บัตรเครดิต หาย โดนขโมยไปใช้ ทำยังไงดี ขั้นตอนฉุกเฉิน เรียกคืนความปลอดภัย
บัตรเครดิต อาจช่วยให้การใช้จ่ายของเราสะดวกสบาย วางแผนการเงินได้ง่ายขึ้น แต่ก็ต้องแลกมากับการใช้งานที่ระมัดระวังเหมือนกัน เพราะหากข้อมูล หรือตัวบัตรหาย ก็มีความเสี่ยงที่เราจะสูญเงินไปด้วยเช่นกัน คำถามต่อมาคือ บัตรเครดิต หาย โดนขโมยไปใช้ ทำยังไงดี เวลาที่เราหาบัตรเครดิตไม่เจอถือเป็นช่วงเวลาฉุกเฉินที่ต้องดำเนินการให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะฉะนั้น อันดับแรกเลยต้องตั้งสติ จากนั้นจะต้องทำอะไรบ้าง ไปดูกัน
บัตรเครดิต หาย โดนขโมยไปใช้ ทำยังไงดี
สำหรับใครที่สงสัยว่าบัตรเครดิต หาย โดนขโมยไปใช้ ทำยังไงดี สิ่งแรกที่คุณต้องทำทันทีเมื่อรู้ตัวว่าบัตรเครดิต หรือบัตรเดบิตของตนเองหายก็คือการอายัดบัตร เพราะบัตรเป็นสิ่งที่เมื่อใครขโมยไปก็สามารถใช้งานได้ รูดซื้อสินค้าโดยที่ใช้ชื่อเรา คงไม่มีใครอยากให้คนอื่นใช้เงินของตัวเองฟรีๆ แน่นอน การอายัดบัตรจึงเป็นการที่เราติดต่อธนาคารเจ้าของบัตรเครดิตให้ระงับการใช้งานบัตรชั่วคราว ป้องกันไม่ให้คนที่ขโมยบัตร หรือข้อมูลภายในบัตรของเราไปสามารถนำเอาบัตรไปใช้รูดจ่ายซื้อสินค้า หรือบริการได้
วิธีอายัดบัตรเครดิตหายในประเทศไทย
- โทรหาคอลเซ็นเตอร์ของธนาคารผู้ให้บริการบัตรเครดิต ติดต่ออายัดบัตร หากใครกลัวว่าโทรหาคอลเซ็นเตอร์อาจรอสายนานเกินไป ความจริงแต่ละธนาคารจะมีเบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉินสำหรับการอายัดบัตรโดยเฉพาะ เจ้าหน้าที่สามารถติดต่อได้อย่างรวดเร็วทันใจ ไม่ต้องรอสายนาน หรือใครที่มีแอปพลิเคชัน เรายังสามารถทำรายการอายัดบัตรเครดิตบนอินเตอร์เน็ตด้วยตัวเองได้ด้วย และเมื่อหาบัตรเจอแล้วยังสามารถปลดล็อคบัตรให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติอีกต่างหาก
- แจ้งความลงบันทึกประจำวัน เป็นเอกสารหลักฐานทางราชการเพื่อยืนยันว่าบัตรของเราหายจริงในวันที่เท่าไหร่ และเวลาใด ป้องกันกรณีที่บัตรถูกขโมยไปแล้วนำเอาไปใช้จ่ายโดยที่เราไม่รู้ตัว เราสามารถใช้เก็บเป็นหลักฐานได้ว่าเราไม่ได้เป็นคนใช้บัตรเครดิตหลังจากที่มันหายไป สามารถนำเอาไปยื่นให้ธนาคารเพื่อยกเลิกยอดค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นหลังจากเราทำหายได้
- ทำบัตรเครดิตใหม่ หลังจากที่เราอายัดบัตร และแจ้งความลงบันทึกประจำวันเรียบร้อยแล้ว ต่อมาคือให้นำเอาใบบันทึกประจำวันนั้นไปยื่นกับธนาคารผู้ให้บริการบัตรเครดิตเพื่อขอออกบัตรใบใหม่ ธนาคารแต่ละเจ้าจะมีเงื่อนไขการออกบัตรใหม่แตกต่างกัน และอาจมีค่าธรรมเนียมออกบัตรใหม่ด้วย
