ประนอมหนี้ บัตรเครดิต ยังไง ให้ไม่เสียประวัติ?
รู้หรือไม่ หนี้บัตรเครดิตกำลังกลายเป็นปัญหาของใครหลายคน สาเหตุมาจากการใช้บัตรเครดิตเกินวงเงิน การใช้จ่ายเกินตัว หรือเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่ทำให้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ทันตามกำหนด ส่งผลให้ลูกหนี้ต้องแบกรับภาระดอกเบี้ยที่สูง และอาจถูกฟ้องร้องดำเนินคดีได้การประนอมหนี้บัตรเครดิต จึงถือเป็นหนึ่งในวิธีแก้หนี้ที่จะช่วยให้สามารถชำระหนี้ได้โดยไม่เสียประวัติทางการเงิน แล้วประนอมหนี้ บัตรเครดิต ยังไง ให้ไม่เสียประวัติ? สำหรับใครที่กำลังมองหาวิธีประนอมหนี้ บัตรเครดิต 2566 ที่ได้ผล และมีประสิทธิภาพมากที่สุด สามารถอ่านคำแนะนำ และข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับการประนอมหนี้ในบทความนี้ได้ รับรองว่าคุณจะได้รับความรู้และสามารถจัดการกับปัญหาทางการเงินได้ดียิ่งขึ้น
ประนอมหนี้ บัตรเครดิต ยังไง 2566
ก่อนอื่น เราควรประเมินความสามารถในการชำระหนี้ โดยควรประเมินความสามารถในการชำระหนี้ของตนเองให้สอดคล้องกับรายได้และรายจ่าย นอกจากนี้ เราควรขอยืดระยะเวลาการชำระหนี้ให้นานพอที่จะชำระหนี้ได้หมดโดยไม่กระทบต่อสภาพคล่องทางการเงิน รวมถึงติดต่อขอลดอัตราดอกเบี้ยกับธนาคารให้ต่ำลง เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น หรือติดต่อหน่วยงาน คลินิกแก้หนี้ ที่เว็บไซต์ https://www.debtclinicbysam.com/ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลือดการติดต่อและขอประนอม หรือผ่อนชำระหนี้ให้นานยิ่งขึ้นกัยธนาคาร จะช่วยให้หนี้ของคุณลดลงได้เร็วยิ่งขึ้น
ขั้นตอนการประนอมหนี้บัตรเครดิตด้วยตัวเอง
- ติดต่อเจ้าหนี้ : สิ่งแรกที่ต้องทำคือติดต่อเจ้าหนี้ เพื่อขอเข้าพบและสอบถามวิธีประนอมหนี้ สำหรับคนที่เป็นหนี้บัตรเครดิต หนี้ผ่อนบ้าน หนี้ผ่อนรถกับธนาคาร ให้ติดต่อกับธนาคารที่กู้สินเชื่อ โดยระบุไปเลยว่าจะขอทำการประนอมหนี้
- เตรียมเอกสารให้พร้อมในการประนอมหนี้ : ต้องมีการวางแผนชำระหนี้ใหม่ โดยใช้เอกสารในการยืนยันแผนการชำระหนี้ใหม่ด้วย ซึ่งเอกสารที่ต้องใช้ก็จะแตกต่างกันไปในแต่ละสถาบันการเงิน ดังนั้นต้องสอบถามเอกสารที่จะต้องใช้ว่ามีเอกสารอะไรบ้าง เพื่อความสะดวกรวดเร็ว
- วางแผนชำระหนี้แผนชำระหนี้ : คือการกำหนดการชำระหนี้ ที่นำเข้าไปปรึกษากับทางธนาคารในตอนที่เข้าไปขอประนอมหนี้ ซึ่งในส่วนของแผนชำระหนี้ ต้องมีการระบุว่าจะเปลี่ยนจำนวนการชำระหนี้ต่อเดือนเท่าไหร่? จะขอยืดระยะการชำระหนี้ไปอีกกี่ปี ซึ่งต้องวางแผนตามความสามารถจริง เพราะถ้าเกิดเหตุการณ์ผิดนัดชำระหนี้ในระหว่างการประนอมหนี้อีกอาจทำให้เราเจรจาอีกครั้งได้ลำบาก และอาจเสียค่าธรรมเนียมผิดนัดชำระหนี้ด้วย
- เจรจากับเจ้าหนี้ : เมื่อเตรียมเอกสารและแผนชำระหนี้เรียบร้อยแล้ว ก็สามารถนัดหมายเพื่อเจรจากับเจ้าหนี้ โดยควรเตรียมเอกสารและแผนชำระหนี้ให้พร้อมเพื่อนำเสนอกับเจ้าหนี้
- ลงนามในข้อตกลง : เมื่อเจรจากับเจ้าหนี้ได้ข้อตกลงเรียบร้อยแล้ว จะต้องลงนามในข้อตกลงประนอมหนี้ ซึ่งข้อตกลงนี้จะระบุถึงรายละเอียดต่าง ๆ เช่น ยอดหนี้ที่ชำระ ระยะเวลาการชำระหนี้ อัตราดอกเบี้ย เป็นต้น
- สมัครเข้าร่วมโครงการคลินิกแก้หนี้ : สามารถขอคำแนะนำ และสมัครเข้าร่วมโครงการคลินิกแก้หนี้ ได้ทางเว็บไซต์ https://www.debtclinicbysam.com/
ข้อดี ประนอมหนี้ บัตรเครดิต
- ช่วยให้ลูกหนี้สามารถชำระหนี้ได้ โดยไม่เสียประวัติทางการเงิน
- ช่วยลดภาระดอกเบี้ยที่สูง
- ผ่อนคลายความเครียดจากการเป็นหนี้
- ทำให้สามารถจัดการบริหารเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ข้อเสีย ประนอมหนี้ บัตรเครดิต
- เสียค่าธรรมเนียมในการประนอมหนี้
- อาจต้องยืดระยะเวลาการชำระหนี้ออกไปนานขึ้น
- ทำให้ยอดหนี้รวมเพิ่มขึ้น เนื่องจากต้องจ่ายดอกเบี้ยเพิ่ม
- ใช้เวลาในการดำเนินขั้นตอนประนอมหนี้ต่าง ๆ ปัจจัยเหล่านี้อาจทำให้คุณเกิดความเครียด และความกังวลโดยไม่รู้ตัวได้
ไม่จ่ายหนี้บัตรเครดิต จะเป็นยังไง?
