพิ่มขึ้นของช่องทางในการสื่อสาร โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ ที่สามารถเข้าถึงได้ตลอด 24 ชม. การเพิ่มขึ้นของการโปรโมทโฆษณาผ่าน Social Influencer อาทิเช่น Net-Idol หรือ Youtuberธุรกิจขนาดเล็ก-ใหญ่ หันมาโปรโมทสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น พฤติกรรมการรับชมสื่อผ่าน Application เพิ่มขึ้น พฤติกรรมการเล่น Social Media เพิ่มขึ้น กระแสเทคโนโลยีเมตาเวิร์สที่เริ่มเข้ามามีบทบาทกับวงการสื่อและสิ่งบันเทิง
E-Commerce
ธุรกิจ E-commerce เป็นธุรกิจการค้าปลีกออนไลน์ ผ่านช่องทางการค้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มเพื่อการค้า เช่น Shopee, Lazada และ Kaidee เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีช่องทางการขายของผ่านสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) อย่าง Facebook, Instagram และ Twitter รวมถึงการทำ Affiliate Link หรือลิงก์ช่วยขายของแพลตฟอร์ม E-commerce ที่สามารถทำเป็นงานได้อีกด้วย