วิธีอายัดบัตรหายในต่างประเทศ
- โทรหาคอลเซ็นเตอร์ ถึงจะอยู่ในต่างประเทศแต่เราก็ยังคงต้องติดต่อธนาคารผู้ให้บริการบัตรเครดิตในประเทศไทยอยู่ดี ทำรายการขออายัดบัตรเครดิตเหมือนกับขั้นตอนเวลาบัตรเครดิตหายในประเทศไทย
- แจ้งความกับสถานีตำรวจในพื้นที่ ไม่ว่าจะอยู่ในประเทศใดบนโลกใบนี้ คุณสามารถเดินเข้าไปยังสถานีตำรวจเพื่อขอลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐานว่าเราทำบัตรเครดิตหายได้
- ติดต่อสถานทูตไทย หากพบยอดใช้จ่ายหลังจากที่เราทำบัตรหาย และไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงต่อดี เราขอแนะนำให้ติดต่อสถานทูตไทยประจำประเทศที่คุณอยู่ได้เลย สถานทูตจะเป็นผู้ติดต่อประสานงานเพื่อให้ความช่วยเหลือแก่เรา
- ติดต่อธนาคารเพื่อทำบัตรเครดิตใบใหม่ เมื่อเดินทางกลับสู่ประเทศไทยแล้วเราจะสามารถนำเอาเอกสารหลักฐานทั้งหลายไปยื่นขอทำบัตรเครดิตใหม่กับธนาคารได้เลย
รู้หรือไม่ บัตรเครดิตหายหรือถูกขโมยเอาไปใช้ เจ้าของบัตรไม่ต้องรับผิดชอบ
เวลาบัตรเครดิตหาย เชื่อว่าหลายคนจะต้องกังวลอย่างแน่นอนว่าหากคนขโมยเอาบัตรเราไปใช้ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นหลังจากเราทำบัตรหาย ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ ในความเป็นจริงแล้วตามกฎหมาย หักบัตรเครดิตของเราหาย หรือถูกขโมยเอาไปใช้โดยไม่ชอบ ผู้ถือบัตรอย่างเราไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเหล่านั้นตามกฎหมายเลย
อ้างอิงถึงคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2840/2550 ในข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้บริการบัตรเครดิตได้ระบุชัดเจนว่าบัตรเครดิตธนาคารออกให้ และมีการสงวนไว้เฉพาะผู้ที่ถือบัตรเท่านั้น ห้ามมิให้ผู้ถือบัตรอนุญาต ยินยอม หรือนำเอาบัตรไปให้คนอื่นใช้ ไม่เช่นนั้น บุคคลอื่นที่นำเอาบัตรเครดิตของเราไปใช้จะต้องเป็นผู้ชำระค่าสินค้า และค่าบริการให้กับสถานประกอบการร้านค้า เนื่องจากเป็นการใช้บัตรเครดิตอย่างไม่ถูกต้องตามเงื่อนไข
เนื่องจาก การถูกขโมยบัตรเครดิตไปเป็นการแสดงให้เห็นว่าเราไม่ได้ยินยอม อนุญาต หรือเอาบัตรเครดิตให้คนอื่นใช้ตามที่ตกลงกันไว้ เพราะฉะนั้น ผู้ถือบัตรเครดิตจึงไม่ต้องรับผิดชอบชำระหนี้สินที่บุคคลอื่นนำเอาบัตรเครดิตของเราไปใช้นั่นเอง แต่ในกรณีที่ธนาคารเพิ่มข้อสัญญาเปิดบัตรเครดิตโดยระบุเงื่อนไขว่าเจ้าของบัตรต้องเป็นผู้รับผิดชอบชดใช้ไม่ว่าบัตรจะสูญหาย หรือถูกขโมยไปก็ตาม