- การผิดนัดชำระหนี้บัตรเครดิต : การชำระหนี้ไม่ตรงตามกำหนดชำระ หรือชำระหนี้ไม่ครบตามจำนวนที่ระบุไว้ในใบแจ้งหนี้ โดยหากผิดนัดชำระหนี้บัตรเครดิต 1 ครั้ง เจ้าหนี้จะเรียกเก็บดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งจะมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าดอกเบี้ยปกติ 2-3 เท่า ดังนั้น หากผิดนัดชำระหนี้บัตรเครดิตบ่อย ๆ ก็อาจทำให้ยอดหนี้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
- การถูกระงับการใช้บัตรเครดิต : หากผิดนัดชำระหนี้บัตรเครดิตติดต่อกันหลายครั้ง เจ้าหนี้อาจระงับการใช้บัตรเครดิตชั่วคราว ซึ่งจะทำให้ไม่สามารถใช้บัตรเครดิตในการชำระค่าสินค้าหรือบริการได้
- การถูกฟ้องร้องดำเนินคดี : หากผิดนัดชำระหนี้บัตรเครดิตเป็นระยะเวลานาน เจ้าหนี้อาจฟ้องร้องดำเนินคดีกับลูกหนี้ ซึ่งอาจส่งผลให้ลูกหนี้ต้องเสียเงินค่าปรับ ค่าทนายความ และอาจถูกยึดทรัพย์สินเพื่อชำระหนี้
- ผลกระทบต่อประวัติเครดิต : การผิดนัดชำระหนี้บัตรเครดิตจะส่งผลเสียต่อประวัติเครดิตของลูกหนี้ ซึ่งอาจทำให้ลูกหนี้ไม่สามารถขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินอื่น ๆ ได้ในอนาคต
ไม่จ่ายหนี้บัตรเครดิต ถูกฟ้องร้องไหม
คำตอบคือ “ถูกฟ้องร้องได้” แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกคนที่ไม่จ่ายหนี้บัตรเครดิตจะถูกฟ้องร้องเสมอไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น
- ยอดหนี้ไม่สูงมาก เจ้าหนี้อาจไม่ฟ้องร้อง แต่อาจระงับการใช้บัตรเครดิต หรือเรียกเก็บดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้แทน
- หากผิดนัดชำระหนี้เพียงไม่กี่ครั้ง และไม่ติดต่อเจ้าหนี้เพื่อเจรจาชำระหนี้ เจ้าหนี้อาจไม่ฟ้องร้อง แต่อาจส่งหนังสือทวงถามหนี้
- ถ้าลูกหนี้มีประวัติการชำระหนี้ที่ดี เจ้าหนี้อาจไม่ฟ้องร้อง แต่อาจพิจารณาให้ผ่อนชำระหนี้ หรือขอประนอมหนี้แทน
โดยทั่วไปแล้ว เจ้าหนี้จะฟ้องร้องลูกหนี้เมื่อลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้เป็นเวลานาน หรือมียอดหนี้สูง และติดต่อเจ้าหนี้เพื่อเจรจาชำระหนี้แล้ว แต่เจ้าหนี้ไม่ยินยอม โดยเจ้าหนี้จะยื่นฟ้องคดีต่อศาลแพ่ง เพื่อขอให้ศาลพิพากษาให้ลูกหนี้ชำระหนี้ หากศาลพิพากษาให้ลูกหนี้ชำระหนี้ เจ้าหนี้สามารถดำเนินการบังคับคดีเพื่อยึดทรัพย์สินของลูกหนี้เพื่อชำระหนี้ได้ เช่น ยึดบ้าน ยึดรถ ยึดเงินเดือน หรือยึดทรัพย์สินอื่น ๆ ที่มีมูลค่าเพียงพอที่จะชำระหนี้ได้ ดังนั้น หากไม่สามารถชำระหนี้บัตรเครดิตได้ทันตามกำหนด ควรติดต่อเจ้าหนี้เพื่อเจรจาชำระหนี้ หรือขอประนอมหนี้ เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุด และหลีกเลี่ยงการถูกฟ้องร้องดำเนินคดี
จากข้อมูลทั้งหมดในข้างต้น สรุปได้ว่า ประนอมหนี้ บัตรเครดิต เป็นทางเลือกหนึ่งที่สามารถช่วยให้ลูกหนี้สามารถชำระหนี้ได้โดยไม่เสียประวัติทางการเงิน อย่างไรก็ตาม ควรศึกษาข้อมูล และวางแผนอย่างรอบคอบ เพื่อให้การประนอมหนี้ประสบความสำเร็จ และไม่เสี่ยงต่อการถูกฟ้องร้องเพราะจ่ายหนี้เครดิตไม่ได้ในอนาคต