อ้างอิงถึงคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1989/2552 ธนาคารฟ้องผู้ถือบัตรให้จ่ายเงิน หลังบัตรเครดิตถูกขโมยไปใช้ กรณีนี้ผู้ถือบัตรได้มีการชี้แจงให้ธนาคารทราบแล้วว่าบัตรถูกขโมยเพื่อระงับการการใช้บัตรเครดิต หนี้สินที่เกิดขึ้นก่อนแจ้งเป็นจำนวนเงินที่เกิดจากการใช้บัตรของผู้ถือบัตรที่ถูกนำไปใช้โดยมิชอบ และภาระหนี้สินเกิดขึ้นหลังผู้ถือบัตรแจ้งธนาคารให้ทราบแล้วว่าบัตรหายไม่เกิน 5 นาที ตามข้อสัญญาแล้วถือว่าผู้ถือบัตรต้องรับภาระหนี้สินที่ไม่ได้ก่อ และไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบ
แต่กรณีนี้ศาลเห็นว่าธนาคารมีหนทางสำหรับแก้ไขความเสียหาย หากธนาคารตรวจสอบพบว่าลายมือชื่อของผู้ใช้ในเซลล์สลิปไม่ตรงกับลายมือชื่อของผู้ถือบัตร โจทย์สามารถขอคืนเงินจากร้านค้าได้ และเมื่อผู้ถือบัตรขอระงับบัตรเครดิต ธนาคารต้องรีบดำเนินการโดยเร็ว เท่านี้ก็จะทราบได้แล้วว่าผู้ถือบัตรไม่ได้เป็นคนนามบัตรไปรูดใช้จ่าย
ในอีกฟากหนึ่ง ร้านค้าที่รับชำระด้วยบัตรเครดิตที่ถูกขโมยไปก็ไม่มีความระมัดระวังในการตรวจสอบลายมือชื่อบนเซลล์สลิป เพราะฉะนั้น ธนาคารจึงมีสิทธิ์เรียกเงินที่ชำระไปแล้วคืนมาจากร้านค้าได้ แทนที่จะมาเก็บจากเจ้าของบัตรเพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ศาลเห็นว่าเป็นการเอาเปรียบจำเลยแบบเกินสมควร และยังผลักภาระเกินความรับผิดชอบให้กับจำเลยผู้ถือบัตร
กรณีนี้ศาลตัดสินว่าสัญญาไม่เป็นธรรม ข้อตกลงที่ระบุว่าเจ้าของบัตรต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นหลังสูญหายจึงไม่มีผลบังคับใช้ ผู้เป็นเจ้าของบัตรไม่ต้องชำระหนี้ให้กับธนาคาร เพราะฉะนั้น ไม่ว่าในสัญญาจะระบุเงื่อนไขว่าเราต้องรับผิดชอบ แต่ในความเป็นจริงแล้วตามฎีการะบุว่าเป็นสัญญาไม่เป็นธรรม และเราไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบนั่นเอง
สรุปแล้ว บัตรเครดิตหาย หรือโดนขโมยไปใช้ ทำยังไงดี คำตอบก็คือรีบอายัดบัตรโดยด่วน ยิ่งอายัดบัตรเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งได้เปรียบมากขึ้นเท่านั้นกรณีที่มีคนขโมยบัตรเราไปใช้จนเกิดยอดขึ้นมา นอกจากนี้เรายังต้องสร้างเอกสารหลักฐานราชการเพื่อยืนยันกับธนาคารด้วยว่าค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นหลังบัตรหาย ไม่ใช่ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากตัวเรา หลังจากนั้นก็ติดต่อทำบัตรใบใหม่ เพียงเท่านี้ก็แก้ปัญหาเรียบร้อยครบทุกขั้นตอนแล้ว